หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเร่งสมองฝ่อ

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเร่งสมองฝ่อ

อาการสมองฝ่อเกิดจากความผิดปกติของสมอง ผู้ป่วยจะเริ่มจากการหลงๆ ลืมๆ ในช่วงแรกอาจจะเป็นเล็กน้อย จากนั้นอาการก็จะค่อยๆ เริ่มเป็นมากขึ้น มีสาเหตุมาจากเซลล์สมองเกิดการเสื่อมและมีจำนวนเซลล์ลดน้อยลงกว่าปกติ ปัจจุบันเรายังไม่ทราบสาเหตุที่แท้จริงของโรค แต่มักจะพบได้มากที่สุดในผู้สูงอายุ หรือผู้ที่มีอายุตั้งแต่ 75 ปี ขึ้นไป ซึ่งก็มีผลการวิจัยที่สรุปออกมาว่า พฤติกรรมในชีวิตประจำวันของเราก็อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคนี้ขึ้นได้ ดังนั้นเป็นไปได้ใครที่มีพฤติกรรมต่อไปนี้ควรทำการปรับเปลี่ยน มีอะไรบ้างนั้นลองไปดูกันได้เลย 

1. รับประทานอาหารมากเกินไป เนื่องจากการรับประทานอาหารมากจะทำให้หลอดเลือดแดงในสมองแข็งตัว เป็นสาเหตุหนึ่งของการเกิดอาการความจำสั้น 

2. อดอาหารเช้า การอดอาหารเช้าจะทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดต่ำ จึงเกิดสภาวะมีสารอาหารไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ ทำให้เกิดอาการสมองเสื่อมได้ การอดอาหารเช้ายังเป็นสาเหตุของการเกิดโรคร้ายแรงอีกหลายชนิด เช่น โรคเกี่ยวกับความดันเลือด โรคเบาหวาน โรคกระเพาะ และโรคหัวใจ เป็นต้น 

3. ชอบทานของหวาน จะมีส่วนทำให้เกิดการขัดขวางการดูดซึมโปรตีนและสารอาหารที่เป็นประโยชน์อย่างอื่น จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการขาดสารอาหาร และเป็นการขัดขวางการพัฒนาของสมอง  

4. การสูบบุหรี่ สารบางชนิดที่อยู่ในบุหรี่เป็นสาเหตุสำคัญของโรคอัลไซเมอร์และสมองฝ่อ       

5. ไม่ค่อยใช้ความคิด ทราบกันไหมค่ะว่าจริงๆ แล้วการคิดเป็นการช่วยบริหารสมองอย่างหนึ่ง หากเราไม่คิดอาจเป็นสาเหตุทำให้เกิดอาการสมองฝ่อได้ แต่ก็ต้องมีลิมิตในการคิดกันด้วยนะคะ เพราะถ้าคิดมากไปจะทำให้คุณเกิดความเครียด ซึ่งก็เป็นผลร้ายต่อสมองเช่นกัน 

6. เป็นคนพูดน้อย เป็นการแสดงให้เห็นถึงประสิทธิภาพของการใช้สมองอย่างหนึ่ง

7. ใช้สมองในขณะที่ร่างกายไม่สบาย จะเป็นผลทำให้ประสิทธิภาพของสมองลดลง หรือก็คือนอกจากทำร้ายร่างกายแล้วยังเป็นการทำร้ายสมองอีกด้วย

8. การสูดอากาศที่ไม่บริสุทธิ์เข้าไป จะทำให้ออกซิเจนในสมองมีน้อยเป็นผลให้สมองมีประสิทธิภาพในการทำงานลดลง 

9. พักผ่อนไม่เพียงพอหรืออดนอนเป็นเวลานาน จะทำให้เซลล์ในสมองตายได้ เพราะการพักผ่อนนอนหลับถือเป็นวิธีหนึ่งที่ทำให้สมองได้พักผ่อน 

10. การนอนคลุมโปง เป็นการเพิ่มคาร์บอนไดออกไซด์ให้มีมากขึ้น และเป็นการลดออกซิเจนให้น้อยลง ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของสมอง          

ทราบกันแบบนี้แล้ว ใครที่มีพฤติกรรมอย่างที่กล่าวมาข้างต้น มาปรับเปลี่ยนกันดีกว่าค่ะ เพื่อเป็นการหลีกเลี่ยงและลดความเสี่ยงในการเกิดโรคสมองฝ่อ

เครดิตภาพ : chiangmainews.co.th , sanook.com