7 สัญญาณเตือน ว่าคุณทานหวานมากไป

7 สัญญาณเตือน ว่าคุณทานหวานมากไป วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

ในสังคมไทยพบพฤติกรรมการกินแบบติดหวานได้ทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นขนมหวาน กาแฟเย็น ชาเย็น หรือแม้แต่การปรุงรสด้วยความหวานในอาหาร เป็นต้น สิ่งเหล่านี้ทำให้ระดับน้ำตาลในร่างกายสูงขึ้น เกิดการต้านอินซูลีน จุดเริ่มต้นของโรคมากมาย ดังนั้นควรหมั่นสังเกตอาการของร่างกายอยู่เสมอ ว่ามีสัญญาณเตือนว่าเป็นคนติดหวานแล้วหรือยัง

                  เครื่องปรุงรสชาติพบได้ทั่วไปในอาหารและเครื่องดื่ม พฤติกรรมของคนส่วนใหญ่มักจะเพิ่มน้ำตาลหรือความหวาน เพื่อให้อาหารมีความอร่อยมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะเครื่องดื่มชา กาแฟ น้ำผลไม้ หลายคนชอบทานหวานมากไป หรือแม้แต่การปรุงอาหารประเภทก๋วยเตี๋ยว ผัดไทย ก็ล้วนแต่เป็นสิ่งโปรดปราน เพราะทำให้รู้สึกดี ทานแล้วรู้สึกเจริญอาหาร แต่รู้หรือไม่ว่ายิ่งทานมากยิ่งส่งผลต่อสุขภาพร่างกาย หากสะสมนานวันเข้าอาจจะเป็นโรคติดความหวานขึ้นได้ จนก่อให้เกิดเป็นโรคร้ายต่าง ๆ ตามมา เช่น ภาวะเลือดเป็นกรดมากเกินไป เกิดการสะสมของไขมันทำให้เกิดโรคอ้วนได้ ความดันในเลือดสูงขึ้น อาการง่วงนอนตลอดเวลา โรคกระดูกเปราะและฟันผุ เป็นต้น เมื่อร่างกายส่งสัญญาณเตือนดังต่อไปนี้ แปลว่าคุณเริ่มจะติดหวาน ควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการทานอาหารของตัวเองเพื่อให้มีสุขภาพที่ดีไม่มีโรคร้ายมาทำลายได้

สัญญาณเตือน ว่ากินหวานมากไป

                  1. สมองตื้อและเบลอ โดยเฉพาะหลังจากทานอาหาร เกิดจากระดับน้ำตาลในร่างกายสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว และลดลงอย่างรวดเร็วเช่นกัน ส่งผลให้ความจำไม่ค่อยดี หรืออาจจะร้ายแรงจนสมองเสื่อมลงได้

                  2. หวานไม่เคยพอ อาหารแบบเดิมแต่รู้สึกว่าหวานน้อยกว่าเดิม นั่นแปลว่าร่างกายรับน้ำตาลปริมาณมากเกินไป ต่อมรับรสหวานดื้อต่อน้ำตาลในปริมาณเท่าเดิม อยากทานหวานมากขึ้นและมากขึ้นไปเรื่อย ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเอง

                  3. อ่อนล้า อ่อนแรง เกิดจากร่างกายมีน้ำตาลในร่างกายมากเกินความจำเป็น แม้ว่าน้ำตาลจะเพิ่มพลังงานได้ในทันที แต่ก็หมดเร็วได้เช่นกัน ทำให้รู้สึกเมื่อยล้า อ่อนแรง เป็นอาการที่เกิดขึ้นได้บ่อยและเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย

                  4. กระหายความหวาน มีความรู้สึกอย่างทานอะไรหวาน ๆ และบ่อย ๆ เกิดจากการทานหวานมากไป ต้องรีบทำรักษาเพราะอาจจะทำให้เป็นโรคเสพติดความหวานได้ นอกจากนี้ยังเสี่ยงเป็นโรคต่าง ๆ ตามมาอีกด้วย

                  5. เป็นหวัดบ่อย หากมีอาการไข้หรือเป็นหวัดบ่อย ๆ ที่ไม่ได้เกิดจากอากาศเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว นั่นเป็นสัญญาณเตือนว่า ร่างกายได้รับน้ำตาลมากจนเกินความจำเป็น เพราะน้ำตาลไปทำให้ระบบของภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงไป ทำให้เป็นหวัดได้ง่าย

                  6. ผิวหนังอักเสบง่าย พบได้ง่ายและเป็นบ่อยที่สุดคือ การเกิดสิวที่ใบหน้า แผ่นหลัง หรืออาจจะเป็นโรคโรซาเชีย ผิวหนังจะมีความมันหรือแห้งมากเกินไป เป็นสัญญาณเตือนของร่ายกายในการต้านระดับน้ำตาลที่เพิ่มขึ้น

                  7. อ้วนลงพุง แคลอรี่ที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้เกิดการสะสมของไขมันได้เนื่องจาก น้ำตาลเป็นตัวรบกวนการทำงานของสารอินซูลีน ทำให้อ้วนได้ง่าย นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของโรคอื่น ๆ อีกด้วย

ชนะความหวาน ปรับพฤติกรรมการกิน

              น้ำตาลเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของคาร์โบไฮเดรตช่วยให้พลังงานแก่ร่างกาย พบได้ในผักผลไม้ทั่วไป การทานอาหารที่มีน้ำตาลจากธรรมชาติที่ไม่ผ่านการผลิตจะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย แต่หากทานอาหารที่ผ่านกระบวนการผลิตโดยการผสมน้ำตาลลงไปในอาหาร โดยปริมาณของการทานน้ำตาลผู้ใหญ่และเด็กไม่ควรเกิน 6 ช้อนชา หรือประมาณ 24 กรัมต่อวัน เมื่อทานหวานมากไปจะทำให้เกิดปัญหาด้านสุขภาพขึ้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงความหวานจากอาหารปรุงรสชาติที่มีวางจำหน่ายทั่วไป เปลี่ยนมาเลือกทานเป็นประเภทผักผลไม้จะดีต่อร่างกายมากกว่า    

                  แม้ว่าการทานหวานมากไปจะทำให้เกิดโรคร้ายต่าง ๆ ตามมา แต่หากเลือกทานหวานให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม และหมั่นออกกำลังกายเป็นประจำสม่ำเสมอ นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ ก็จะช่วยให้ร่างกายสมบูรณ์แข็งแรงอายุยืนยาว

เครดิตภาพ : jailike.com / adrenalinerushdiaries.com / perfectbeauty.id

Youtube

7 สัญญาณเตือน ชี้ว่าคุณกิน น้ำตาล มากเกินไป

ติดหวาน!! เสพติดน้ำตาลอันตรายกว่าที่คิด​ | สุขภาพดีกับป้านิดดา

6 อันตรายจากการกินน้ำตาลมากเกินไป

#อาการติดหวาน #อันตรายจากการกินหวาน #อาการเสพติดน้ำตาล