สมดุลของสมองมีความสำคัญพฤติกรรมและการดำรงชีวิตของคนเรา อารมณ์ที่ผิดปกติไม่ว่าจะเป็น เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ล้วนเกิดจากการที่สมองขาดความสมดุล บางครั้งประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเพราะได้รับไขมันชนิดไม่ดีเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป อาหารที่มีไขมันชนิดไม่ดีนอกจากจะส่งผลให้สมองทำงานช้าลงแล้ว ยังทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นแล้วไปเพิ่มเสี่ยงของโรคหัวใจให้สูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นลดปริมาณไขมันที่ไม่ดีให้น้อย และที่ไม่ควรพลาดที่จะรับประทานคือไข่ เพราะในไข่มีโคลีนสูง โคลีนนี้เป็นสารอาหารสำคัญที่จะช่วยบำรุงสมองและป้องกันความจำเสื่อมได้ ทั้งยังเป็นสารสำคัญที่จะช่วยสร้างสารสื่อประสาทในสมองที่เรียกว่า อะเซทิลโคลีน ดังนั้นจึงควรรับประทานไข่วันละ 1 ฟอง
อาหารรอบตัวที่ช่วยปรับสมดุลสมอง
อาหารชนิดแรกคือ กาแฟ คาเฟอีนที่พบในกาแฟเป็นสิ่งที่สามารถลดอาการซึมเศร้าลงได้ เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกตื่นตัวและสดชื่นมากขึ้น ตั้งแต่ไม่กี่นาทีหลังดื่มเลยทีเดียว ดังนั้นในคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือมีอาการซึมเศร้าบ่อยๆ แค่ดื่มกาแฟวันละ 1-2 ถ้วย ก็จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว แต่ที่สำคัญคือไม่ควรดื่มหลังจากเวลา 15.00 น. ขึ้นไป เพราะสารคาเฟอีนที่ค้างอยู่จะทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับและส่งผลเสียได้นั่นเอง อาหารปรับสมดุลสมองชนิดต่อมาคือ กรดโฟลิก สามารถลดอารมณ์ซึมเศร้าและทำให้เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น โดยจากการวิจัยให้คำแนะนำว่าควรรับประทานกรดโฟลิกให้ได้วันละ 200 ไมโครกรัม แล้วอาการซึมเศร้าจะหายไป กรดโฟลิก 200 ไมโครกรัม นั้นได้จากการรับประทานผักโขมสุก 1 ถ้วยและน้ำส้ม 1 แก้วเท่านั้น อาหารลดอาการซึมเศร้าอีกชนิดคือ ปลาทะเล ซึ่งมีกรดโอเมก้า 3 สูง ซึ่งนอกจากจะข่วยเสริมสร้างสมองและพัฒนาการการเรียนรู้ที่ดีแล้ว ก็สามารถลดอารมณ์ซึมเศร้าได้ดี เพราะเมื่อบริโภคปลาในปริมาณมากจะทำให้ระดับเซโรโทนินเพิ่มสูงขึ้น จึงลดอาการซึมเศร้า หดหู่และป้องกันการเกิดโรคหัวใจได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากไม่สะดวกรับประทานปลา ก็อาจรับประทานน้ำมันปลาเสริมที่มีอีพีเอและดีเอชเอวันละ 1 กรัมแทนก็ได้
หลักการบริโภคเพื่อเสริมสร้างการทำงานของสมอง
หากต้องการเสริมสร้างการทำงานของสมองให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ให้ดำเนินการดังนี้ ประการแรก ต้องรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ ตรงตามเวลาและไม่งดอาหารเช้าเด็ดขาด ต่อมา ให้เลือกรับประทานอาหารที่มีไขมันต่ำแต่ต้องได้รับปริมาณไขมันที่เพียงพอด้วยและเลี่ยงอาหารตามกระแสในการลดน้ำหนัก พยายามรับประทานปลาทะเลสัปดาห์ละ 2-3 ครั้ง รวมถึงอาหารที่มีโคลีนสูง รวมถึงเน้นการบริโภคผักและผลไม้เป็นหลัก โดยควรรับประทานให้ได้วันละ 8-10 ส่วนและควรมีความหลากหลายเพื่อการได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน อีกทั้งต้องหมั่นออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพราะจะทำให้ร่างกายหลั่งสารแห่งความสุขออกมามากขึ้น
อาหารมีผลต่ออารมณ์ที่แปรผันไปในแต่ละวัน พฤติกรรมและการดำรงชีวิตของคนเราได้รับผลมาจากความสมดุลของสมอง แล้วทำให้เกิดอารมณ์ที่ผิดปกติไม่ว่าจะเป็น เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ล้วนเกิดจากการที่สมองขาดความสมดุล ดังนั้นจึงควรเลือกกินอาหารอย่างถูกหลักและมีประโยชน์เพื่อให้สมองเกิดความสมดุลอยู่เสมอ
เครดิตภาพจาก pixabay.com
#อาหารสมอง #การดูแลตัวเอง #อาหารสุขภาพ