การดูแลตัวเองเมื่อออกไปข้างนอก

การดูแลตัวเองเมื่อออกไปข้างนอก กับสถานการณ์โควิด

สืบเนื่องมากจากวิกฤตการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้หลายคนต้องเปลี่ยนนิสัยในการออกจากบ้าน ให้มีความรอบคอบ ระมัดระวังตัวเอง รักษาความสะอาดมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่ร้ายแรงชนิดนี้ โดยวิธีการดูแลตนเองนั้นมีมากมาย และควรที่จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด 

โดยในห้างสรรพสินค้า หรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ ก็ได้มีการออกมาตรการสำหรับคนที่จะเข้ามาใช้งานร้านค้า เช่น ต้องมีที่วัดอุณหภูมิก่อนที่จะเข้าใช้บริการร้าน ต้องมีจุดให้แอลกอฮอล์ล้างมือ และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเสมอตลอดเวลาการเข้าร้าน และในส่วนของการทำงานนั้น บริษัทส่วนมากก็ให้พนักงานได้ทำงานจากที่บ้าน เพื่อเป็นการกักกันตนเองจากสังคมภายนอก เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องออกไปข้างนอกนั้นก็ควรดูแลตนเองและปฏิบัติตามกฏของสังคม

วิธีการดูแลตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

  1. Social Distancing 

เป็นการเว้นระยะห่างทางสังคมจากผู้อื่น โดยเว้นระยะห่างเป็นระยะ 1-2 เมตร เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากผู้อื่น 

  1. การล้างมือ 

ควรล้างมือทุกครั้งเมื่อมีโอกาส เนื่องจากเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเราได้เผลอไปสัมผัสเชื้อโรคอะไรมาจากที่ไหนบ้าง ดังนั้นการล้างมือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันเชื้อโรคที่จะเข้าสู้ร่างกายของเรา อีกทั้งการล้างมืออย่างถูกวิธีเป็นสิ่งที่ไม่ควรลืม การล้างหน้ามือ หลังมือ ตามซอกนิ้ว และซอกเล็บ นั่นเป็นสถานที่เชื้อโรคชอบมากที่สุด 

  1. การพกเจลแอลกอฮอลล์

ทุกวันนี้ในการออกจากบ้านนั้น สิ่งที่ควรจะต้องพกพาห้ามขาดนั่นคือเจลแอลกอฮอลล์ ในกรณีที่เราไม่สามารถที่หาสถานที่สำหรับล้างมือได้ เจลแอลกอฮอล์สามารถช่วยคุณได้ ยิ่งปริมาณแอลกกอฮอล์เข้มข้นมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งดีต่อการฆ่าเชื้อโรค 

  1. หน้ากากอนามัย 

การออกไปนอกสถานที่นั้นสิ่งที่ห้ามขาดมากที่สุดนั่นก็คือหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะใส่ติดไว้ที่หน้าตลอดเวลา โดยวิธีการใส่ที่ถูกนั้นจะต้องปิดที่จมูก เพื่อไม่ให้เชื้อโรคสามารถผ่านเข้าไปได้ และไม่ควรนำมือไปสัมผัสหน้ากากอนามัยขณะสวมใส่เด็ดขาด โดยหน้ากากที่ดีที่สุดคือหน้ากากที่เป็นสีเขียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าได้รับรองจากกรมสุขภาพแล้ว เป็นเครื่องมือที่ดูแลเราได้ดีที่สุดจากโรคร้าย

ดังนั้นการดูแลตนเองนั้นสำคัญที่สุด เมื่อเกิดเหตุการณ์จำเป็นที่จะต้องออกไปเจอคนภายนอกก็ควรที่จะมีอุปกรณ์ติดตัว เช่น หน้ากากอนามัย เจลแอลกอฮอล์ เป็นต้น เพื่อป้องกันตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า

เครดิตภาพ : Kapook.com,www.prachachat.net

#การดูแลตัวเอง #ยุคโควิค #การแลสุขภาพ

เห็ด อร่อยและมีคุณค่า ทุกคนควรกิน

เห็ด อร่อยและมีคุณค่า

เห็ด เป็นแหล่งอาหารจากธรรมชาติ ที่มีความโดเด่นในเรื่องของรสชาติและเนื้อสัมผัส แต่นอกเหนือ จากความอร่อยแล้ว เห็ดยังให้คุณค่าทางโภชนาการและมีสรรพคุณทางยา ซึ่งมีคุณสมบัติที่ช่วยเสริมภูมิคุ้มกันในร่างกาย โดยเห็ดมีสารพฤกษเคมีที่เรียกว่า โพลีแซคคาไรด์  สารนี้จะทำงานร่วมกับแมคโครฟากจ์ ซึ่งเป็นเซลล์คุ้มกันขนาดใหญ่ที่ออกจากหลอดเลือดเข้าสู่เนื้อเยื่อและจะไปจับกับโพลีแซคคาไรด์ที่บริเวณกระเพาะอาหาร และนำไปส่งยังเซลล์คุ้มกันตัวอื่นๆ เพื่อช่วยกระตุ้นวงจรการทำงานของระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เสริมและช่วยเพิ่มปริมาณและประสิทธิภาพของเซลล์คุ้มกันธรรมชาติ ให้ทำหน้าที่ทำลายเซลล์แปลกปลอมที่เข้ามาในร่างกาย รวมถึงพวกไวรัสและแบคทีเรียอื่นๆ ด้วย ความโดดเด่นของเห็ด เห็ดเป็นอาหารที่ปราศจากไขมัน มีปริมาณน้ำตาลและเกลือค่อนข้างต่ำ และยังเป็นแหล่งโปรตีนที่ดี เมื่อเทียบกับพืชผักอีกหลายชนิด อีกทั้งยังมีรสชาติและกลิ่นที่ชวนรับประทาน ซึ่งรสชาติที่โดดเด่นนี้ มาจากการที่เห็ดมีกรดอะมิโนกลูตามิคเป็นองค์ประกอบ โดยกรดอะมิโนตัวนี้จะทำหน้าที่ช่วยกระตุ้นประสาทการรับรู้รสอาหารของลิ้นให้ไวกว่าปกติ และทำให้มีรสชาติคล้ายกับเนื้อสัตว์   นอกจากนี้เห็ดยังอุดมไปด้วยวิตามินบีรวม (ไรโบฟลาวิน) และไนอาซิน ซึ่งจะช่วยควบคุมการทำงานของระบบย่อยอาหาร  อีกทั้งยังมีเกลือแร่ที่สำคัญ เช่น ซิลิเนียม ทำหน้าที่ช่วยต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคมะเร็ง โรคหลอดเลือดหัวใจอุดตัน โปแตสเซียม ทำหน้าที่ควบคุมจังหวะการเต้นของหัวใจ สมดุลของน้ำในร่างกาย การทำงานของกล้ามเนื้อและระบบประสาทต่างๆ ลดการเกิดโรคความดันโลหิตสูง อัมพฤกษ์ และอัมพาต ส่วนทองแดง ทำหน้าที่ช่วยเสริมสร้างการทำงานของธาตุเหล็ก เห็ดแดดเดียว ถึงแม้ว่าเนื้อสัตว์ประเภทหมูหรือเนื้อจะเป็นแหล่งโปรตีนที่สำคัญ แต่มีความเสี่ยงต่อสุขภาพร่างกายมากกว่าอาหารประเภทอื่นๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอาหารประเภทพืชผัก ซึ่งสามารถเป็นแหล่งโปรตีที่ดีไม่แพ้กัน อย่างเช่น เห็ด ซึ่งมีเกลือแร่ในปริมาณที่สูงกว่าเนื้อวัว […]

เห็ด อร่อยและมีคุณค่า Read More »

การออกกำลังกายโดยการวิ่ง ให้ได้นาน

การออกกำลังกายโดยการวิ่ง

การวิ่ง เป็นการเคลื่อนที่ของมนุษย์ ที่เกิดขึ้นบนพื้นดิน โดยมนุษย์ใช้เท้าซึ่งเป็นอวัยวะในการวิ่ง โดยการวิ่งนั้น นับว่าเป็นกีฬาประเภทหนึ่งของมนุษย์ เป็นการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วที่แตกต่างกันออกไป ขณะที่เท้าอยู่เหนือพื้นดิน โดยมีความแตกต่างกับการเดินตรงที่การวิ่งเป็นการเคลื่อนที่ด้วยความเร็วกว่า เช่น การวิ่งจ็อกกิง การวิ่งมาราธอน หรือการวิ่งในระยะสั้น แน่นอนว่าการออกกำลังกายนั้นย่อมเป็นปัจจัยหนึ่งที่สำคัญมากสำหรับการดูแลร่างกาย การออกกำลังกายทุกชนิดล้วนให้ประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับประเภทของการออกกำลัง เช่น การวิ่งก็จะได้ประโยชน์ต่อขา ทำให้ขานั้นแข็งแรง และเป็นการฝึกข้อเข่าให้ทำงานดีเต็มและสิทธิภาพ  ผลของการวิ่งติดต่อกันนาน ๆ แม้ว่ามนุษย์จะรู้ดีว่าการออกกำลังกายนั้นเป็นสิ่งที่ดีต่อร่างกาย และควรปฏิบัติอย่างมาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งที่เรียกว่า ความขี้เกียจ นั้นก็คอยที่จะขัดขวางมนุษย์จากการออกกำลังกายที่มีประโยชน์เช่นนี้ตลอด โดยสามารถสังเกตได้อย่างชัดเจน เมื่อวิ่งต่อกันนานๆ เป็นเวลาหนึ่งเดือน จะสังเกตได้ว่าสุขภาพร่างกายจะเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น จนเรารู้สึกได้ แต่เมื่อหยุดการวิ่งไปนานๆ ก็จะเห็นข้อเปรียบเทียบ ว่าร่างกายนั้นไม่ได้แข็งอรงเหมือนตอนวิ่ง แม้กระทั่งตอนเดินก็จะหอบและเหนื่อย โดยหากกลับมาวิ่งจะมีอาการที่บ่งบอกถึงสุขภาพที่ดีโดยสามารถสังเกตได้ ดังนี้ ผอมลง ในช่วงที่วิ่งนั้น จะรู้สึกได้ว่าร่างกายจะขับเหงื่อออกมา เปรียบเสมืนอเป็นการขับของเสียออกมาจากผิวหนัง ส่งผลให้สารในร่างกายนั้นได้ดีท็อกซ์ และสะอาดขึ้น อีกทั้งยังได้ร่างกายที่มีลักษณะดี อาทิเช่นมีกล้ามเนื้อที่สวยงาม และหุ่นที่ดี  หลับสนิทขึ้น เมื่อร่างกายได้ทำการออกกำลังกาย โดยการวิ่งนั้นเป็นการใช้พลังที่เยอะเหมือนกัน เนื่องจากต้องใช้กล้ามเนื้อขาและการเคลื่อนที่ของร่างกายแทบจะตลอดการวิ่ง ดังนั้นความเหนื่อยจะทำให้เพลียและสามารถนอนหลับได้สนิทขึ้น เป็นเรื่องที่ดีในการทำให้ร่างกายได้มีเวลาพักผ่อนได้อย่างเต็มอิ่ม อารมณ์ดีขึ้น การออกกำลังนั้นเป็นการช่วยให้ร่างกายผ่อนคลาย

การออกกำลังกายโดยการวิ่ง Read More »

กะทิดีไม่มีอ้วน หากเราเลือกรับประทานในปริมาณที่เหมาะสม

กะทิดีไม่มีอ้วน

กะทิเกิดจากการนำเนื้อของผลมะพร้าวแก่มาบีบคั้นเอากะทิออกมา  กรดไขมันไม่อิ่มตัวในกะทิมีไม่เกิน 10% ได้แก่ กรดโอเลอิค และกรดไลโนเลอิค  แต่มีกรดไขมันชนิดอิ่มตัวมากกว่า 90% คือ กรดลอริค  40-50% กรดไมริสติค 13-19% และกรดปาล์มิติก 4-18%  ซึ่งกรดไขมันอิ่มตัวมีขนาดสั้นและปานกลาง จึงถูกย่อยได้ง่าย แล้วถูกเผาผลาญให้เป็นพลังงานในตับโดยไม่ไปสะสมเป็นไขมันแบบกรดไขมันไม่อิ่มตัวที่มีโมเลกุลขนาดใหญ่  อีกทั้งยังไปกระตุ้นให้ต่อมไทรอยด์ทำงานได้ดีขึ้น และนี่ที่เป็นเหตุผลว่าคนในสมัยโบราณไม่ค่อยมีคนอ้วน แม้จะรับประทานกะทิที่อยู่ในอาหารทั้งคาวและหวาน เทคนิคการใช้กะทิในอาหาร เวลาทำแกงกะทิ อย่าราดหน้าแกงด้วยน้ำมันพืช แค่เคี่ยวกะทิให้แตกมันก็เพียงพอแล้ว   ส่วนกะทิราดหน้าขนมหวานนั้น ใช้หัวกะทิตั้งไฟให้แค่พอเดือด หมั่นคน อย่าให้แตกมัน เติมเกลือป่นนิดหน่อยยกลง ก็อร่อยมันเข้มข้นแล้ว ที่สำคัญอย่าเติมแป้ง     ในการประกอบอาหารที่ต้องใส่กะทิ ให้พยายามใส่กะทิสด เพราะมั่นใจได้ 100% ว่าเป็นกะทิแท้ๆ ไม่ผสมแป้ง และจำไว้ว่าอย่าใส่นมสดแทนกะทิ   เวลาไปรับประทานอาหารนอกบ้าน ถ้าต้องสั่งต้มยำให้สั่งต้มยำน้ำใส เพราะต้มยำน้ำข้นมักใส่นมสดหรือครีมเทียม ประโยชน์ของกะทิต่อสุขภาพร่างกาย ในกะทิมีกรดลอริค ซึ่งเป็นกรดที่สามารถช่วยต่อต้านเชื้อไวรัส ป้องกันเชื้อแบคทีเรีย และต่อต้านเชื้อราภายในร่างกาย กะทิช่วยลดการสะสมของไขมัน เพราะเมื่อบริโภคกะทิเข้าไปแล้วนั้น กะทิจะมีส่วนในการช่วยดึงไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกายที่ถูกสะสมไว้ไปแปรเปลี่ยนเป็นพลังงานได้อีกด้วย

กะทิดีไม่มีอ้วน Read More »

ท่าออกกำลังกายทำง่ายๆที่บ้าน ไม่มีเบื่อแถมสนุก

ท่าออกกำลังกายทำง่ายๆ ที่บ้าน

ที่ออกกำลังกายเป็นอยู่เป็นกระจำนั้น ไม่สามารถที่จะทนต่อการขาดการออกกำลังกายไปได้เลย แม้จะเป็นระยะเวลาสั้นๆ ก็ตาม และจากคนส่วนใหญ่ใช้ที่การออกกำลังกายในยิมหรือฟิตเนส ก็ต้องเปลี่ยนมาหาทางออกกำลังกายจากที่บ้านแทน เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดของไวรัสโคโรน่าแล้ว ทำให้กฏเกณฑ์หลายๆ อย่างในสังคมเปลี่ยนไปเป็นอย่างมาก พื้นที่ส่วนรวมก็ถูกจำกัดการใช้ให้น้อยลง และไม่ควรใช้เลยหากไม่จำเป็นจริงๆ ผู้ที่มักจะออกกำลังกายเป็นประจำเหล่านี้ จึงต้องการท่าหรืออุปกรณ์สำหรับออกกำลังกายที่บ้าน ซึ่งสำหรับคนที่มีงบประมาณไม่มากนั้น ท่าออกกำลังกายตามอินเทอร์เน็ตก็เป็นอีกทางหนึ่งที่วิเศษณ์มากเลยทีเดียว  ท่าออกกำลังกายต้านโรคโควิด 19  ท่าออกกำลังกายที่สามารถทำได้เองนั้นมีมากมายหลายท่าหลายวิธี ซึ่งจะมาแนะนำการออกกำลังกายง่ายๆ ที่สามารถทำเองได้ที่บ้านโดยใช้อุปกรณ์เพียงแค่อย่างเดียว นั่นก็คือ เก้าอี้  นั่งบนเก้าอี้ ให้หลังพิงพนักเก้าอี้ จากนั้นให้ยกเท้าขึ้นให้ขนาดกับพื้นให้ตั้งฉาก 90 องศา จากนั้นให้เกรงท้องแตะเท้าไปข้างหน้า ทำอย่างนี้เป็นเวลา 45 วินาที และทำทั้งหมด 3 เซ็ต  นั่งบนเก้าอี้ แยกขาให้ขนานกับไหล่ จากนั้นให้ยกแขนทั้งสองข้างออกด้านข้างให้ตั้งฉาก จากนั้นให้ขยับแขนไปด้านข้าง เปรียบเหมือนผีเสื้อกำลังกระพือปีก ทำอย่างนี้เป็นเวลา 45 วินาที และทำทั้งหมด 3 เซ็ต นั่งบนเก้าอี้ และย่ำเท้าให้ถี่ที่สุด เพื่อฝึกในส่วนของกล้ามเนื้อขา เปรียบเสมือนการวิ่งอยู่กับที่ ทำอย่างนี้เป็นเวลา 45 วินาที และทำทั้งหมด 3 เซ็ต

ท่าออกกำลังกายทำง่ายๆ ที่บ้าน Read More »

กิน Keto ดีต่อลดน้ำหนักจริงหรือ เป็นวิธีการลดน้ำหนักอีกรูปแบบหนึ่ง

กิน Keto ดีต่อลดน้ำหนักจริงหรือ?

อยากลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกาย…ส่งผลยังไงบ้าง การลดน้ำหนัก แบบคนยุคใหม่กับการควบคุมอาหารแบบใหม่ นั้นคือการทานแบบ คีโต Keto นั้นเอง  ว่าแต่อะไรคือ คีโต แล้วจริงหรือไม่ที ยิ่งทานเข้าไปยิ่งลดน้ำหนัก  ถ้าการออกกำลังกายไม่ใช่ทางออกสำหรับคนอย่างเราๆ เพราะมันเหนื่อยมากเกินไป อาจจะถึงเวลาที่จะต้องเปลี่ยนความคิด เปลี่ยนแนวทางในการลดน้ำหนักของพวกเรากันเสียที นั่นคือการหันมาคิดที่จะเริ่มควบคุมอาหารนั้นเองครับ วันนี้ตัวของผมจะมาขอนำเสนอทางออกสำหรับผู้คนที่อยากจะลดน้ำหนักนะครับ นั้นคือ การทานแบบคีโต Ketogenic Diet นั้นเอง. เป้าหมายของการลดน้ำหนัก…ด้วยการกินคีโต ทานตามใจปาก แต่น่าแปลกใจที่ว่า ทำไมน้ำหนักถึงลดลงได้ นั่นคงเป็นคำถามที่หลายคนอยากถามคนที่เขาหุ่นดีๆ กันอย่างแน่นอน และสุดท้ายก็ได้คำๆ หนึ่งมานั้นคือคำว่า การทานเพื่อลดน้ำหนัก หรือการควบคุมอาหารแบบ คีโต หรือ Ketogenic แล้วอะไรคือการทานอาหารหรือการควบคุมการทานอาหารแบบ Ketogenic Diet  ละ .  การทานอาหารหรือการควบคุมอาหารแบบคีโตนั้นเริ่มจะเป็นที่รู้จักในวงการของคนที่จะเริ่มลดน้ำหนักหรือคนที่จะลดไขมันลงนั้นเอง  ชื่อเต็มๆ ของคีโตคือ Ketogenic Diet  นั้นเอง  มันคือการทานอาหารถเข้าไปเพื่อที่จะลดน้ำหนักนั้นเอง หรือมันเป็นการทานไขมันดีเข้าไปเพื่อทำลายไขมันไม่ดีในร่างกาย ซึ่งไขมันนั้นสามารถแยกออกได้ว่าเป็นไขมันที่ดีและไขมันที่ไม่ดี ไขมันที่ไม่ดี ( Low Density Lipoprotein) คือไขมันที่ทำลายสุขภาพร่างกายของคนเรา 

กิน Keto ดีต่อลดน้ำหนักจริงหรือ? Read More »

ความรู้เรื่องโรคหอบหืด โรคที่ยอดฮิตที่ใครหลายคนอาจจะเคยเจอ

รอบรู้เรื่องโรคหอบหืด

หลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์การเป็นโรคหอบหืดที่สร้างทั้งความเหนื่อยล้าให้ร่างกาย ไม่สามารถทำอะไรได้เร็วไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหรือการเดินในเวลาเร่งรีบเหมือนคนอื่น เพราะหากทำอย่างนั้นโรคหอบหืดของคุณก็จะกำเริบและทำให้เกิดอันตรายได้ในที่สุด หลายคนอาจมองว่าคนที่เป็นโรคหอบหืดดูเหมือนภาระและแกล้งทำโดยเฉพาะกับเด็กวัยเรียนที่มักคิดเช่นนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม เราอยากให้คุณลองอ่านเพื่อทำความเข้าใจโรคหอบหืดก่อนแล้วค่อยตัดสินเขานะ เพราะมันไม่ใช่โรคที่จะแกล้งกันเล่น ๆ ได้ หากคุณได้รู้ก็จะเข้าใจผู้ป่วยว่าพวกเขาต้องใช้ชีวิตลำบากเพียงใด โรคหอบหืดคืออะไร? โรคหอบหืด หรือที่เรียกว่า Asthma เป็นโรคที่มีการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุหลอดลมและภาวะผิดปกติที่ไวต่อสิ่งเร้าต่างๆ เมื่อผู้ป่วยสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นทั้งภายนอกหรือภายในร่างกาย กล้ามเนื้อบริเวณหลอดลมก็จะเกิดการหดเกร็ง ผนังหลอดลมทำให้บวมหนาขึ้นและสร้างเสมหะมากขึ้น ทำให้หลอดลมตีบแคบลงและหายใจแบบมีเสียง เกิดอาการเหนื่อยหอบ อาการของโรคหอบหืด โรคหอบหืดจะมีตั้งแต่ระดับน้อยไปจนถึงรุนแรง โดยระดับน้อยนั้นผู้ป่วยจะมีอาการหายใจลำบากและเหนื่อยจนอ่อนแรงจนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ยไม่สามารถทำอะไรได้ ในระดับกลาง ผู้ป่วยจะเริ่มเกิดอาการเหนื่อยหอบร่วมกับแน่นหน้าอก เวียนศีรษะ แต่ยังคงควบคุมอัตราการหายใจของตัวเองได้อยู่ ส่วนในระดับมากของโรคหอบหืด ผู้ป่วยจะเกิดอาหารเหนื่อยหอบจนหายใจแรงถี่ กล้ามเนื้อชา เจ็บแบบบีบบริเวณทรวงอก และไม่มีแรงแม้แต่จะยืนจนถึงขั้นชักต้องรีบนำตัวส่งถึงมือแพทย์โดยเร็วไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้ สาเหตุของโรคหอบหืด โรคหอบหืดเกิดจากการที่มีสิ่งเร้ามากระตุ้นร่างกายผู้ป่วย ได้แก่ ความเครียด การทำงานหนักจนส่งผลต่อหัวใจ การหักโหมออกกำลังกาย ความแออัดของสถานที่ อากาศเย็น สิ่งที่เป็นภูมิแพ้อย่างดอกไม้ ฝุ่น อากาศที่เปลี่ยนแปลง อาหาร ขนสัตว์ เกสรดอกหญ้า หรือแม้แต่การรับประทานอาหารที่ใส่สารกันบูดก็สามารถทำให้เกิดโรคหอบหืดได้ การรักษาโรคหอบหืด 1.ผู้ป่วยโรคหอบหืดควรออกกำลังกาย โดยการเดินบ่อย ๆ ว่ายน้ำ วิ่งเหยาะ ๆ

รอบรู้เรื่องโรคหอบหืด Read More »

สลัดแซ่บ เพื่อสุขภาพและรสชาติที่ลงตัว

สลัดแซ่บ

คนที่อยู่ในเมืองใหญ่คงเคยมีความรู้สึกเบื่ออาหารจำพวกเนื้อสัตว์  ทั้งหมูเห็ดเป็ดไก่ เห็นแล้วพาลจะโยนทิ้งไปทั้งจานก็มี  แต่กลับรู้สึกว่าอยากรับประทานอะไรที่เผ็ดๆ แซ่บๆ สดๆ ซึ่งไม่พวกกุ้งเต้น ลาบแดง หรือยำเนื้อน้ำตกสีแดงฉาน (อาหารที่ยังสดไม่ผ่านความร้อนพวกนี้จะเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคหรือพยาธิเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย)  สิ่งที่รู้สึกว่าอยากรับประทานมากๆ กลับเป็นอาหารจำพวกผักสด หรือสลัด ทั้งนี้อาจเป็นเพราะอาหารที่คนในเมืองใหญ่รับประทานกันอยู่เป็นประจำมักเน้นที่ที่เนื้อสัตว์ ไม่ค่อยได้รับประทานผัก หรือไม่ก็เจอแต่ผัดผัก หรืออย่างดีก็แตงกวาที่ใส่มากับข้าวมันไก่  คนในเมืองหลวงรวมถึงเมืองใหญ่ๆ ส่วนใหญ่ก็มักอยากไปอยู่อาศัยตามต่างจังหวัดหรือในชนบท  อยากจะไปเก็บผักพื้นบ้านตามธรรมชาติ ตามริมรั้ว มารับประทาน เพราะต่างก็เบื่อมลพิษ เบื่ออาหาร และเบื่อการจราจรที่ติดขัดเต็มประดา  น้ำสลัดรสชาติแบบไทยๆ การที่สลัดผักจานหนึ่งจะมีความดึงดูดใจให้น่ารับประทานนั้น  นอกเหนือจากผักที่ประกอบอยู่ในจานนั้นแล้ว น้ำสลัดก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดความอยากรับประทานขึ้นได้   ปกติแล้วน้ำสลัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำส้มสายชูกับเครื่องปรุงแต่งกลิ่นรส เช่น น้ำตาล เกลือ น้ำมะนาว ตีผสมให้เข้ากันดี อาจเติมน้ำมันสลัด น้ำมันพืช แป้งข้าวสาลี ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น น้ำนมสด นมข้นหวาน และอาจเติมผักผลไม้ ไข่ไก่ สมุนไพร เครื่องเทศเ ช่น พริกไทย กระเทียม ลงไปให้มีกลิ่นรสที่น่ารับประทาน   แต่ทว่าการไปหารับประทานสลัดตามร้านอาหาร ก็จะได้แต่สลัดผักที่ใช้น้ำสลัดสไตล์ตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นน้ำสลัดครีม 

สลัดแซ่บ Read More »

เคล็ดลับสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ รู้จักเท้าตัวเองก่อนเลือกรองเท้า

เคล็ดลับสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ รู้จักเท้าตัวเองก่อนเลือกรองเท้า

เมื่อคิดจะออกกำลังการด้วยการวิ่ง สิ่งที่นักวิ่งหน้าใหม่คิดถึงก็คือ รองเท้าวิ่ง แล้วก็ดิ่งไปหาซื้อรองเท้าวิ่งที่ถูกใจ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะนักวิ่งหน้าใหม่จำนวนไม่น้อย ที่ต้องบอกลารองเท้าคู่สวย หลังใส่วิ่งเพียงไม่กี่ครั้ง เพราะละเลยบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญก่อนการเลือกซื้อรองเท้า นั่นก็คือ การรู้จักกับเท้าของตัวเอง ที่ถือว่าเป็นเคล็ดลับสำคัญ สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่เลยก็ว่าได้ – รูปแบบของอุ้งเท้าลักษณะต่างๆ รูปเท้าของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน โดยแยกตามลักษณะของฝ่าเท้าหรืออุ้งเท้า นักวิ่งหน้าใหม่ทั้งหลายควรทำความรู้จัก เพราะส่งผลต่อการวางเท้าในขณะวิ่ง และมีผลกับการเลือกรองเท้าด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ลักษณะอุ้งเท้าที่พบทั่วๆ ไปมีดังนี้ 1. อุ้งเท้าปกติ (Normal Arch) เป็นอุ้งเท้าที่พบได้มากที่สุด เป็นอุ้งเท้าที่มีส่วนเว้า ส่วนโค้งที่พอเหมาะกับการรองรับน้ำหนัก โดยรอยเว้ากลางอุ้งเท้าจะเข้าไปลึกไม่เกินกึ่งกลางเท้า 2. อุ้งเท้าแบน (Flat Arch) อุ้งเท้าชนิดนี้ จะมีความโค้งของอุ้งเท้าน้อยหรือไม่มีเลย ฝ่าเท้าจะมีลักษณะแบนราบหรือเกือบแบนราบ3. อุ้งเท้าสูง (High Arch) เป็นเท้าที่มีความโค้งของอุ้งเท้ามากกว่าปกติ อุ้งเท้าลึกเกินครึ่งของฝ่าเท้า ทำให้มีเนื้อเท้าตรงกลางเท้าไม่มากนัก – การตรวจสอบว่าอุ้งเท้าของตัวเองเป็นแบบใด นักวิ่งหน้าใหม่หลายคนอาจสงสัยว่าตัวเองมีอุ้งเท้าแบบใด การตรวจสอบก็ไม่ยาก โดยทำตามเคล็ดลับดังต่อไปนี้1. เตรียมกระดาษสำหรับวางเท้าสองข้าง โดยมีขนาดใหญ่กว่าเท้า แล้ววางกระดาษลงบนพื้น2. เอาเท้าจุ่มน้ำจนฝ่าเท้าเปียกชุ่ม3. นำเท้าวางลงบนกระดาษที่เตรียมไว้ ลงน้ำหนักเต็มที่ตามปกติ

เคล็ดลับสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ รู้จักเท้าตัวเองก่อนเลือกรองเท้า Read More »

อาหารต้านหวัด สร้างภูมิต้านทาน

อาหารต้านหวัด

เวลาเราขอพร สิ่งหนึ่งที่เรามักขอกันคือ ขอให้มีสุขภาพดี  ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ที่เคยเจ็บออดๆ แอดๆ ก็ขอให้หายเป็นปลิดทิ้งแล้วกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์ แต่ก่อนที่เราจะมีสุขภาพแข็งแรง ก็ต้องรู้จักป้องกันตัวเองจากโรคภัยที่จะมาตามฤดูกาล ช่วงนี้เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว หลายคนที่ร่างกายปรับสภาพไม่ทันอาจจะทำให้เจ็บป่วยหรือเป็นหวัดได้ง่าย ลองมาดูแลสุขภาพเพื่อสร้างภูมิต้านทานจากอาหารกัน  สำหรับสารอาหารที่ช่วยในเรื่องของการสร้างภูมิต้านทาน หลายคนก็จะนึกถึงวิตามินต่างๆ แต่ส่วนใหญ่ได้ยินคำว่าวิตามิน ก็จะนึกถึงวิตามินในรูปแบบเม็ด หรือแบบที่เป็นอาหารเสริม แต่ใครจะรู้บ้างว่าวิตามินนั้นก็มีในอาหารหลัก 5 หมู่ของเรา โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปซื้อให้เสียเงินเยอะแยะ และยิ่งถ้ากินอาหาร 5 หมู่ให้หลากหลาย เป็นประจำสม่ำเสมอ เราก็แทบจะไม่ขาดวิตามินต่างๆ เลย วิตามินซีต้านหวัด วิตามินที่หลายคนคิดว่าสามารถป้องกันหวัดได้ คงไม่พ้น “วิตามินซี” หรือ “กรดแอสคอร์บิก” เป็นวิตามินชนิดละลายน้ำ วิตามินซีมีประโยชน์มากมาย มักใช้ในการรักษาและป้องกันโรคลักปิดลักเปิด นอกจากนี้ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมและการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น และมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวัน ไม่สามารถป้องกันหวัดได้ และไม่ได้ลดความเสี่ยงต่อการเป็นหวัด แต่ในผู้ที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ จะสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดได้ถึง 50% อย่างไรก็ตามพบว่าการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวันจะลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดได้ ขนาดวิตามินซีที่แนะนำให้รับประทานเพื่อลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดคือ 1-3 กรัมต่อวัน แต่ในผู้ที่ไม่เคยรับประทานวิตามินซีมาก่อน พอเป็นหวัดแล้วหันมาทาน จะไม่สามารถลดความรุนแรงหรือระยะเวลาการเป็นหวัดได้ ยำเห็ดรวมต้านหวัด

อาหารต้านหวัด Read More »