ง่วงนอนตลอดเวลา ปกติหรือกำลังมีโรคร้ายแฝง

หลาย ๆ คนอาจมีอาการง่วงนอนตลอดเวลา พอตกตอนบ่ายเริ่มมีอาการตาปรือ อยากงีบ บางครั้งต้องลุกไปชงกาแฟสักแก้วเพื่อแก้งง่วง หากเกิดอาการแบบนี้นาน ๆ ครั้งก็คงไม่มีปัญหาอะไร แต่หากมีอาการง่วงนอนทุกวันตั้งแต่เช้ายันเย็นเราต้องเช็คแล้วว่าเกิดจากอะไร ซึ่งส่วนใหญ่ที่พบมักอาจเกิดจากพฤติกรรมการนอนดึก ส่งผลโดยตรงต่อสุขภาพ และที่ร่างกายแสดงอาการเหล่านี้อาจบ่งบอกว่ากำลังมีโรคร้ายแฝงเข้ามา ลองดูว่ามีโรคอะไรบ้างที่มักมากับการง่วงนอน

ง่วงนอนบ่อย อาจมีโรคร้ายแฝง โดยไม่รู้ตัว

1. โรคนอนไม่หลับ ตอนกลางคืนนอนไม่หลับส่งผลให้กลางวันจะมีอาการง่วงนอน หรือบางครั้งนอนดึก ๆ อาจมาจากการที่ต้องทำงานหนัก ทำงานเยอะ เกิดอาการกังวล และเครียดจนนอนไม่หลับเกิดขึ้นได้ ดังนั้นควรผ่อนคลายจิตใจ ไม่ให้เกิดความเครียด ลดการทำงานในเวลากลางคืนลง แต่หากมีอาการเรื้อรังควรรีบปรึกษาแพทย์

2. โรคอ่อนเพลียอ่อนล้าเรื้อรัง เมื่อนอนไม่หลับเป็นระยะเวลานาน ร่างกายจะสะสมความอ่อนเพลียเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้มีอาการเพลีย อ่อนล้า ง่วงนอน สมองทำงานไม่เต็มที่ส่งผลให้ความจำไม่ดี ปวดหัว ปวดเมื่อยตามกล้ามเนื้อ และนอนหลับไม่สนิท ซึ่งโรคนี้อาจเกิดจากการบริโภคประเภทแป้งและน้ำตาลมากจนเกินไปร่วมด้วย

3. โรคเบาหวาน การทานแป้งและน้ำตาลในปริมาณมาก อาจทำให้ง่วงนอนเกิดขึ้นได้ นอกจากจะทำให้เป็นโรคอ่อนล้าเรื้อรังแล้ว อาจจะมีโรคเบาหวานตามมาอีกด้วย สาเหตุมาจากปริมาณน้ำตาลในเลือดเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งการง่วงนอนตลอดเวลาเป็นสัญญาณแรก ๆ ที่แสดงออกมา เพื่อเตือนให้ร่างกายรู้ว่าร่างกายกำลังมีน้ำตาลสูง

4. โรคลมหลับ จะรู้สึกง่วงนอนมากในเวลากลางวัน แต่ตอนกลางคืนกลับตื่นตัวกระปรี้กระเปร่า เรียกอีกอย่างหนึ่งว่าโรคลั้นลา ซึ่งอาจจะส่งผลให้คุณภาพชีวิตลดลงเรื่อย ๆ ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง หรืออาจเป็นอันตรายต่อชีวิต เพราะหากเกิดอาการง่วงในระหว่างขับรถ หรือใช้เครื่องจักรชนิดต่าง ๆ ก็มีความเสี่ยงทำให้เกิดอันตรายได้ นอกจากนี้ยังส่งผลเสียถึงสุขภาพจิตอีกด้วย

5. โรคโลหิตจาง เกิดจากการได้รับสารอาหารไม่เพียงพอต่อความต้องการในแต่ละวัน ทำให้รู้สึกอ่อนเพลีย หน้ามืด เหนื่อยง่าย เชื่องช้า ซึม ไม่สดใส รู้สึกง่วงนอนบ่อย ๆ ตลอดทั้งวัน

6. โรคกระเพาะอาหาร การสูญเสียเลือดบ่อย ๆ จากการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร หรืออาจจะร้ายแรงจนเป็นโรคริดสีดวงทวาร จนเป็นสาเหตุให้เกิดอาการอ่อนเพลีย ทำให้โลหิตจางเรื้อรัง ส่งผลให้เหนื่อยง่าย หน้ามืด หรือเป็นลมได้ง่าย และมีอาการง่วงนอนได้ง่าย

การแก้ไข ไม่ให้ง่วงนอน ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม

การเข้านอนและตื่นนอนเป็นเวลาเป็นเรื่องที่จำเป็นเพื่อให้นาฬิกาชีวิตทำงานอย่างเป็นปกติ การปรับสภาพแวดล้อมการนอนใหม่ก็เป็นเรื่องที่สมควรทำเป็นอันดับต้น ๆ เพื่อให้บรรยากาศเหมาะสมกับการนอนหลับพักผ่อน ในส่วนของอุณหภูมิห้องต้องไม่ร้อนจนเกินไปอาจจะทำให้นอนไม่หลับได้ ที่สำคัญควรหลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ เพราะจะไปรบกวนระบบการนอนของร่างกาย นอกจากนี้อาจทำให้ร่างกายเสียน้ำเพราะแอลกอฮอล์จะเข้าแทนที่นั่นเอง แม้ว่าในช่วงแรกจะทำให้หลับได้ง่าย แต่จะไม่รู้สึกสบายตอนตื่นนอนเกิดขึ้นทำให้ง่วงนอนตลอดเวลา สิ่งที่ต้องทำเป็นประจำทุกวันคือเรื่องของการผ่อนคลายอารมณ์ก่อนเข้านอนหากในใจยังคงคิดและเครียดตลอดเวลาต่อให้เข้านอนเป็นเวลาก็ยากที่จะนอนหลับได้ง่าย ๆ ดังนั้นทางที่ดีควรปล่อยวางทุกสิ่งลง และเตรียมใจคิดว่าเริ่มต้นอีกครั้งในวันพรุ่งนี้จะดีกว่า หากลองทำทุกวิธีแล้วไม่ดีขึ้น อาจจะเกิดจากความผิดปกติของร่างกายต้องรีบพบแพทย์เพื่อวินิจฉัยรักษาจะเป็นการดีที่สุดต่อสุขภาพของเรา

สำหรับใครที่มีอาการง่วงนอนตลอดเวลา รู้สึกอ่อนเพลีย ทั้งที่พักผ่อนเพียงพอแล้ว ควรรีบเข้าพบแพทย์เพื่อทำการวินิจฉัยรักษาได้อย่างถูกต้อง เพื่อให้ร่างกายของเรากลับมามีสุขภาพที่ดี ร่าเริงแจ่มใส ทั้งใจและกาย ทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ

เครดิตภาพ : pobpad.com / bangkokinternationalhospital.com / safeheartgroup.com

Youtube :

ใช่คุณหรือเปล่า?ง่วงนอนตลอดเวลาระวังอาจเป็น“โรคลมหลับ”