ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ สรรพคุณที่มีมากกว่าที่คุณคิด

ว่านหางจระเข้ หรือ Aloe Vera เป็นพืชสมุนไพรที่พบได้ทั่วไปตามธรรมชาติ อยู่ในตระกูล Lilium มีแหล่งกำเนิดในแถบชายฝั่งของทะเลเมดิเตอร์เรเนียนทางตอนใต้ของทวีปแอฟริกา อีกทั้งเจริญเติบโตได้ดีในบ้านเราที่เป็นเขตร้อน สามารถทนต่อโรคและความแห้งแล้งได้เป็นอย่างดี มาดูประโยชน์ของว่านหางจระเข้ สรรพคุณที่มีมากกว่าที่คิดใช้กันมาตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันมีอะไรบ้างไปดูพร้อม ๆ กัน

สรรพคุณมากมายของว่านหางจระเข้

1. ช่วยป้องกันไม่ให้เกิดโรคเบาหวาน ด้วยการนำเนื้อวุ้นมารับประทาน หรือจะทำเป็นน้ำปั่นสูตรว่านห่างจระเข้ก็ได้ ช่วยบรรเทาอาการและป้องกันอาการต่าง ๆ ของโรคได้

2. ช่วยแก้อาการปวดศีรษะ โดยการตัดเอาใบสดแล้วทาด้วยปูนแดงด้านหนึ่งไปปิดไว้ตรงขมับข้างที่ปวดจะช่วยให้ทุเลาลง หายได้เร็วขึ้น

3. รักษาแผนในกระเพาะอาหาร ป้องกันและลดการเกิดแผลในขณะท้องว่าง ช่วยรักษาโรคระบบทางเดินอาหารต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

4. ช่วยแก้กระเพาะอักเสบ โดยนำใบมาปอกเปลือกออกล้างให้สะอาดเหลือแต่วุ้นด้านใน รับประทานวันละ 2 ครั้ง ๆ ละ 2 ช้อนโต๊ะเป็นประจำทุกวัน

5. ใช้เป็นยาระบาย เปลือกของว่านหางจระเข้จะมีน้ำยางสีเหลืองที่มีสารแอนทราควิโนน มีฤทธิ์เป็นระบายอื่น ๆ หากนำน้ำยางนี้ไปเคี่ยวให้น้ำระเหย ทิ้งเอาไว้ให้เย็น จะได้สารสีตาลเข้ม หรือเรียกกันว่า ยาดำ ซึ่งคนในสมัยโบราณนำมาเป็นส่วนผสมในตำรับยาแผนโบราณในการช่วยให้ระบบการขับถ่ายทำงานได้ดี

6. รักษาอาการท้องผูก อีกหนึ่งประโยชน์ของว่านหางจระเข้ ที่ใช้ยางมาเคี่ยวให้งวด ทิ้งไว้ให้เย็น จนได้ก้อนยาสีดำ ใช้ประมาณ 1 ช้อนชา นำน้ำเดือดประมาณ 1 ถ้วย ผสมคนเข้าด้วยกันจนละลาย ในผู้ใหญ่ทานครั้งละ 2 ช้อนชา ส่วนเด็กทานครั้งละ 1 ช้อนชา ก่อนนอนเป็นประจำจนกว่าอาการจะดีขึ้น

7. ใช้รักษาโรคริดสีดวงทวาร ซึ่งจะใช้เนื้อวุ้นจากใบ เหลาให้มีความแหลมเล็กน้อย นำไปแช่ในตู้เย็นหรือในน้ำแข็งจนเนื้อรวมตัวกัน จากนั้นไปเหน็บในช่องทวารหนัก ทำเป็นประจำวันอย่างน้อยละ 1-2 ครั้งจนกว่าจะหาย

8. ส่วนรากและเหง้า ช่วยแก้อาการหนองในได้ และแก้มุตกิดหรือระดูขาวในผู้หญิง

9. ต้นของว่านหางจระเข้มีรสเย็น ใช้ดองกับสุราดื่มช่วยดับน้ำคาวปลาได้

10. บรรเทาและแก้อาการปวดตามข้อ โดยนำเนื้อวุ้นมาทานครั้งละ 1-2 ช้อนโต๊ะ วันละอย่างน้อย 3 ครั้ง

11. ส่วนใบนำมาผสมกับสุราพอกรักษาฝี ช่วยให้อาการดีขึ้นได้

12. ช่วยรักษาแผลสด แผลริมฝีปาก แก้ฝี ด้วยการใช้เนื้อวุ้นมาแปะเอาไว้ให้มิดชิด และใช้ผ้าพันไว้ หยดน้ำเมือกลงที่แผลให้ชุ่มอยู่เสมอ

13. รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก ดับพิษร้อน บรรเทาการปวดร้อนที่เกิดจากแผล โดยนำเนื้อวุ้นจากใบสดล้างน้ำ หั่นบาง ๆ นำมาทาหรือแปะไว้ตลอดเวลา จะช่วยให้แผลสมานกันเร็วขึ้น

14. ช่วยขจัดรอยแผลเป็น หรือช่วยทำให้จางลง รวมถึงการป้องกันไม่ให้เกิดรอยแผลเป็นอีกด้วย

15. รักษาตาปลา และโรคฮ่องกงฟุต โดยใช้เนื้อวุ้นล้างสะอาดปิดไว้บริเวณที่เป็น หมั่นเปลี่ยนบ่อย ๆ จนกว่าจะดีขึ้น

16. ปกป้องผิวจากแสงแดด ด้วยการทาที่ผิวก่อนออกแดด แต่เนื่องจากใบสดมีฤทธิ์สมาน อาจทำให้ผิวแห้งควรนำมาทำเป็นโลชั่นทาผิวจะดีที่สุด

17. ช่วยรักษาอาการผิวแห้งไหม้ ที่เกิดจากการทำร้ายจากแสงแดด โดยใช้เนื้อวุ้นทาที่ผิวบ่อย ๆ หรือทำเป็นโลชั่นก็ได้

18. ช่วยรักษาฝ้าบนใบหน้า และโรคสะเก็ดเงิน

ประโยชน์ที่ไม่ควรมองข้าม ของว่านหางจระเข้

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้นั้นสามารถช่วยต้านอนุมูลอิสระ ชะลอความแก่ เสริมสร้างภูมิคุ้มกันโรคได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ รวมถึงกรดอะมิโนมากมายหลายชนิดที่มีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น แมกนีเซีม โพแทสเซียม ทองแดง แมงกานีส ซีลีเนียม โครเมียม วิตามินเอ ซี อี วิตามินบี 1 บี 2 บี 3 บี 6 บี 9 และเป็นพืชไม่กี่ชนิดที่มี บี 12 ด้วย นอกจากนี้ยังมีสารโคลีน เป็นต้น ที่จะมีส่วนช่วยในการย่อยอาหาร ทำความสะอาดระบบทางเดินอาหาร ลำไส้ใหญ่ ดีท็อกซ์ร่างกายล้างสารพิษตกค้าง ลดปริมาณแบคทีเรียในลำไส้ได้เป็นอย่างดี

ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ มีมากมาย แต่สำหรับบางคนแล้วอาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ซึ่งจากการวิจัยพบเพียงแค่ไม่ถึง 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น ทำให้ผิวหนังเป็นผื่นแดง หรือเจ็บแสบด้วย หากมีพบว่าแพ้ควรรีบล้างออกด้วยน้ำสะอาด รวมถึงหยุดใช้ในทันดี ดังนั้นหากไม่แน่ใจว่าแพ้หรือไม่ควรใช้แต่น้อยและใช้อย่างระมัดระวังด้วย

เครดิตภาพ : pixabay.com / worldcongressacg2017.org

YouTube :

รีบหามาใช้ !! 17 ประโยชน์ที่อาจยังไม่รู้ ของว่านหางจระเข้