อนุมูลอิสระและสารต้าน

อนุมูลอิสระและสารต้าน

อนุมูลอิสระ เพราะอยู่แบบอิสระก็เลยไม่ค่อยคงตัว  ดังนั้นสิ่งที่อนุมูลอิสระจะทำก็คือไปแย่งพลังงานมาจากส่วนต่างของร่างกายมนุษย์ แต่ส่วนต่างๆ เหล่านั้นเป็นส่วนที่สำคัญของร่างกาย ไม่ว่าจะเป็นภูมิคุ้มกัน หรือเซลล์ที่อยู่ในร่างกาย  ถ้าเกิดขึ้นน้อยๆ ก็จะทำให้ผิวมีริ้วรอย แก่ก่อนวัย รวมถึงความเสื่อมของอวัยวะต่าง ถ้าเกิดขึ้นมากๆ ก็ อาจทำให้เกิดเนื้อร้ายหรือกลายเป็นเซลล์มะเร็ง   ปกติแล้ว ร่างกายมนุษย์มีอนุมูลอิสระมาตั้งแต่เกิด แต่ร่างกายสามารถกำจัดอนุมูลอิสระได้ดีในช่วงวัยเด็กและวัยรุ่น แต่เมื่อร่างกายอ่อนแอ เครียด หรืออายุมากขึ้น ภูมิคุ้มกันจะไม่สามารถต่อสู้กับอนุมูลอิสระได้ อนุมูลอิสระจะโจมตีจนทำให้เซลล์ทำงานผิดปกติ

ที่มาของอนุมูลอิสระ

ร่างกายจำเป็นต้องอาศัยออกซิเจนช่วยในกระบวนการเผาผลาญสารอาหาร  และกระบวนการนี้เองที่ทำให้ได้ออกซิเจนที่มีประจุลบ ซึ่งก็คือ อนุมูลอิสระ แล้วไปรวมตัวกับสารบางชนิดในร่างกายเกิดเป็นสารพิษที่ทำลายเนื้อเยื่อ หรืออาจไปเปลี่ยนแปลงข้อมูลทางพันธุกรรมภายในเซลล์ ทำให้เซลล์ปกติแปรสภาพเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด  สาเหตุที่ทำให้เกิดอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้นในร่างกายได้แก่ ร่างกายขาดวิตามินและเกลือแร่บางชนิด  ได้รับรังสียูวีแล้วทำให้เกิดสารอนุมูลอิสระ ทำให้เกิดริ้วรอยก่อนวัยอันควร   สัมผัสมลพิษต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ควันรถ ควันบุหรี่ สารเคมีปนเปื้อน ยาฆ่าแมลง   การกินอาหารที่ผ่านการทอดด้วยอุณหภูมิสูง อาหารปิ้ง ย่าง และสารปรุงแต่งอาหาร   การใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผสมสารเคมีต่างๆ  รวมถึงเกิดความเครียด พักผ่อนไม่เพียงพอ และไม่ออกกำลังกาย

สารต้านอนุมูลอิสระ

ปกติแล้วร่างกายจะมีกลไกการกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในร่างกาย เรียกว่า สารต้านอนุมูลอิสระ ซึ่งร่างกายสร้างขึ้นเองได้ แต่เมื่ออายุมากขึ้น ความเครียด วิถีชีวิตการกินอยู่ในปัจจุบัน ทำให้สารต้านอนุมูลอิสระลดน้อยลง ไม่เพียงพอต่อการต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นในทุกวัน   แต่ถ้าร่างกายได้รับสารต้านอนุมูลอิสระในปริมาณที่มากพอ จากอาหารและน้ำดื่มมาช่วยเสริมการทำงาน ร่างกายก็จะอยู่ในสภาพปกติไม่เสื่อมเร็วก่อนเวลาอันควร    แหล่งของสารต้านอนุมูลอิสระคือผักและผลไม้ที่มีวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี เบต้าแคโรทีน   ซึ่งก็คือ พื้นบ้านไทยๆ ที่มีสีเขียวจัด ใบตำลึง ใบยอ ใบย่านาง ใบชะพลู ใบบัวบก ใบแมงลัก ใบเหมียง ผักกูด ผักชีลาว ผักแพว ผักแว่น ยอดแค ใบขี้เหล็ก ใบกะเพรา เหล่านี้จะมีเบต้าแคโรทีนมากกว่าแครอท ที่ชาวตะวันตกมักบอกว่าแครอทมีเบต้าแคโรทีนสูงที่สุด แต่คนไทยวิจัยแล้วพบว่าผักพื้นบ้านไทยๆ มีมากกว่า อย่างไรก็ตาม ควรกินแครอท และฟักทอง ส้ม องุ่น ผักผลไม้หลากหลายสีด้วยก็จะยิ่งสร้างสารต้านอนุมูลอิสระได้มากขึ้น

ลองสังเกตดูว่า มีอาการเหนื่อยง่ายขึ้น เมื่อโดนแดดไม่นานจะมีกระและฝ้า และริ้วรอยที่มาก่อนวัย หรือไม่  เพราะอาการเหล่านี้กำลังบอกว่าร่างกายมีอนุมูลอิสระเพิ่มมากขึ้น และได้รับสารต้านอนุมูลอิสระไม่เพียงพอ  ให้ลองหาผักพื้นบ้านแบบไทยๆ มารับประทาน  เท่านี้ร่างกายก็จะมีสารต้านอนุมูลอิสระเพิ่มขึ้นแล้ว

เครดิตภาพจาก pixabay.com

#ต้านอนุมูลอิสระ #สุขภาพดีได้ง่ายๆ #การดูแลตัวเอง