รวมเมนูอาหารคลีนเพื่อสุขภาพ ทำเองได้ง่ายๆ 

เชื่อว่าหลายคนคงทราบกันดีว่ามีสมุนไพรหลากหลายชนิดที่สามารถช่วยลดน้ำหนักได้ดีมากๆ อีกทั้งยังมีสรรพคุณช่วยปกป้องโรคต่างๆ ได้อีกด้วย ในวันนี้เราเลยจะพาทุกคนไปทำความรู้จักกับสมุนไพรที่มีสรรพคุณช่วยลดไขมันและน้ำหนักกันค่ะ ถ้าพร้อมแล้ว ไปดูกันดูกันดีกว่าว่าจะมีสมุดไพรชนิดไหนบ้าง 1.ขมิ้นชัน ในขมิ้นชันจะมีสารเคอร์คิวมิน ซึ่งสารชนิดนี้จัดเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในร่างกาย แถมยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพด้วยเช่นกัน 2.พริกไทยดำ พริกไทยดำ คือสมุนไพรที่ให้กลิ่มหอมฉุนและมีรสเผ็ดร้อน ดังนั้นมันจึงมีคุณสมบัติช่วยขับเหงื่อ แก้อาการท้องอืด ท้องเฟ้อ และช่วยให้เจริญอาหารได้ดี นอกจากนี้ในพริกไทยดำยังมีสารไพเพอร์รีน ซึ่งเป็นสารที่ช่วยเผาผลาญไขมันภายในร่างกาย พร้อมทั้งช่วยกำจัดไขมันส่วนเกินได้ดีมากๆอีกด้วย 3.กระเจี๊ยบแดงกระเจี๊ยบแดง เป็นสมุนไพรที่ช่วยลดไตรกลีเซอไรด์ ลดไขมันในเส้นเลือด และลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดี ทั้งนี้หากคุณต้องการเอากระเจี๊ยบมาทำเป็นเครื่องดื่ม ไม่ควรเติมน้ำตาลเข้าไปเด็ดขาด เพราะจะทำให้ลดประสิทธิภาพในการลดไขมันในเลือดนั่นเองค่ะ 4.กระเทียม กระเทียมคือหนึ่งในสมุนไพรที่มีส่วนช่วยลดระดับคอเลสเตอรอล ลดระดับไตรกลีเซอไรด์ในเลือด และลดระดับไขมันในเลือด ทั้งนี้ยังมีการค้นพบว่า กระเทียมมีความสามารถในการเพิ่มคอเลสเตอรอลชนิดดี พร้อมทั้งลดคอเลสเตอรอลชนิดไม่ดีให้ลดลงได้อีกด้วย และการค้นพบนี้เกิดจากการกินกระเทียมเพียง 1 เดือนเท่านั้น 5.ใบกะเพรา ใบกะเพราจัดเป็นสมุนไพรที่นิยมกินกันอย่างแพร่หลาย อีกทั้งยังเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณมากมายอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ช่วยแก้อาการท้องอืด ช่วยขับลม แก้อาการลมจุกเสียดแน่นท้อง ช่วยขับไขมัน และขับน้ำตาลในร่างกาย 6.ใบย่านาง ใบย่านางเป็นสมุนไพรที่มีรสจืด ทั้งนี้คนส่วนใหญ่จะนิยมดื่มน้ำสมุนไพรใบย่านางเพื่อลดน้ำหนักหรือลดความอ้วน โดยจะเอาใบย่านางไปต้มจนน้ำเดือด แล้วเอามาดื่มเป็นประจำทุกวัน วันละ 3 เวลา ซึ่งการดื่มน้ำใบย่านางทุกวันจะช่วยปรับสมดุลในร่างกายได้ดีเลยทีเดียว […]

เดี๋ยวนี้ไม่ว่าจะกินอะไร ก็ต้องคำนึงถึงในเรื่องของสุขภาพ มาเป็นอันดับแรก คนในยุคปัจจุบัน จะหันมาใส่ใจในเรื่องของสุขภาพกันมากยิ่งขึ้น และยังจะต้องคำนึงถึงอาหารการกิน ที่ไม่ปนเปื้อน หรือติดเชื้อโรค การรับประทานผักก็เช่นเดียวกัน จะต้องเป็นผักที่ปลอดสารพิษ ไม่มีสารเคมีตกค้าง และหลายคนก็ยังไม่เข้าใจในเรื่องของผักปลอดสารพิษ เราจะนำพาคุณมาทำความรู้จัก และหาคำตอบไปพร้อมกัน เกี่ยวกับผักปลอดสารพิษว่าจริงๆ แล้วผักปลอดสารพิษดีกว่าผักทั่วไปอย่างไร? กันบ้าง ทำความรู้จักกับ ผักปลอดสารพิษ คืออะไร? ผักปลอดสารพิษ นั้นจะเป็นผักที่มีระบบการผลิต ที่ใช้สารเคมี ในการป้องกันศัตรูพืช แต่จะให้เว้นช่วงระยะเวลา ในการให้สารเคมี ในช่วงระยะเวลาการเก็บเกี่ยวผลผลิต ที่ได้ออกมานั้น ยังคงจะมีสารเคมีตกค้างอยู่ แต่บอกได้เลยว่าจะเป็นสารเคมี ที่ไม่เกินในปริมาณที่ได้มีการกำหนดเอาไว้ เพื่อให้ความปลอดภัยแก่ผู้บริโภค โดยมีการรับรองใบอนุญาต จากหน่วยงานที่มีความเกี่ยวข้อง เพื่อรับรองได้ว่า ผักปลอดสารพิษ โดยจะมีการแบ่งประเภทของผักปลอดสารพิษ ออกเป็นทั้งหมด 4 ประเภท ดังต่อไปนี้ 1.ผักปลอดสารเคมี นั้นจะปลูกผักปลอดสารเคมี ซึ่งจะมีการเน้นการควบคุมการใช้สารเคมี แต่จะไม่มีการใช้สารเคมี ประเภทการกำจัดแมลง แต่จะยังใช้ปุ๋ยเคมี ฮอร์โมนในการเร่งผลผลิต 2.ผักอนามัย จะเป็นผักที่ยังคงใช้สารเคมี เพื่อใช้ในการเจริญเติบโต และใช้สารกำจัดแมลง แต่จะเป็นสารเคมีที่มีพิษตกค้างอยู่ในระยะสั้น และจะหยุดฉีดสารเคมีก่อนระยะเวลาการเก็บเกี่ยว ตามช่วงระยะเวลาที่กำหนดเอาไว้ 

ปัจจุบันการใช้ชีวิตประจำวันของเราค่อนข้างเร่งรีบและวุ่นวาย ทำให้บางคนอาจละเลยการออกกำลังกาย จนน้ำหนักตัวเริ่มเพิ่มสูงขึ้น ด้วยสาเหตุนี้เอง เราจึงเห็นผลิตภัณฑ์ อาหารเสริมลดน้ำหนัก หลากหลายยี่ห้อในตลาดบ้านเราเพิ่มมากขึ้น  อยากลดน้ำหนักแบบส่งผลดีต่อสุขภาพ ต้องเลือกอาหารเสริมลดน้ำหนักที่มีคุณภาพ เราต้องมาทำความเข้าใจกันก่อนนะคะว่า อาหารเสริมลดน้ำหนัก ไม่ใช่ยาลดน้ำหนักนะสาวๆ ที่ต้องบอกแบบนี้นั่นก็เพราะว่า อาหารเสริมลดน้ำหนักนั้นเป็นสารที่สกัดมาจากพืชพรรณธรรมชาติชนิดต่างๆ เช่น  ถั่วขาว สารจากถั่วขาวสามารถยับยั้งการทำงานของเอนไซน์ในตับอ่อนซึ่งหน้าที่ของมันก็คือเปลี่ยนแป้งให้เป็นน้ำตาลก่อนที่ร่างกายจะดูดซึมน้ำตาลเข้าไปนั้นลดลง เมื่อน้ำตาลในร่างกายลดลงอยู่ในปริมาณที่เพียงพอและสมดุล ก็จะส่งผลให้น้ำหนักลดลงด้วย หากทานติดต่อกันเป็นเวลา 1 เดือน จะทำให้น้ำหนักลดลง ลดการสะสมของไขมันลงได้อีกด้วย ผลส้มแขก สารจากผลส้มแขกช่วยลดการเปลี่ยนของแป้งไปเป็นไขมันได้ อีกทั้งยังช่วยกระตุ้นไขมันสะสมในร่างกายให้ถูกนำไปใช้เป็นพลังงานอีกด้วย แต่ผลการวิจัยระบุว่า หากเราทานอาหารเสริมลดน้ำหนักประเภทนี้เป็นระยะเวลาสั้นประมาณ 2-3 เดือน จะทำให้มีน้ำหนักลดลงประมาณ 0.7-1 กิโลกรัมเท่านั้น สารสกัดจากผลส้มแขกจึงไม่เหมาะกับผู้ที่มีน้ำหนักตัวมาก ชาเขียว เป็นอีกหนึ่งสารสกัดที่คนสมัยนี้นิยมทานกันมาก เนื่องด้วยมีผลการวิจัยออกมารองรับแล้วว่าหากทานสารสกัดจากชาเขียวในปริมาณ 750 มิลลิกรัม/วัน เป็นเวลา 3 เดือนสามารถลดน้ำหนักลงได้ 2.7 กิโลกรัม ซึ่งเป็นตัวเลขที่คนส่วนใหญ่พอใจ ด้วยเหตุผลนี้เองจึงทำให้คนส่วนใหญ่ตัดสินใจได้ง่ายต่อการเลือกซื้อมาทาน ส่งผลให้อาหารเสริมลดน้ำหนักประเภทนี้เป็นที่นิยมของคนในปัจจุบัน  ชาสมุนไพร ที่มีส่วนผสมของใบมะขามแขก สารสกัดชนิดนี้เป็นการลดน้ำหนักได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น เนื่องจากว่า ถูกจัดอยู่ในประเภทยาระบายอ่อนๆ ซึ่งทำให้ร่างกายเกิดการสูญเสียน้ำแต่ไม่ได้ช่วยลดในส่วนของไขมันส่วนเกินแต่อย่างใด ถ้าเราใช้อย่างต่อเนื่องจะส่งผลให้ระบบการขับถ่ายในร่างกายผิดปกติได้

สำหรับสาว ๆ หลายคนการมีหุ่นที่ดีนั้นถือเป็นสิ่งจำเป็นที่สามารถเสริมสร้างความมั่นใจ ในการใช้ชีวิตหรือใส่เสื้อผ้า ในแต่ละวันซึ่งสำหรับบางคนนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องง่ายที่จะสามารถลดน้ำหนักได้ด้วยตัวท่านเอง แต่สำหรับบ้างคนเมื่อทานอาหารสะสมจนมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วนั้นการลดน้ำหนักถือเป็นเรื่องยากมาก ๆ สำหรับการออกกำลังกายหรือลดอาหารที่ทานลง จริง ๆ แล้วท่านสามารถทำได้แต่ก็อาจจะเป็นเวลานาน สาว ๆ หลายคนเลยหันมาพึ่ง อาหารเสริมลดน้ำหนัก ที่เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยดี ๆ ที่สามารถช่วยให้ลดน้ำหนักได้ในเวลาอันรวดเร็ว  อาหารเสริมลดน้ำหนัก Mc.Plus Activ สำหรับแบรนด์แรกที่พึ่งทำออกมา เราอาจจะเคยคุ้นหน้าคุ้นตากันอยู่บ้างใน 7-11 ที่มีวางขายแบบซอง ซึ่งสามารถตอบโจทย์คนที่กำลังตัดสินใจในการหา อาหารเสริมลดน้ำหนัก ตัวนี้ที่มีขายใน 7-11 นั้น จะเป็นแบบซอง บรรจุ 2 เม็ดสามารถลองทานได้ก่อน ซึ่งนอกจากจะช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักแล้วยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้อ่อนเยาว์กระจ่างใส ช่วยคืนสุขภาพที่ดีให้กับร่างกาย ลดน้ำหนักได้แบบไม่โทรม ร่างกายแข็งแรงสดชื่น ตัวนี้ช่วยให้การขับถ่ายดี และ ขับของเสียในร่างกายไปพร้อม ๆ กันอีกด้วย อาหารเสริมลดน้ำหนัก Vida FiberMix ตัวนี้อาหารเสริมเพิ่มกากใยอาหาร กระตุ้นการขับถ่าย ลดการดูดซึมไขมัน สำหรับท่านที่ทานเยอะแต่ไม่เน้นทานผักช่วยให้ผิวพรรณสดใสVida FiberMix อาหารเสริมลดน้ำหนักประเภทชงดื่มหาซื้อได้ง่ายมีขายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป มีสารสกัดจากธรรมชาติหลายชนิด

มะก่องข้าว พืชพื้นบ้านที่เราอาจเคยพบเห็นอยู่บ่อย ๆ ตามข้างทาง แต่เพียงไม่รู้ว่า เป็นต้นอะไร มีประโยชน์อย่างไร จนบางครั้งเราเองก็คิดว่ามันคือวัชพืช จึงมักจะถอนทิ้งหรือตัดถางทิ้งไป วันนี้จึงขอเสนอเนื้อหาและประโยชน์ของมะก่องข้าว สมุนไรพื้นบ้านข้างรั้ว ที่เราหลาย ๆ คนมองข้ามไปมาในบทความนี้ค่ะ  ทำความรู้จักมะก่องข้าว  มะก่องข้าว เป็นสมุนไพรที่รู้จักกันดีในแถบประเทศอินเดีย มักนำมาใช้รักษาทางด้านอายุรเวช  ต้นมะก่องข้าว นั้นจะมีลักษณะลำต้นเป็นพุ่ม ไม่สูงมาก มีดอกเป็นสีเหลืองอ่อน ชอบขึ้นแถวดอน และพื้นที่ที่รก นิยมนำมารักษาให้ผู้ป่วยที่มีอาการปวดข้อ  และผู้ที่มีอาการผิดปกติของข้อต่อและกล้ามเนื้อ เป็นต้น ประโยชน์จากมะก่องข้าว เพิ่มความแข็งแรงให้กล้ามเนื้อ มะก่องข้าว มีคุณสมบัติในการช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อ ช่วยบรรเทาอาการปวดเมื่อย ตามจุดต่าง ๆ ของร่างกาย ด้วยการนำใบมาตากแห้ง หรือสด มาบด แล้วต้มในน้ำเดือด แล้วดื่มตลอดวัน ก็จะช่วยลดอาการปวดลงได้  รักษาอาการเหงือกอักเสบ เมื่อมีอาการของเหงือกอักเสบ เหงือกบวม ก็เพียงแค่นำใบของมะก่องข้าว มาต้มในน้ำรอน แล้วผสมสารส้มลงไปสักเล็กน้อย แล้วน้ำมาบ้วนปาก หรือกลั้วคอ ก็จะช่วยบรรเทาอาการเหงือกอักเสบ และเหงือกบวมได้ นอกจากนี้ยังทำให้เหงือกและฟันแข็งแรกขึ้นด้วย  ระบบปัสสาวะ มะก่องข้าวมีคุณสมบัติที่สามารถช่วยบรรเทาอาการเจ็บปวดของระบบปัสสาวะได้ ไม่ว่าจะเป็น

จากสถาณการร์โรคไวรัส โควิด 19 ในปัจจุบัน ส่งผลกระทบต่อการดำรงชีวิตของผู้คนทั่วประเทศ ผู้คนต่างกังวลและกลัวว่าตนเองนั้นอาจจะติดเชื้อนี้ก็ได้ หรือตนเองอาจจะนำเชื้อนี้ไปติดผู้อื่น จึงหันมาดูแลป้องกันตัวเองไม่ว่าจะเป็นการสวมใส่หน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อยๆ หลีกเลี่ยงการไปในที่มีผู้คนแออัด พกเจลล้างมือติดตัวทุกครั้งที่ออกจากบ้าน รับประทานอาหารปรุงสุก เว้นระยะห่างทางสังคม และที่ขาดไม่ได้เลยนั้นคือการหันมาดูแลรักษาสุขภาพตนเองให้ร่างกายแข็งแรงห่างไกลโรค ไม่ว่าจะป็นการออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ครบ 5 หมู่ เลือกรับประทานผักผลไม่ที่ปลอดสารพิษ เพื่อสุขภาพของตัวเราและคนในครอบครัว เมื่อพูดถึงผลไม่ที่นิยมรับประทานกัน เป็นอย่างมากในปัจจุบันคงหนีไม่พ้นสับปะรดนั้นเองเพราะเป็นทั้งผลไม้ที่ช่วยให้สดชื่นยังมีสรรพคุณทางยามากมายอีกด้วย  มาทำความรู้จักกับสับปะรดกันก่อนเลยค่ะว่ามีควาเป็นมาอย่างไร สับปะรดเป็นผลไม้ที่เต็มไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุต่างๆมากมายไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 และวิตามินบี 6 รวมถึงแร่ธาตุต่างๆมากมายเช่น ธาตุเหล็ก  แคลเซียม ฟอสฟอรัส กรดโฟลิก นอกจากนั้นยังมีสรรพคุณทางยาอีกด้วย สับปะรดนั้นประเทศไทยนิยมปลูกกันในเกือบจะทั่วทุกภาคของประทศแต่แหล่งที่สำคัญ จะเป็นแถบชลบุรี  เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์  ลำปาง อุตรดิตถ์เป็นต้น และถือเป็นผลไม้เศรษฐกิจที่สำคัญเลยก็ว่าได้ ส่วนต้นกำเนิดนั้นมาจากทวีปอเมริกาใต้ ในบ้านเรานิยมปลูกกันหลายสายพันธุ์ไม่ว่าจะเป็น พันธุ์ปัตตาเวีย หรือเป็นที่รู้จักในชื่อสับปะรดศรีราชานั้นเอง ผลของสับปะรดจะค่อนข้างใหญ่เนื้อหวานฉ่ำ สีเหลืองอ่อน นิยมปลูกปลูกเพื่อบรรจุกระป๋อง  พันธุ์นางแล

เป็นประจำทุกปีที่คณะผู้เชี่ยวชาญจะประเมินอาหารยุคใหม่ยอดนิยม  โดยมุ่งไปที่คุณค่าทางโภชนาการและประสิทธิภาพของอาหารที่มีต่อการควบคุมน้ำหนัก โดยอาหารเพื่อสุขภาพที่ดีที่สุดของปี 2565 จะต้องมีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคเบาหวานและโรคหัวใจ  โดยยึดตามหลักฐานการศึกษาวิจัยที่ตีพิมพ์ได้มีผลอย่างมากในการจัดอันดับ  อาหารเพื่อสุขภาพ 5 อันดับแรก อันดับแรกคือ อาหารเมดิเตอร์เรเนียน  รูปแบบการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพชนิดนี้ถือเป็นมาตรฐานทองคำสำหรับโภชนาการด้านการป้องกันโรคและอายุที่ยืนยาว  อาหารเมดิเตอร์เรเนียนอุดมไปด้วยผัก ผลไม้ ปลา นัท ถั่วพัลส์ (ถั่วเลนทิล ถั่วชิกพี) และน้ำมันมะกอก  มีการจำกัดการรับประทานอาหารแปรรูปและน้ำตาลอย่างมาก รวมทั้งเนื้อแดง  โดยให้สารต้านอนุมูลอิสระที่ต้านการอักเสบอย่างหลากหลาย  อันดับที่ 2 คือ อาหารเพื่อหยุดความดันโลหิตสูง อาหารเพื่อสุขภาพชนิดนี้ยืมองค์ประกอบของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนมาใช้   แต่เป็นรูปแบบการกินที่เฉพาะเจาะจงมาก ซึ่งนอกจากจะมีประสิทธิภาพในการลดความดันโลหิตแล้ว อาหารชนิดนี้ยังได้ช่วยสนับสนุนการลดน้ำหนัก  ปกป้องสุขภาพของหัวใจ ตลอดจนลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2     อันดับที่ 3 อาหารยืดหยุ่น จัดเป็นอาหารเพื่อสุขภาพชนิดมังสวิรัติเป็นหลัก โดยมีการรวมเนื้อสัตว์หรือปลาเป็นครั้งคราว การศึกษาจำนวนมากแสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนไปใช้อาหารจากพืชส่วนใหญ่เชื่อมโยงกับน้ำหนักตัวที่ลดลงและอุบัติการณ์ที่ลดลงของโรคเรื้อรัง รวมถึงการปรับปรุงสุขภาพการเผาผลาญ ความดันโลหิต  และลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานประเภท 2    อันดับที่ 4 อาหารพิทักษ์น้ำหนัก เป็นอาหารเพื่อสุขภาพที่ผ่านการวิจัยมาเป็นอย่างดี ใช้ระยะเวลาศึกษามายาวนานและไม่ใช่แนวทางที่รุนแรง มีการตั้งค่าในลักษณะที่แตกต่างกันโดยมีตัวเลือกในการทำตามแผนตามความชอบด้านอาหารและไลฟ์สไตล์ของบุคคล และแน่นอนอาหารนี้สามารถลดความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อม 

โดยปกติแล้วคนเราต้องรับประทานอาหารเป็นประจำเนื่องจากในอาหารจะเต็มไปด้วยวิตามินและสารสำคัญที่จะช่วยทำให้ร่างกาย เจริญเติบโตและมีความแข็งแรงทนต่อสภาพอากาศ และโรคภัยไข้เจ็บทั้งหลายสำหรับวันนี้เราได้นำเอาวิตามินที่น่าสนใจและเป็นวิตามินที่ช่วยบำรุงสุขภาพร่างกายของเราให้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นมาแนะนำกันลองไปดูกันซิว่าจะมีวิตามินใดบ้างที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย ที่ควรรับประทานอย่างต่อเนื่องไปดูกันเลย การรับประทานวิตามินบำรุงร่างกาย วิตามินเอ สามารถรับประทานวิตามินเอหลังรับประทานอาหาร 30 นาทีได้เลยหรืออาจจะรับประทานระหว่างมื้ออาหารแสนอร่อยของคุณได้ทันที เนื่องจากวิตามินเอเป็นวิตามินที่สามารถละลายได้ดีในไขมัน วิตามินบี สำหรับวิตามินบีนั้นจะช่วยในเรื่องของการดูดซึมของร่างกาย ดังนั้นการรับประทานวิตามินบีควรเป็นช่วงที่ท้องกำลังว่างหรือก่อนรับประทานอาหาร และหากใครรับประทานก่อนอาหารเข้าไปแล้วเกิดการระคายเคืองภายในกระเพาะอาหารอาจจะเปลี่ยนมารับประทานในระหว่างมื้อเช้าแทน วิตามินซี วิตามินซีมีคุณสมบัติเป็นกรด ควรรับประทานหลังอาหารเช้าจึงจะทำให้เกิดการดูดซึมได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพราะเนื่องจากหากรับประทานก่อนอาหารอาจจะก่อให้เกิดการระคายเคืองในกระเพาะอาหารได้ ดังนั้นสำหรับการรับประทานวิตามินซีนั้นจะก่อให้เกิดประโยชน์ต่อร่างกายเป็นอย่างมากเลยทีเดียว แคลเซียม การรับประทานแคลเซียมนั้นมีความหลากหลายซึ่งควรรับประทานซิเตรดในช่วงที่ท้องว่างหรือก่อนการรับประทานอาหารเพราะจะทำให้ร่างกายสามารถดูดซึมได้ดีกว่าแต่ก็ไม่ควรที่จะรับประทานพร้อมกับผักในปริมาณที่มากเพราะจะทำให้ไปลดประสิทธิภาพในการดูดซึมเข้าร่างกายนั่นเอง ส่วนแคลเซียมคาบอเนตเป็นแคลเซียมที่มีความต้องการกรดในกระเพาะอาหารช่วยในการแตกตัวจึงควรรับประทานหลังอาหารทันที น้ำมันปลา วิธีการรับประทานน้ำมันปลานั้นควรที่จะรับประทานหลังอาหารไม่เกิน 30 นาที เนื่องจากร่างกายจะสามารถดูดซึมน้ำมันปลาได้ดีมากๆในช่วงนี้ เพราะน้ำมันปลานั้นมีประโยชน์ต่อร่างกาย ช่วงบำรุงสมองและหัวใจได้เป็นอย่างดี คอลลาเจน การรับประทานคอลลาเจนควรที่จะรับประทานในช่วงท้องว่างและดื่มน้ำเปล่าตามลงไปในปริมาณที่ค่อนข้างมากเพื่อให้ร่างกายสามารถดูดซึมคอลลาเจนได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ถูดกรดในกระเพาะอาหารทำลายนั่นเอง เป็นอย่างไรกันบ้างกับวิตามินบำรุงร่างกายที่เราแนะนำมาแนะนำกันข้างต้น บอกเลยว่าเป็นวิตามินที่เราสามารถเลือกซื้อเลือกหาได้ตามท้องตลาดทั่วไปในรูปแบบของวิตามินเสริม หรือใครที่จะเลือกรับประทานอาหารเนื้อสัตว์หรือผักและผลไม้ที่มีส่วนประกอบของวิตามินเหล่านี้ก็สามารถทำได้เช่นกัน หรือใครจะเลือกเป็นการรับประทานวิตามินเสริมก็สามารถทำได้เช่นกัน สำหรับครั้งหน้าเราจะนำเอาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับสุขภาพทางด้านใดมาแนะนำกันอีกนั้นต้องติดตาม #วิตามิน #ทริคดูแลสุขภาพ #อาหารเสริมพลัง

เมื่อเอยถึงเบอร์รี่ หลายคนต่างนึกถึง ราสเบอร์รี่ บูลเบอร์รี่ สตอร์เบอร์รี่ แต่เมืองไทยเราก็มีผลไม้ที่อยู่ในตระกูลเบอร์อยู่ด้วยนะคะ นึกออกไหมค่ะว่าอะไร คำตอบคือ ลูกหม่อน ค่ะ ลูกหม่อน นั้นจัดเป็นเบอร์รี่เมืองไทย ที่มากด้วยคุณประโยชน์ดีต่อสุขภาพ หลาย ๆ อย่างค่ะ วันนี้จะนำมาบอกเล่าให้ทราบว่ามีประโยชน์อย่างไรบ้างชมกันค่ะ   ประโยชน์ของ ลูกหม่อน  ลูกหม่อนหรืออีกชื่อคือ มัลเบอร์รี่  ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ รสชาติแสนอร่อย อมเปรี้ยวอมหวาน ผลมีสีม่วงเข้มจนออกดำ ต้นของหม่อนนั้นสามารถน้ำมาใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นวัตถุดิบในการทอผ้า ใบสามารถนำมาทำเป็นชาไว้ดื่ม และผลนั้นสามารถทานได้ทั้งผลดิบ หรือจะนำมาแปรรูปก็ได้ ลูกหม่อนแก้ร้อนใน ลูกหม่อน นั้นเป็นผลไม้ที่เป็นยาเย็น จึงช่วยดับร้อน ลดการกระหายน้ำ และชุ่มคอ ทำให้บรรเทาอาการร้อนในได้เป็นอย่างดี   ลูกหม่อนต้านการอักเสบ ลูกหม่อนต้านการอักเสบเพราะ สารที่ชื่อฟีนอล ที่มีความสามรถในการต้านอาการอักเสบ ลดการเติบโตของเชื้อแบคทีเรียจึงทำให้เมื่อมีบาดแผลในส่วนต่าง ๆ จึงไม่เกิดการอักเสบได้ค่ะ   ลูกหม่อนลดความเสี่ยงของมะเร็ง ลูกหม่อนนั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระ ที่เป็นส่วนสำคัญที่ช่วยทำให้ระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ กระตุ้นการทำงานของเซลล์ให้ทำงานได้เป็นอย่างดี รวมถึงช่วยลดโอกาสเสี่ยงการเกิดมะเร็งได้   ลูกหม่อนลดน้ำหนัก ลูกหม่อนมีกากใยอาหารในปริมาณที่สูง มีแคลอรี่ต่ำ ทำให้เหมาะกับคนที่ต้องการลดน้ำหนัก และคุมอาหาร เพราะกากใยอาหารในลูกหม่อนจะทำให้รู้สึกอิ่มนานมากขึ้น