นมถั่วและนมวัว ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในทุกประเทศทั่วโลก จึงมีข้อสงสัยกันว่านมทั้งสองชนิดมีคุณประโยชน์ที่เหมือนหรือแตกต่างกัน ในช่วงระยะเวลา 6-7 ปีที่ผ่านมามีความเชื่อว่าดื่มนมพืชและนมถั่วจะให้สุขภาพที่ดีกว่านมวัว แต่เมื่อวัดกันแก้วต่อแก้วแล้ว ทั้งสองชนิดมีคุณประโยชน์แทบจะไม่แตกต่างกันเลย
ผลิตภัณฑ์นมมีมากมายหลากหลายยี่ห้อซื้อได้ทั่วไปตามท้องตลาด ไม่ว่าจะเป็นนมวัว นมแพะ นมอัลมอนด์ และนมถั่ว นอกจากมีรสชาติที่อร่อยถูกปาก ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย จึงมีการเปรียบเทียบถึงคุณค่าด้านโภชนาการและสารอาหารของนมแต่ละชนิด โดยเฉพาะนมวัว และนมถั่ว เหลือง มีข้อซักถามและถกเถียงกันมากมาย จนต้องทำการวิจัยขึ้นมา แม้ว่ามีบางคนแพ้สารบางชนิดในนมวัว ในขณะที่บางคนอาจแพ้ถั่วในนมได้เช่นกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามขึ้นอยู่กับความนิยมของแต่ละบุคคลว่าชอบรสชาติแบบไหน วันนี้เราว่าเปรียบเทียบกันว่า นมถั่ว VS นมวัว แบบหมัดต่อหมัดว่าไหนดีกว่ากัน
นมวัว กับนมถั่ว ทานแบบไหนดีกว่ากัน
ด้านสารอาหาร เมื่อเปรียบเทียบด้านสารอาหารของนมทั้งสองชนิด พบว่าทั้งนมวัวและนมถั่วเหลืองต่างก็มีสารอาหารที่มีความจำเป็นต่อร่างกายเหมือน ๆ กัน แต่มีปริมาณที่แตกต่างกัน ซึ่งนมแต่ละชนิดจะมีโปรตีนอยู่ประมาณ 8 กรัมต่อแก้ว และมีแร่ธาตุมากมาย เช่น แคลเซียม ฟอสฟอรัส วิตามันเอ วิตามินดี เป็นต้น ในขณะที่นมวัวชนิดไม่พร่องมันเนยมีไขมันอิ่มตัวและคอเลสเตอรอล แต่ในนมถั่วไม่มี แต่มีกรดไขมันโอเมก้า 3 ที่ดีต่อหัวใจ และกรดไขมันอัลฟาไลโนเลอิก เป็นต้น
ด้านวิตามิน ในนมถั่วมีวิตามินประมาณ 1 ใน 10 ของนมวัวเท่านั้น หรือนมวัวมีวิตามินมากกว่านมถั่วประมาณ 20 เท่านั่นเอง
ด้านแคลเซียม ถั่วเมื่อถูกนำมาสกัดทำเป็นนมจึงมีแคลเซียมออกมาในปริมาณที่จำกัด ทำให้ไม่สามารถดื่มเพื่อสร้างแคลเซียมแก่ร่างกายได้แบบนมวัวที่มีมากกว่าได้ แต่สามารถเพิ่มส่วนผสมลงในนมถั่วเพื่อเสริมคุณค่าทางโภชนาการให้สมบูรณ์ขึ้นได้ และควรดื่มประมาณวันละ 1-2 แก้ว ในผู้ใหญ่ สำหรับเด็กประมาณ 2-3 แก้ว เช่นเดียวกับผู้หญิงที่มีครรภ์หรือให้นมบุตร เพื่อให้ได้แคลเซียมที่เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย
ด้านแคลอรี่ นมวัวให้พลังงานมากกว่านมถั่วถึง 2 เท่า เพราะมีไขมันที่มากกว่า หมายความว่า ในนมวัว 1 แก้วจะให้พลังงานสูงถึง 170 แคลอรี่ แต่นมถั่วนั้นให้พลังงานเพียง 80 แคลอรี่ แต่หากเติมน้ำตาลลงไปในนมถั่วก็จะได้รับพลังงานในสัดส่วนที่พอ ๆ กัน แต่อย่างไรก็ตามมีผลการวิจัยระบุว่าทั้งนมวัวและนมถั่ว เหมาะสำหรับผู้ที่อยู่ในช่วงของการลดน้ำหนัก และช่วยให้รอบเอวเล็กลงได้เหมือนกัน
ด้านสุขภาพ นมวัวและนมถั่วนั้น สามารถช่วยลดความเสี่ยงของโรคต่าง ๆ ได้ เช่น โรคหัวใจ เป็นต้น แต่ในส่วนของนมถั่วช่วยลดคอเลสตเตอรอลที่ไม่ดีได้ ดังนั้นนมถั่วจึงได้รับความนิยมจากผู้สูงวัยในเพศหญิงมากกว่านมวัว เพราะช่วยสร้างฮอร์โมนเอสโตรเจน บำรุงมวลกระดูกให้เพิ่มหน้าขึ้น ลดการละลายแคลเซียมออกจากกระดูก และช่วยลดอาการจากภาวะหมดประจำเดือน แต่ทั้งนี้นมถั่วก็ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคเก๊าต์ รูมาตอยท์ รูมาติซั่ม เพราะจำทำให้ปวดข้อเพิ่มมากขึ้น
ไม่ว่าจะเลือกดื่มนมถั่วหรือนมวัวก็ดีต่อสุขภาพ
ในนมถั่วเหลืองจากสูตร 1 ส่วนต่อน้ำ 8 ส่วน จะได้โปรตีนที่มีปริมาณใกล้เคียงกับนมวัว หมายความว่า เมื่อดื่มนมถั่ว จำนวน 1 แก้วหรือประมาณ 200 มิลลิลิตร จะได้โปรตีนอยู่ที่ 6 กรัม ซึ่งในนมวัว 1 แก้วจะได้โปรตีนประมาณ 7 กรัม แต่โปรตีนที่ได้จากนมวัวมีกรดอะมิโนที่ดีกว่านมถั่ว แต่นมถั่วก็สามารถเติมสารอาหารได้ เช่น ลูกเดือย สาคู หรือถั่วแดงในน้ำนมถั่ว เพื่อให้มีโปรตีนเพิ่มมากขึ้น พลังงานที่ได้จากนมวัวจะมีปริมาณมากกว่านมถั่วประมาณ 2 เท่า แม้ว่านมถั่วมีแคลเซียมน้อยกว่าแต่ให้ธาตุเหล็กและวิตามินบีมากกว่า ดังนั้นจะเลือกทานนมถั่วหรือนมวัวก็มีคุณประโยชน์พอ ๆ กันเพียงแต่ต้องเพิ่มเติมสารอาหารลงไปเพื่อให้เป็นนมที่ให้คุณค่าอย่างสมบูรณ์นั่นเอง
หากเลือกดื่มนมวัวจุดเด่นคือมีโปรตีนและแคลเซียม ล้วนเป็นสิ่งที่มีความจำเป็นต่อร่างกาย โดยเฉพาะแคลเซียมเมื่อมีอายุที่เพิ่มมากขึ้นจะยิ่งลดน้อยลง แต่หากเลือกดื่มนมถั่วเหลืองก็สามารถหาอาหารอื่นที่สามารถนำมาทดแทนโปรตีนและแคลเซียมได้เช่น โปรตีนจากไข่หรือปลา แคลเซียมจากปลาเล็กปลาน้อยเป็นต้น การเลือกทานจึงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่คนว่าชอบทานนมวัว หรือนมถั่วมากกว่ากัน
เครดิตภาพ : papaidoo.com / issue247.com / thailandsasunsa.com
นมถั่วเหลืองกินดี หรือควรหลีกเลี่ยง
“ดื่มนมวัวทุกวัน ช่วยบำรุงกระดูกผู้สูงอายุได้จริงหรือ” : หมอแนะ : รายการคุยกับหมออัจจิมา
#นมถั่วเหลือง VS นมวัว #เราควรกินนมประเภทไหน #ทานนมให้เหมาะสมกับตัวเอง