แอลคาร์นิทีน เป็นสารธรรมชาติที่พบในอาหาร และร่างกายมนุษย์สามารถสังเคราะห์ขึ้นได้จากกรดอะมิโนไลซีนและเมไทโอนีน มีหน้าที่ลำเลียงกรดไขมันไปยังลำไส้ เพื่อใช้เป็นแหล่งพลังงานในร่างกายในช่วงที่ร่างกายมีการออกกำลังกายอย่างหนัก จะพบว่าแอลคาร์นิทีน สำคัญอย่างยิ่งเนื่องจากเป็นแหล่งพลังงานช่วยเร่งการฟื้นตัวของกล้ามเนื้อจากการอักเสบ ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการออกกำลังกาย
แหล่งอาหารของแอลคาร์นิทีน
แอลคาร์นิทีน พบมากในเนื้อแดง นอกจากนี้ยังพบได้จากแหล่งธรรมชาติในอาหารหลายๆ ชนิด เช่น ปลา ไก่ นม เมล็ดพืชตระกูลถั่ว ธัญพืช และผัก เช่น งาดำ อาร์ติโชค บร็อคโคลี่ หน่อไม้ฝรั่ง กระเทียม กระเจี๊ยบ แอปริคอต ข้าวโพด ข้าวโอ๊ด ข้าวไรซ์เบอร์รี่ ข้าวสาลี ลูกเดือย ถั่วเหลือง ถั่วเขียว ถั่วแขก ถั่วลิสง ปริมาณแอลคาร์นิทีน ที่ร่างกายจะได้รับจากการรับประทานอาหาร ดังเช่น สเต็กเนื้อสุก 4 ออนซ์ มี 56 – 162 มิลลิกรัม นมสด 8 ออนซ์ มี 227 มิลลิกรัม เชดดาร์ชีส 2 ออนซ์ มี 2 มิลลิกรัม ขนมปังโฮลวีต 2 ชิ้น มี 0.2 มิลลิกรัม เป็นต้น จากการศึกษาพบว่าการดูดซึมและการเผาผลาญในผู้ใหญ่ที่รับประทานอาหารที่มีเนื้อแดงและผลิตภัณฑ์จากสัตว์อื่นๆ จะได้รับแอลคาร์นิทีน ประมาณ 60 – 180 มิลลิกรัมต่อวัน แต่ในคนทานมังสวิรัติได้รับน้อยกว่ามากประมาณ 10 – 12 มิลลิกรัม เนื่องจากชาวมังสวิรัติหลีกเลี่ยงอาหารที่มีสัตว์หรือผลิตภัณฑ์จากสัตว์ทุกชนิด
ประโยชน์ที่ได้รับจากแอลคาร์นิทีน
แอลคาร์นิทีน มีประโยชน์หลายอย่าง เช่น ช่วยเพิ่มความทนทานต่อการออกกำลังกายและเพิ่มพลังงานให้แก่นักกีฬา เช่น นักวิ่งทางไกล นักว่ายน้ำ หรือนักปั่นจักรยาน ช่วยฟื้นฟูกระตุ้นการสร้างมวลกล้ามเนื้อ และป้องกันความเสียหายของกล้ามเนื้อในการออกกำลังกาย เล่นกีฬา และนักกีฬาได้เช่นกัน ช่วยลดความเหนื่อยล้าของร่างกายหลังการออกกำลังกาย ช่วยลดการสะสมของกรดแลคติคในกล้ามเนื้อ ช่วยลดน้ำหนักได้อย่างรวดเร็ว ควรต้องทำควบคู่ไปกับการรับประทานอาหารที่ดีต่อสุขภาพและการออกกำลังกายสม่ำเสมอเป็นประจำเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่สูงสุด ช่วยเพิ่มการเผาผลาญพลังงาน ลดการสะสมของไขมัน ช่วยเพิ่มการทำงานของสมอง และป้องกันความเสียหายของเซลล์สมองในผู้สูงอายุ ช่วยควบคุมอินซูลินและระดับน้ำตาลในเลือดของผู้ป่วยเบาหวานประเภทที่ 2 ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจ ช่วยลดระดับความดันโลหิตสูง ช่วยลดความเครียด ช่วยขยายหลอดเลือด ช่วยให้ระบบการไหลเวียนของเลือดดีขึ้น
การรับประทานแอลคาร์นิทีน เพื่อให้ได้ประโยชน์สูงสุดต้องอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม คือ 2 กรัมต่อวัน จะช่วยเพิ่งพละกำลังในนักกีฬา และยังช่วยให้การทำงานของกล้ามเนื้อมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ทนทานต่อการออกกำลังกาย หรือทำกิจกรรมกลางแจ้ง ส่วนการขาดแอลคาร์นิทีน อาจจะเกิดจากความผิดปกติทางพันธุกรรม หรือจากความผิดปกติบางอย่าง เช่น ไตวายเรื้อรัง หรือจากการใช้ยาปฏิชีวนะบางอย่างที่ลดการดูดซึมแอลคาร์นิทีน
เครดิตภาพจาก pixabay.com
#สุขภาพดีได้ง่ายๆ #ตัวช่วยออกกำลังกาย #แอลคาร์นิทีน