ปัจจุบันเราจะพบเห็นคนทั่วไปนิยมจัดฟัน เพราะนอกจากจะเป็นในเรื่องของแฟชั่นแล้วการจัดฟันยังมีส่วนในการช่วยให้เรามีสุขภาพช่องปากที่ดีขึ้น และมีฟันที่แข็งแรงขึ้นได้ และยังช่วยให้การเคี้ยวอาหารดีขึ้นกว่าในช่วงที่ยังไม่ได้จัดฟัน โดยเฉพาะผู้ที่มีปัญหาต่างๆ เกี่ยวกับฟัน เช่น ฟันยื่น ฟันบนกับฟันล่างขบกันได้ไม่พอดี ฟันห่าง และฟันซ้อน เป็นต้น
ขั้นตอนในการจัดฟัน
1. ขั้นแรกทันตแพทย์จะตรวจลักษณะของฟัน สภาพการสบฟัน ใบหน้า และเอ็กซเรย์ฟันเพื่อดูโครงสร้างใบหน้า และขากรรไกร
2. จากนั้นทันตแพทย์จะทำการตรวจสุขภาพต่างๆ ของฟัน เช่น ฟันผุ ฟันคุด อุดฟัน การรักษารากฟัน ขูดหินปูน ตรวจสุขภาพของเหงือก และจะดูว่าจำเป็นต้องถอนฟันบ้างหรือไม่ การรักษาเหงือกและฟันจำเป็นจะต้องทำก่อนการจัดฟันเพื่อให้การจัดฟันมีประสิทธิภาพดี และหลังจากการจัดฟันแล้วจะช่วยทำให้เหงือกและฟันแข็งแรง
3. หลังจากการรักษาเหงือกและฟันให้อยู่ในสภาพดีแล้วทันตแพทย์จะทำการติดเครื่องมือสำหรับการจัดฟัน ในช่วงแรกๆ อาจจะทำให้เรารู้สึกรำคาญ และอาจจะรู้สึกเจ็บบ้าง แต่หลังจากนั้นอาการต่างๆ จะค่อยๆ หายไปในระยะเวลาประมาณ 1-2 สัปดาห์
4. ระยะเวลาในการจัดฟันโดยปกติแล้วถ้าใช้เครื่องมือแบบติดแน่นจะใช้เวลาประมาณ 2 ปี แต่ระยะเวลาจะต้องขึ้นอยู่กับความรุนแรงและอาการที่เกิดขึ้นกับฟันของแต่ละคนประกอบกันด้วย นอกจากนี้การจัดฟันในผู้ใหญ่จะใช้เวลานานกว่าในเด็ก
ข้อดีในการจัดฟัน
มีข้อดีหลายอย่าง เริ่มที่ความสวยงามกันก่อนนะคะ หลังจากจัดแล้วใบหน้าจะเรียวและได้รูปมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะใครที่มีฟันยื่นจะเห็นได้อย่างชัดเจน และคุณจะมีฟันที่เรียงกันเป็นระเบียบสวยงาม ทำให้ยิ้มได้อย่างมั่นใจมากยิ่งขึ้น สำหรับในเรื่องของสุขภาพแน่นอนเลยว่าสุขภาพของช่องปากและฟันจะดีขึ้นอย่างแน่นอน เพราะก่อนการดัด ทันตแพทย์จะทำการรักษาอาการผิดปกติต่างๆ กันก่อน ไม่ว่าจะเป็นอาการแหงือกอักเสบ ฟันพุ ฟันคุต และการขูดหินปูน เป็นต้น นอกจากนี้สำหรับใครที่เคยมีปัญหาในการเคี้ยวอาหาร การจัดฟันก็ช่วยคุณได้เช่นกันค่ะ
ข้อเสียในการจัดฟัน
มีข้อดีแล้วก็ต้องมีข้อเสียกันบ้าง ที่เห็นได้ชัดก็คือในช่วงแรกจะค่อนข้างเจ็บ ทำให้เคี้ยวอาหารลำบาก และที่สำคัญที่สุดปัจจุบันยังมีราคาค่อนข้างแพง
เป็นยังไงกันบ้างค่ะ ถ้าคุณเป็นคนหนึ่งที่อยากมีฟันสวยสุขภาพดี และหมดปัญหาในการเคี้ยวอาหาร รวมไปถึงการแก้ปัญหารูปหน้าในกรณีที่มีฟันยื่น การจัดฟันจะเป็นวิธีในการรักษาที่เหมาะสำหรับคุณ
เครดิตภาพ : hdmall.co.th
#สุขภาพช่องปาก #รักสุขภาพ #จัดฟัน