ประโยชน์ของ “ยาแก้แพ้” สรรพคุณที่ควรจะต้องรู้

ประโยชน์ของ “ยาแก้แพ้” สรรพคุณที่ควรจะต้องรู้

เชื่อว่าหลายคนคงจะต้องรู้จักโรคภูมิแพ้กันอยู่แล้วและวันนี้เราได้นำเอาอีกหนึ่งข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับโรคภูมิแพ้ที่น่าสนใจไม่น้อยมาแนะนำกันนั่นก็คือยาแก้แพ้ ซึ่งหลายคนนั้นต้องรู้จักกับยาแก้แพ้เป็นอย่างดีและยาแก้แพ้ก็มักจะเป็นเม็ดสีเหลืองหรือเม็ดสีขาว แต่ว่าหลายคนก็อาจจะสงสัยว่าหากเรารับประทานยาแก้แพ้เป็นประจำต่อเนื่องเป็นระยะเวลานานนั้นจะเกิดส่งผลเสียต่อสุขภาพหรือไม่อย่างไร วันนี้เราได้นำเอาข้อมูลที่น่าสนใจตรงนี้มาแนะนำกัน ลองไปดูรายละเอียดกันเลย

มาทำความรู้จักกับยาแก้แพ้

แน่นอนเลยว่าหลายๆ คนนั้นมักจะใช้ยาแก้แพ้ประจำ โดยเฉพาะใครที่ร่างกายชอบเป็นโรคภูมิแพ้ ไม่ว่าคุณนั้นจะเกิดอาการผื่นคัน น้ำมูกไหล หายใจลำบาก หรือแม้กระทั่งเป็นลมพิษ การใช้ยาแก้แพ้จะช่วยให้คุณบรรเทาอาการเหล่านั้นให้หายไปได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้หลายๆคนยังใช้ยาแก้แพ้ไว้สำหรับแก้อาการคลื่นไส้อาเจียน ซึ่งแน่นอนเลยว่าหลายๆคนนั้นก็อยากจะรู้เช่นกันว่า ยาแก้แพ้หากเรารับประทานไปบ่อยจะอันตรายหรือไม่ ซึ่งเราสามารถเข้ามาดูข้อมูลกันได้เลย 

  1. ยาแก้แพ้ในกลุ่มที่ทำให้ง่วง  ยาแก้แพ้ชนิด คอเฟนิลามีน เป็นยาแก้แพ้ที่ใช้รักษาสำหรับอาการภูมิแพ้อากาศ  จาม มีน้ำมูกไหล มีผื่นคันหรือเมารถ ซึ่งยาแก้แพ้นี้ยังสามารถใช้สำหรับอาการคันจากแมลงกัดต่อยหรือพืชที่มีพิษได้
  2. ยาแก้แพ้ชนิดไม่ง่วง เป็นยาแก้แพ้ที่ถูกคิดค้นมาใหม่ พี่สามารถออกฤทธิ์ให้รักษาอาการต่างๆเหมือนเดิม แต่ตัวยาจะผ่านเข้าไปยังสมองที่น้อยมาก จึงทำให้คุณนั้นไม่รู้สึกง่วง ยาแก้แพ้ชนิดแบบใหม่นี้ จะไม่เหมาะสำหรับผู้ป่วยที่มีอาการคัน น้ำมูกไหล และอาการเมารถ ประสิทธิภาพที่ใช้ในการรักษานั้นจะไม่เทียบเท่ากับยาแก้แพ้ชนิดง่วงนั่นเอง

ผลข้างเคียงของยาแก้แพ้

สำหรับยาแก้แพ้เป็นอีกหนึ่งตัวอย่างที่ถือว่าเป็นยาอันตราย ซึ่งผู้ป่วยนั้นควรจะได้รับตามที่แพทย์สั่งเท่านั้น ไม่ควรที่จะหายามารับประทานเอง ซึ่งอย่างน้อยคุณควรที่จะได้รับคำปรึกษาจากเภสัช จะช่วยให้คุณนั้นได้รับตัวยาแก้แพ้ตรงขนาดของการรักษา หาใครพี่กินยาแก้แพ้เกินขนาด ส่งผลเสียกับร่างกายของคุณเป็นอย่างมาก เพราะจะทำให้คนนั้นมีอาการ คลื่นไส้อาเจียน  ปวดท้องเกร็ง  หายใจไม่ออก ไปสั่น และมีผลต่อระบบหัวใจและระบบตัด 

เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับยาแก้แพ้ที่เรานำมาแนะนำกันนั้น เชื่อว่าหลายคนนั้นอาจจะมองข้ามไปและใครที่ยังไม่เคยได้ศึกษารายละเอียดเกี่ยวกับยาแก้แพ้อย่างจริงจังก็สามารถที่จะนำเอาข้อมูลที่เรานำมาฝากกันนี้ไป ใช้เป็นข้อมูลความรู้กันได้เลย สำหรับครั้งหน้าเราจะนำเอาข้อมูลอะไรที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพมาฝากกันอีกนั้นต้องติดตาม

#ความรู้เรื่องโรค #การดูแลตัวเอง #ยาแก้แพ้

ปรับสมดุลสมองด้วยอาหาร

ปรับสมดุลสมองด้วยอาหาร

สมดุลของสมองมีความสำคัญพฤติกรรมและการดำรงชีวิตของคนเรา  อารมณ์ที่ผิดปกติไม่ว่าจะเป็น เครียด วิตกกังวล ซึมเศร้า นอนไม่หลับ ล้วนเกิดจากการที่สมองขาดความสมดุล     บางครั้งประสิทธิภาพการทำงานของสมองลดลงเพราะได้รับไขมันชนิดไม่ดีเข้าสู่ร่างกายมากเกินไป อาหารที่มีไขมันชนิดไม่ดีนอกจากจะส่งผลให้สมองทำงานช้าลงแล้ว ยังทำให้น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นแล้วไปเพิ่มเสี่ยงของโรคหัวใจให้สูงขึ้นตามไปด้วย ดังนั้นลดปริมาณไขมันที่ไม่ดีให้น้อย  และที่ไม่ควรพลาดที่จะรับประทานคือไข่ เพราะในไข่มีโคลีนสูง โคลีนนี้เป็นสารอาหารสำคัญที่จะช่วยบำรุงสมองและป้องกันความจำเสื่อมได้ ทั้งยังเป็นสารสำคัญที่จะช่วยสร้างสารสื่อประสาทในสมองที่เรียกว่า อะเซทิลโคลีน ดังนั้นจึงควรรับประทานไข่วันละ 1 ฟอง อาหารรอบตัวที่ช่วยปรับสมดุลสมอง อาหารชนิดแรกคือ กาแฟ  คาเฟอีนที่พบในกาแฟเป็นสิ่งที่สามารถลดอาการซึมเศร้าลงได้ เพราะจะทำให้เกิดความรู้สึกตื่นตัวและสดชื่นมากขึ้น ตั้งแต่ไม่กี่นาทีหลังดื่มเลยทีเดียว ดังนั้นในคนที่เป็นโรคซึมเศร้าหรือมีอาการซึมเศร้าบ่อยๆ แค่ดื่มกาแฟวันละ 1-2 ถ้วย ก็จะช่วยแก้ปัญหาได้อย่างดีเยี่ยมแล้ว แต่ที่สำคัญคือไม่ควรดื่มหลังจากเวลา 15.00 น. ขึ้นไป เพราะสารคาเฟอีนที่ค้างอยู่จะทำให้เกิดอาการนอนไม่หลับและส่งผลเสียได้นั่นเอง  อาหารปรับสมดุลสมองชนิดต่อมาคือ กรดโฟลิก สามารถลดอารมณ์ซึมเศร้าและทำให้เกิดความรู้สึกกระปรี้กระเปร่ามากขึ้น โดยจากการวิจัยให้คำแนะนำว่าควรรับประทานกรดโฟลิกให้ได้วันละ 200 ไมโครกรัม แล้วอาการซึมเศร้าจะหายไป กรดโฟลิก 200 ไมโครกรัม นั้นได้จากการรับประทานผักโขมสุก 1 ถ้วยและน้ำส้ม 1 แก้วเท่านั้น  อาหารลดอาการซึมเศร้าอีกชนิดคือ ปลาทะเล ซึ่งมีกรดโอเมก้า […]

ปรับสมดุลสมองด้วยอาหาร Read More »

ปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมในหนึ่งวัน

ปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมในหนึ่งวัน

อาหารเพื่อสุขภาพนั้นเป็นสิ่งสำคัญสำหรับทุกคน แต่อาจจะก่อให้เกิดคำถามขึ้นมากมายเกี่ยวกับอาหารประเภทนี้ เช่น  ฉันควรบริโภคผลไม้ออร์แกนิกหรือไม่? ฉันต้องรับประทานเนื้อวัวที่เลี้ยงด้วยหญ้าหรือไม่? น้ำผลไม้ทั้งหมดควรเป็นสกัดเย็นหรือไม่?   รวมถึงการหาปริมาณธาตุอาหารหลักแต่ละชนิดที่ต้องได้รับในแต่ละวัน แต่โชคดีที่ประเด็นที่สำคัญที่สุดที่ควรให้ความสนใจกลับมีเพียงแค่ โปรตีน เพราะร่างกายของมนุษย์นั้นเป็นเสมือนสถานที่ก่อสร้างที่ไม่มีวันสิ้นสุด โปรตีนเป็นเสมือนแรงงานที่จำเป็นเพื่อให้โครงการก่อสร้างดำเนินไปอย่างราบรื่น   โปรตีนนั้นถูกใช้อย่างต่อเนื่องเพื่อสร้างฮอร์โมน  เอนไซม์  เซลล์ภูมิคุ้มกัน  เส้นผม  ผิวหนัง กล้ามเนื้อ และเนื้อเยื่อต่างๆ   ยิ่งไปกว่านั้นโปรตีนยังจำเป็นต่อการฟื้นตัวจากความเครียดจากการออกกำลังกาย โดยร่างกายใช้โปรตีนเพื่อซ่อมแซมเส้นใยกล้ามเนื้อที่เสียหายทำให้กลับมาแข็งแรงกว่าเดิม ร่างกายต้องการโปรตีนเท่าไหร่? ตามหลักการทางโภชนาการ ปริมาณโปรตีนที่ร่างกายต้องการจะอ้างอิงมาตรฐานปริมาณสารอาหารที่ต้องได้รับในแต่ละวัน  ซึ่งอธิบายถึงปริมาณขั้นต่ำที่จำเป็นเพื่อให้ร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้อง  โดยปริมาณโปรตีนต่อวันควรอยู่ที่ 0.36 กรัมต่อปอนด์ของน้ำหนักตัว หรือประมาณ 46 กรัมของโปรตีนต่อวันสำหรับผู้หญิงทั่วไป   แต่ผู้เชี่ยวชาญหลายคนแนะนำว่า ผู้หญิงที่มีร่างกายแข็งแรงและมีกิจกรรมสูงจะต้องการโปรตีนมากกว่านั้น   อย่างไรก็ตาม ปริมาณโปรตีนที่กำหนดขึ้นดังกล่าวมีเหตุผลเพื่อช่วยป้องกันการขาดโปรตีนเท่านั้น จึงอาจไม่เหมาะสำหรับการซ่อมแซมและการเจริญเติบโตของกล้ามเนื้อ ลดความเสี่ยงต่อการบาดเจ็บหรือทำให้รู้สึกอิ่มนานขึ้น   ดังนั้นความต้องการโปรตีนมากน้อยเพียงใด จึงขึ้นอยู่กับว่าสภาพร่างกายและกิจกรรมในแต่ละวันนั้นเป็นอย่างไร  ยิ่งเคลื่อนไหวมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งต้องการโปรตีนมากขึ้นเท่านั้น   อายุก็มีบทบาทเช่นกัน งานวิจัยบางชิ้นชี้ให้เห็นว่าเมื่ออายุมากขึ้น ร่างกายของคุณจะทำงานได้ดีขึ้นด้วยปริมาณโปรตีนที่สูงขึ้น ซึ่งการศึกษานั้นพบว่า เมื่อคนอายุมากกว่า 50 ปี ได้รับโปรตีนประมาณสองเท่าของปริมาณที่แนะนำใน

ปริมาณโปรตีนที่เหมาะสมในหนึ่งวัน Read More »

อาหารที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ

อาหารที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ

แม้ว่าคุณจะไม่สามารถรักษาโรคข้ออักเสบด้วยอาหารได้ แต่คุณสามารถรับประทานอาหารเพื่อลด อาการปวดข้อได้  เมื่อพิจารณาถึงข้อเท็จจริงทางโภชนาการ ผู้ป่วยจึงจำเป็นต้องทราบถึงอาหารสำหรับ โรคข้ออักเสบในอุดมคติ ซึ่งเป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับผู้ป่วยโรคข้ออักเสบจะเป็นอย่างไร อาหารที่แย่ ที่สุดสำหรับโรคข้ออักเสบที่คุณควรหลีกเลี่ยงหากทำได้มีอะไรบ้าง โรคข้ออักเสบไม่ใช่สิ่งที่ส่งผลกระทบ ต่อผู้สูงอายุเท่านั้น ผู้ใหญ่และเด็กสามารถพบโรคข้ออักเสบได้อย่างน้อย 1 ชนิด เช่น โรคข้ออักเสบ (รวมถึงโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์) โรคข้ออักเสบติดเชื้อ (เช่นโรคตับอักเสบซี) โรคไขข้อเสื่อม (เช่นโรค ข้อเข่าเสื่อม) หรือโรคข้ออักเสบจากการเผาผลาญ (เช่นโรคเกาต์)  การจัดการความเจ็บปวดจาก โรคข้ออักเสบต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ ซึ่งต้องผสมผสานระหว่างการบำบัดทางกายภาพ  การจัดการ ความเครียด  การออกกำลังกาย  และการรับประทานอาหารต้านการอักเสบ อาหารที่แย่ที่สุดสำหรับโรคข้ออักเสบ หลีกเลี่ยงการรับประทานส่วนผสมและอาหารเหล่านี้เพื่อบรรเทาอาการปวดข้อจากโรคข้ออักเสบ  อย่างแรกเลยคือ  คาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการคัดแยกจนบริสุทธิ์มาแล้ว โดยเฉพาะแป้งที่ขัดขาวและน้ำตาล  การบริโภคคาร์โบไฮเดรตที่ผ่านการคัดแยกจนบริสุทธิ์ทำให้เกิดการผลิตผลิตภัณฑ์ที่มีการไกลเคชั่นขั้นสูง  ซึ่งพบว่ากระตุ้นให้เกิดการอักเสบได้  ผลการวิจัยยังพิสูจน์ให้เห็นว่าน้ำตาลและแป้งขัดขาวดังที่พบในธัญพืช อาหารเช้าและขนมขบเคี้ยวหลายชนิดยังมีผลต่อสุขภาพลำไส้  หรือที่เรียกว่าไมโครไบโอม ซึ่งอาจทำให้ การอักเสบของโรคข้ออักเสบแย่ลง   อาหารที่ไม่ดีชนิดต่อมาคือ เครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหวาน ให้ผลในทำนอง เดียวกันน้ำตาลที่ผ่านกระบวนการสูง (และทำให้น้ำตาลในเลือดพุ่งสูงขึ้น) เพราะพบว่าเครื่องดื่มรสหวานมี ความสัมพันธ์กับการอักเสบเรื้อรังในระดับที่สูงขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งน้ำอัดลม ทำให้อาการของโรคข้อ อักเสบในผู้หญิงสูงขึ้น เพียงน้ำอัดลม

อาหารที่เกี่ยวข้องกับโรคข้ออักเสบ Read More »

โรคอ้วนอาจจะไม่ใช่ผลของปัจจัยเฉพาะบุคคลเท่านั้น

โรคอ้วนอาจจะไม่ใช่ผลของปัจจัยเฉพาะบุคคลเท่านั้น

ภาวะโรคอ้วนกำลังเพิ่มขึ้นกับพลเมืองทั่วโลก โดยเกิดขึ้นจากพฤติกรรมการใช้ชีวิต เช่น การบริโภคที่มากเกินไปและการออกกำลังกายไม่เพียงพอ โรคอ้วนทำให้เกิดความผิดปกติต่างๆ ตามมา เช่นโรคเบาหวานประเภท 2 ภาวะไขมันในเลือดสูง ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ ไขมันพอกตับ โรคหลอดเลือดสมอง และภาวะหยุดหายใจขณะหลับ  โดยความผิดปกติดังกล่าวล้วนทำให้อายุขัยที่สั้นลง   นอกเหนือจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตจะมีผลเกี่ยวพันกับโรคอ้วนแล้ว  มีรายงานในต่างประเทศที่ระบุว่าภูมิหลังทางสังคมของบุคคลในแง่มุมต่างๆ ก็มีผลต่อโรคอ้วนเช่นกัน  โรคอ้วนกับภูมิหลังของบุคคล การศึกษาเชิงสำรวจเพื่อหาความเกี่ยวข้องระหว่างภูมิหลังของบุคคลกับโรคอ้วนได้ดำเนินการในประเทศญี่ปุ่น  โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อทำความเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างโรคอ้วนและภูมิหลังทางสังคม โดยวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับประชาชน 5,425 คน ที่ตอบแบบสำรวจ แบบสอบถามได้ชี้ให้เห็นว่าสาเหตุของโรคอ้วนนั้นเชื่อมโยงกับปัจจัยต่างๆ นอกเหนือจากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและสังคมในปัจจุบันของแต่ละบุคคล  ยังรวมถึงประสบการณ์ในวัยเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งการล่วงละเมิด    โดยทั่วไปแล้วบุคคลที่มีน้ำหนักตัวมากเกินไปเป็นเพราะขาดแรงผลักดันทางจิตใจในการปรับปรุงพฤติกรรมการดำเนินชีวิตของตน อย่างไรก็ตามการศึกษาวิจัยนี้ได้เปิดเผยว่า ในผู้หญิงนั้น โรคอ้วนในวัยผู้ใหญ่ไม่เพียงเชื่อมโยงกับปัจจัยต่างๆ เช่น สภาพแวดล้อมทางสังคม (เช่น สถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการศึกษา) แต่ยังรวมถึงประสบการณ์ในวัยเด็กโดยเฉพาะอย่างยิ่งการล่วงละเมิด   ซึ่งสิ่งนี้ชี้ให้เห็นว่าการปรับปรุงสวัสดิภาพเด็ก เช่นการเพิ่มมาตรการป้องกันการละเมิดจะช่วยป้องกันโรคอ้วนในผู้ใหญ่ด้วย ผลการเชื่อมโยงระหว่างโรคอ้วนกับภูมิหลังของบุคคล ในปี 2018 ทางการเมืองโกเบได้แจกจ่ายแบบสำรวจแก่ประชาชน 20,000 คนที่มีอายุระหว่าง 20 ถึง 64 ปี เพื่อตอบเกี่ยวกับด้านต่างๆ เช่น สภาพความเป็นอยู่และปัญหาสุขภาพเพื่อให้เข้าใจถึงสุขภาพของผู้อยู่อาศัย

โรคอ้วนอาจจะไม่ใช่ผลของปัจจัยเฉพาะบุคคลเท่านั้น Read More »

ภาวะกระดูกหักในผู้บริโภคมังสวิรัติ มักพบได้บ่อย

ภาวะกระดูกหักในผู้บริโภคมังสวิรัติ

เมื่อเทียบกับคนที่บริโภคเนื้อสัตว์แล้ว ผู้บริโภคมังสวิรัติจะได้รับแคลเซียมและโปรตีนต่ำกว่า  ดังนั้นผู้บริโภคมังสวิรัติจะมีความเสี่ยงสูงที่จะเกิดกระดูกหักที่ใดก็ได้ในร่างกายถึง 43% (ของกระดูกหักทั้งหมด) รวมทั้งความเสี่ยงที่สูงขึ้นของการหักบริเวณกระดูกสะโพก  ขา  และกระดูกสันหลัง  อย่างไรก็ตาม  ความเสี่ยงของกระดูกหักสามารถลดลงได้บางส่วน เมื่อมีการปรับปรุงดัชนีมวลกาย ปริมาณแคลเซียมในอาหารที่บริโภค  และการบริโภคอาหารที่มีโปรตีนแล้ว ความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักในผู้บริโภคมังสวิรัติ นักระบาดวิทยาทางโภชนาการในอังกฤษระบุว่า   ผู้บริโภคมังสวิรัติมีความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหักโดยรวม  ซึ่งส่งผลให้มีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเกือบ 20 รายต่อ 1,000 คนในช่วง 10 ปี เมื่อเทียบกับผู้ที่รับประทานเนื้อสัตว์   ความแตกต่างที่สำคัญที่สุดคือ กระดูกสะโพกหัก ซึ่งความเสี่ยงในผู้บริโภคมังสวิรัติอยู่ที่ 2.3 เท่า ของคนที่บริโภคเนื้อสัตว์  หรือเทียบเท่ากับ 15 รายต่อ 1,000 คน ในช่วง 10 ปี  ผลที่ได้นี้มาจากการเก็บข้อมูลจากผู้คนเกือบ 55,000 คน โดยเป็นกลุ่มประชากรชายและหญิงที่อาศัยอยู่ในประเทศอังกฤษระหว่างปี 1993 และ 2001 ซึ่งมีบางส่วนไม่บริโภคเนื้อสัตว์หรือมังสวิรัติ   ผู้เข้าร่วมการศึกษาทั้งหมดได้รับการประเมินพฤติกรรมการบริโภคต่อเนื่องเป็นเวลา 18 ปี  และพบว่ามีกระดูกหักทั้งหมด 3,941 ชิ้น

ภาวะกระดูกหักในผู้บริโภคมังสวิรัติ Read More »

ต้องรู้!! อาหารอันตรายที่ไม่ควรรับประทานบ่อย เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ

ต้องรู้!! อาหารอันตรายที่ไม่ควรรับประทานบ่อย

เพราะจะส่งผลเสียต่อสุขภาพ ในการรับประทานอาหารของคนเรานั้นส่วนใหญ่เรามักจะรับประทานอาหารที่รสชาติอร่อย และชื่นชอบจนบางครั้งอาจจะมองข้าม ในเรื่องของอันตรายต่อสุขภาพที่อาจเกิดขึ้นได้จากการรับประทานอาหารชนิดนั้นๆไปบ้าง สำหรับวันนี้เราได้นำเอาข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาหารอันตรายที่เมื่อรับประทานบ่อยจะส่งผลเสียต่อสุขภาพมาแนะนำกัน ลองไปดูกันซิว่าจะมีอาหารอันตรายชนิดใดบ้างเพื่อที่จะเป็นแนวทางในการหลีกเลี่ยงป้องกันและอาจจะลดปริมาณในการรับประทานลงหากไม่จำเป็น อาหารอันตรายที่ไม่ควรรับประทานบ่อย มันฝรั่งทอด หรือ เฟรนฟราย อาหารยอดนิยมในการจัดปาร์ตี้ หรือกลุ่มเด็กวัยรุ่น ถือว่า มันฝรั่งทอดเป็นสิ่งที่นิยมกันอย่างมาก ซึ่ความจริงแล้วในการทอดเฟรนฟรายนั้นจะต้องใช้ความร้อนสูง เพราะฉะนั้นในขั้นตอนนี้จะเกิดสารอะคริลาไมด์ ซึ่งถาเรารับประทานเข้าไปในปริมาณมากๆ จะส่งผลให้คุณมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งและเกิดอาการอักเสบของปลายประสาทได้  เครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ บางครั้งการที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์นานๆครั้ง หรือดื่มเพ่อสังคม ก็ไม่ส่งผลต่อสภาพร่างกายของเรามากนัก แต่ถ้าหากคุณนั้นดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก เป็นระยะเวลายาวนาน จะส่งผลให้ร่างกายของคุณขาดน้ำ ซึ่งสังเกตเห็นได้ในระยะสั้น และระยะยาวจะมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคซึมเศร้า การทำงานของสมองและตับผิดปกติ ผิวพรรณหยาบกร้าน ซีเรียล หลายคนอาจจะคิดวาการรับประทานซีเรียลเป็นสิ่งที่ช่วยประหยัดเวลา และมีประโยชน์ต่อร่างกาย แต่ความจริงแล้วการรับประทานซีเรียลไม่ได้ประโยชน์อย่างคิด เพราะความร้อนในขั้นตอนการผลิตนั้นจะทำลายสารอาหารที่มีอยู่ไปเกือบทั้งหมด น้ำตาลเทียม เป็นเรื่องที่เราอาจจะมองข้ามไป และแน่นอนว่าสิ่งที่ส่งผลต่อร่างกายก็คือ ระบบการเผาพลาญในร่างกายของเราจะทำงานผิดปกติ แน่นอว่ามันเป็นเรื่องที่ไม่ดีแน่ๆ ซอสมะเขือเทศ ใครจะไปคิดว่าการรับประทานซอสมะเขือเทศเป็นประจำก็ส่งผลเสียต่อร่างกายเช่นกันเพราะในซอสมะเขือเทศนั้นจะมีน้ำตาลผสมอยู่ในปริมาณที่สูงมาก ซึ่งถ้ารับประทานบ่อยๆ ก็มีความเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานหรืออ้วนได้ เป็นอย่างไรกันบ้างกับข้อมูลที่น่าสนใจเกี่ยวกับอาหารอันตรายที่จะส่งผลต่อสุขภาพร่างกายของคุณหากรับประทานในปริมาณที่มากหรือบ่อยจนเกินไป นอกจากจะไม่มีประโยชน์ต่อร่างกายและยังส่งผลเสียต่อสุขภาพอีกด้วยอย่างไรก็ตามการเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพร่างกาย ถึงแม้ว่าบางครั้งมันจะไม่อร่อยแต่ก็มีประโยชน์อย่างแน่นอน สำหรับครั้งหน้าเราจะนำเอาข้อมูลอะไรที่น่าสนใจมาแนะนำกันอีกนั้นต้องติดตาม #การเลือกกิน #ทริคดูแลสุขภาพ#อาหารอันตรายไม่ควรทานบ่อย

ต้องรู้!! อาหารอันตรายที่ไม่ควรรับประทานบ่อย Read More »

ความกระฉับกระเฉงช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก

ความกระฉับกระเฉงช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก

มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในผู้ชายในสหราชอาณาจักร แต่สาเหตุทั้งหมดของการเกิดมะเร็งนั้นยังไม่ทราบอย่างแน่ชัด  ในการศึกษาวิจัยที่อาศัยหลักพันธุศาสตร์เป็นเครื่องมือวัดร่วมกับการติดตามการออกกำลังกายเพื่อดูผลกระทบที่มีต่อมะเร็งต่อมลูกหมากเผยให้เห็นว่า การที่มีความกระฉับกระเฉงขึ้นจะช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากได้ มะเร็งต่อมลูกหมากกับการออกกำลังกาย ที่ผ่านมาหลักฐานของมูลนิธิการวิจัยด้านมะเร็งโลกได้แสดงให้เห็นแล้วว่า ความกระฉับกระเฉงของร่างกายสามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งลำไส้  มะเร็งเต้านม และมะเร็งมดลูก แต่ไม่พบหลักฐานเกี่ยวกับการออกกำลังกายที่มีผลต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก    การศึกษาวิจัยครั้งใหม่ของนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยบริสตอลที่ตีพิมพ์ในวารสารทางวิชาการ พบว่า คนที่มีการเปลี่ยนแปลงของลำดับดีเอ็นเอที่ทำให้พวกเขามีแนวโน้มที่จะตื่นตัวมีความเสี่ยงต่อการเป็นมะเร็งต่อมลูกหมากลดลง 51 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งมากกว่าคนที่ไม่มีรูปแบบเฉพาะนี้ ที่สำคัญการค้นพบนี้เกี่ยวข้องกับการออกกำลังกายโดยรวมไม่ใช่แค่การออกกำลังกายอย่างหนัก   ทั้งนี้ในการศึกษามีผู้ชายมากกว่า 140,000 คน เข้าร่วมการศึกษานี้ และ80,000 คนเป็นมะเร็งต่อมลูกหมาก การลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก เมื่อมีการนำหลักพันธุศาสตร์เป็นตัววัดสำหรับการออกกำลังกายแสดงให้เห็นว่าการออกกำลังกายส่งผลกระทบอย่างมากต่อความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก ณ ปัจจุบันนี้มีหลักฐานเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเกี่ยวกับวิธีลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งได้แก่ การควบคุมรักษาน้ำหนักอย่างเข้มงวด นักวิจัยระบุว่า  การศึกษานี้เป็นการศึกษาที่ใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา  อีกทั้งใช้วิธีการที่ค่อนข้างใหม่ที่เติมเต็มการวิจัยเชิงสังเกต ทำให้ค้นพบสิ่งที่เป็นสาเหตุของมะเร็งต่อมลูกหมาก  รวมทั้งรู้ว่า การออกกำลังกายอาจมีผลต่อมะเร็งต่อมลูกหมากมากกว่าที่เคยคิดไว้  ซึ่งผู้วิจัยยังหวังว่าจะกระตุ้นให้ผู้ชายตื่นตัวมากขึ้นด้วยการออกกำลังกาย   ในการศึกษาวิจัยเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้พิจารณาถึง ปัจจัยเสี่ยง 22 ประการที่มีผลกระทบต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก แต่ผลลัพธ์ของการออกกำลังกายนั้นโดดเด่นที่สุด  สิ่งนี้จะปูทางไปสู่การวิจัยเพิ่มเติมซึ่งสามารถนำวิธีการที่คล้ายกันนี้ไปใช้กับปัจจัยการดำเนินชีวิตอื่นๆ เพื่อช่วยระบุวิธีที่ผู้ชายสามารถลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากได้  มะเร็งต่อมลูกหมากเป็นมะเร็งที่พบบ่อยที่สุดในผู้ชายในสหราชอาณาจักร แม้ว่าสาเหตุทั้งหมดของการเกิดมะเร็งจะยังไม่ชัดเจน แต่การศึกษาวิจัยที่ใหญ่ที่สุดที่เคยมีมาได้อาศัยใช้พันธุศาสตร์เป็นเครื่องมือวัดการออกกำลังกายเพื่อดูผลต่อมะเร็งต่อมลูกหมาก ซึ่งเผยให้เห็นว่า ความกระฉับกระเฉงร่วมมากขึ้นช่วยลดความเสี่ยงของมะเร็งต่อมลูกหมากได้ เครดิตภาพจาก pixabay.com     #มะเร็งต่อมลูกหมาก #ทริคดูแลตัวเอง

ความกระฉับกระเฉงช่วยลดความเสี่ยงมะเร็งต่อมลูกหมาก Read More »

ใช้คอนแทคเลนส์อย่างไรให้ ตาสวยปลอดเชื้อโรค ไร้กังวล

ใช้คอนแทคเลนส์อย่างไรให้ ตาสวยปลอดเชื้อโรค

คอนแทคเลนส์ เดี๋ยวนี้จะยังเป็นที่ได้ความนิยมกันเยอะมาก เพราะให้ทั้งความสวยงามด้วยความที่มีสีสันและรูปแบบที่สวย ๆ  มีความสะดวกกว่าสวมแว่นตา รวมทั้งไม่เสียบุคลิกอีกด้วย  คอนแทคเลนส์ คืออะไร คอนแทคเลนส์ หรือเรียกอย่างได้ว่า เลนส์สัมผัส ที่เป็นแผ่นบาง ๆ ใส ๆ ใช้ครอบลงบนบริเวณตาดำ เพื่อช่วยลดปัญหาทางสายตาและเพื่อให้เสริมความงาม เสริมบุคลิกให้ดูดีกับผู้สวมใส่   ปัจจุบันนี้สามารถหาซื้อได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นทางคลินิกตา ร้านแว่น ห้าง ท้องตลาดจนถึงตามร้านค้าออนไลน์ก็สามารถหาซื้อได้ มีให้เลือกหลายแบบ หลายสี และเลือกได้ตามลักษณะเฉพาะทั้งสายตาสั้น สายตายาว สายตาเอียง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น เพื่อความปลอดภัยก็ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพื่อจะได้ทราบถึงวิธีการใส่ การดูแลที่ถูกต้อง  เพราะหากไม่ดูแลอย่างถูกวิธีก็จะทำให้ดวงตาคู่สวยของเราติดเชื้อโรคได้ และอาจส่งผลร้ายแรงถึงขั้นตาบอดได้ ถ้าหากดวงตาได้รับการติดเชื้ออย่างรุนแรง หรือเพียงแค่การอักเสบถ้าไม่รุนแรงมาก ข้อห้ามในการใช้คอนแทคเลนส์ ไม่ควรที่จะใช้คอนแทคเลนส์ร่วมกับใคร เป็นอันขาด เพื่อป้องกันการติดเชื้อ และโรคติดต่อจากผู้อื่น ไม่ควรใส่คอนแทคเลนส์นานเกินกว่าระยะเวลาใช้งานที่กำหนด เช่น กำหนดอายุการ 1 สัปดาห์ ก็ไม่ควรเกินกว่านั้น (วิธีการนับอายุการใช้งาน ก็เริ่มนับจากหลังใช้งานครั้งแรก) อย่าใช้คอนแทคเลนส์ ถ้าภาชนะบรรจุภัณฑ์ที่อยู่ในสภาพชำรุด หรือมีรอยเปิดก่อนที่เราจะนำมาใช้ ข้อควรระวังในการใช้คอนแทคเลนส์ ไม่ควรใช้คอนแทคเลนส์ในคนที่มีภาวะดวงตาไม่ปกติ อย่างเช่น

ใช้คอนแทคเลนส์อย่างไรให้ ตาสวยปลอดเชื้อโรค Read More »

การดูแลตัวเองเมื่อออกไปข้างนอก กับสถานการณ์โควิด

การดูแลตัวเองเมื่อออกไปข้างนอก

สืบเนื่องมากจากวิกฤตการณ์การระบาดของโรคโควิด 19 ทำให้หลายคนต้องเปลี่ยนนิสัยในการออกจากบ้าน ให้มีความรอบคอบ ระมัดระวังตัวเอง รักษาความสะอาดมากยิ่งขึ้น เพื่อป้องกันการติดเชื้อไวรัสที่ร้ายแรงชนิดนี้ โดยวิธีการดูแลตนเองนั้นมีมากมาย และควรที่จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด  โดยในห้างสรรพสินค้า หรือร้านสะดวกซื้อต่างๆ ก็ได้มีการออกมาตรการสำหรับคนที่จะเข้ามาใช้งานร้านค้า เช่น ต้องมีที่วัดอุณหภูมิก่อนที่จะเข้าใช้บริการร้าน ต้องมีจุดให้แอลกอฮอล์ล้างมือ และต้องสวมใส่หน้ากากอนามัยเสมอตลอดเวลาการเข้าร้าน และในส่วนของการทำงานนั้น บริษัทส่วนมากก็ให้พนักงานได้ทำงานจากที่บ้าน เพื่อเป็นการกักกันตนเองจากสังคมภายนอก เพื่อป้องกันการติดเชื้อที่เพิ่มมากขึ้น แต่เมื่อถึงเวลาที่ต้องออกไปข้างนอกนั้นก็ควรดูแลตนเองและปฏิบัติตามกฏของสังคม วิธีการดูแลตนเองจากการติดเชื้อไวรัสโคโรน่า Social Distancing  เป็นการเว้นระยะห่างทางสังคมจากผู้อื่น โดยเว้นระยะห่างเป็นระยะ 1-2 เมตร เพื่อป้องกันการติดเชื้อจากผู้อื่น  การล้างมือ  ควรล้างมือทุกครั้งเมื่อมีโอกาส เนื่องจากเราไม่มีทางรู้ได้เลยว่าเราได้เผลอไปสัมผัสเชื้อโรคอะไรมาจากที่ไหนบ้าง ดังนั้นการล้างมือเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันเชื้อโรคที่จะเข้าสู้ร่างกายของเรา อีกทั้งการล้างมืออย่างถูกวิธีเป็นสิ่งที่ไม่ควรลืม การล้างหน้ามือ หลังมือ ตามซอกนิ้ว และซอกเล็บ นั่นเป็นสถานที่เชื้อโรคชอบมากที่สุด  การพกเจลแอลกอฮอลล์ ทุกวันนี้ในการออกจากบ้านนั้น สิ่งที่ควรจะต้องพกพาห้ามขาดนั่นคือเจลแอลกอฮอลล์ ในกรณีที่เราไม่สามารถที่หาสถานที่สำหรับล้างมือได้ เจลแอลกอฮอล์สามารถช่วยคุณได้ ยิ่งปริมาณแอลกกอฮอล์เข้มข้นมากขึ้นเท่าไหร่ยิ่งดีต่อการฆ่าเชื้อโรค  หน้ากากอนามัย  การออกไปนอกสถานที่นั้นสิ่งที่ห้ามขาดมากที่สุดนั่นก็คือหน้ากากอนามัย ซึ่งเป็นสิ่งที่ควรจะใส่ติดไว้ที่หน้าตลอดเวลา โดยวิธีการใส่ที่ถูกนั้นจะต้องปิดที่จมูก เพื่อไม่ให้เชื้อโรคสามารถผ่านเข้าไปได้ และไม่ควรนำมือไปสัมผัสหน้ากากอนามัยขณะสวมใส่เด็ดขาด โดยหน้ากากที่ดีที่สุดคือหน้ากากที่เป็นสีเขียว ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ว่าได้รับรองจากกรมสุขภาพแล้ว เป็นเครื่องมือที่ดูแลเราได้ดีที่สุดจากโรคร้าย ดังนั้นการดูแลตนเองนั้นสำคัญที่สุด

การดูแลตัวเองเมื่อออกไปข้างนอก Read More »