การกิน คีโต ไดเอต (Keto Diet) ช่วยเรื่องสุขภาพจริงหรือไม่

การกิน คีโต ไดเอต (Keto Diet) ช่วยเรื่องสุขภาพจริงหรือไม่

 เมื่อพูดถึงการกินอาหารเพื่อสุขภาพ หรือการกินหารเพื่อควบคุมหรือลดน้ำหนัก การกินแบบ คีโต ไดเอต (Keto Diet)  จะเป็นตัวเลือกอันดับแรกที่ผู้ที่ต้องการควบคุมหรือลดน้ำหนักเลือกเป็นอันดับแรก เพราะการกินแบบ คีโต ไดเอต (Keto Diet) ถือว่าเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่รักสุขภาพและกลุ่มผู้ลดน้ำหนักเพราะการกินแบบ คีโต ไดเอต นอกจากจะช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักแล้วยังช่วยป้องกันรักาาโรคอื่นๆได้อีกด้วยเช่น ช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานเพราะอาหารที่รับประทานเข้าไปจะไม่น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรทปริมารน้อย นอกจากจะส่งผลดีแล้วผลค้างเคียงก็มีเช่นกัน วันนี้เราจะมีแนะนำว่าการกินแบบคีโต ไดเอตมีผลดีอย่างไร และมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง แล้วเหมาะกับคนกลุ่มไหนเพราะอะไรวันนี้เราจะมีอธิบายให้เข้าใจกันค่ะ

ข้อดีของ คีโต ไดเอต (Keto Diet) ต่อสุขภาพ 

แม้ว่าการลดน้ำหนักแบบ คีโต ไดเอต (Keto Diet) จะเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่รักสุขภาพแล้วคีโตไดเอทยังนำมาใช้กับนักกีฬาและนักเพาะกายด้วย นอกจากจะเป็นการกินอาหารเพื่อลดน้ำหนักแล้วยังสามารถใช้หลักการกินแบบ คีโต ไดเอต (Keto Diet) เพื่อเป็นการรักษาโรคได้ ใช้การกินแบบ คีโต ไดเอต (Keto Diet)  กับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง โปรตีนจะช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง และการลุกลามของเซลล์มะเร็งในหนูทดลองได้ ในส่วนของการลดน้ำหนักนั้นการรับประทานแบบคีโตไดเอทเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายเพราะไม่ต้องนับปริมาณแคลอรี่แถมยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกายมีผลทำให้น้ำหนักตัวลดลง แล้วยังช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานในผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติอ นอกจากโลกที่กล่าวมาแล้วยังมีโรคอื่นๆเช่นลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน กลุ่มอาการโรคถุงน้ำดีการบาดเจ็บทางสมองและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ

นอกจากมีผลดีต่อร่างกายแล้วก็ยังมีผลค้างเคียงจากกินอาหารแบบ  คีโต ไดเอต (Keto Diet)

นอกจากจะมีผลดีแล้วก็ยังจะมีผลข้างเคียงอีกด้วยซึ่งผู้ที่จะลดน้ำหนักโดยการกินอาหารแบบ คีโต ไดเอต (Keto Diet) ส่งผลต่อร่างกายของเราด้วย เช่นทำให้ร่างกายได้รับสารอาหารไม่เพียงพอจนเกิดการขาดสารอาหารเพราะได้รับสารอาหารบางชนิดน้อยเกินไป การที่ร่างกายของเราเผาผลาญไขมันแทนน้ำตาลทำให้เรารู้สึกไม่สบายตัวคลื่นไส้ปวดหัวอาเจียนอ่อนเพลียและท้องผูกแต่อาการเหล่านั้นจะหายไปภายใน 1 สัปดาห์ กระบวนการคีโตซิส จะถูกขับออกจากร่างกายของเรา จะถูกขับออกจากร่างกายของเราผ่านทางปัสสาวะ ทำให้เราปัสสาวะบ่อยเสี่ยงต่อภาวะขาดน้ำและแร่ธาตุหากร่างกายของเราได้รับน้ำและแร่ธาตุไม่เพียงพอ อาจทำให้ ไตเ กิดความเสียหายฉับพลันหรือเกิดภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะนั่นเองนอกจากมีผลต่อสุขภาพร่างกายของเราแล้วยังเกิดการผันผวนของน้ำหนักตัวหรือที่เรียกว่า โยโย่เอฟเฟค และอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดโรคอ้วนหรือโรคเบาหวานตามมานอกจากนั้นยังทำให้เรามีอาการเหนื่อยล้าท้องผูกประจำเดือนมาไม่ปกติ  หลัก การกินอาหารแบบคีโต ไดเอต (Keto Diet) นี้เหมาะสำหรับ ผู้ที่มีน้ำหนักมากเกินไป ส่วนผู้ที่มีปัญหาเรื่องสุขภาพที่ต้องการจะกินอาหารแบบคีโตไดเอทควรได้รับคำปรึกษาจากแพทย์ผู้เชี่ยววชาญก่อนเริ่มโปรแกรม นะคะเพื่อความเหมาะสมต่อร่างกายของเรานั้นเองค่ะ

เครดิตภาพ : pngkit.com, trueplookpanya.com

#คีโต #การดูแลตัวเอง #อาหารเสริมพลัง