ลดพุงเพิ่มความมั่นใจ เห็นผลไว ภายใน 2 สัปดาห์

การลดความอ้วนนั้นมีหลากหลายวิธี มีทั้งได้ผลและไม่ได้ผล สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนัก หากอยากลดน้ำหนักให้ได้ผล ต้องมีวิธีการลดที่ถูกต้อง เพื่อไม่ให้เกิดการโยโย่หรือมีอาการบวมเกิดขึ้นภายหลัง ซึ่งปัจจุบันนี้มีวิธีมากมายให้เลือกคุมน้ำหนักเพื่อหุ่นสวย ไม่ว่าจะเป็นการคุมอาหาร ทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ออกกำลังกาย หรือรมไปถึงการอดอาหารก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่สาวๆหลายๆคนเลือกใช้ ซึ่งเป็นวิธีที่ไม่ถูกต้องและอาจส่งผลเสียให้กับร่างกายของเราได้ วันนี้เราจึงมีวิธีลดความอ้วนให้ได้ผลโดยที่ไม่ต้องทรมานร่างกาย แถมได้หุ่นสวยคืนมาอีกด้วย เคล็ดไม่ลับวิธีลดความอ้วน การดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะทำให้การคุมน้ำหนักของคุณนั้นได้ผลมากยิ่งขึ้น ทราบหรือไม่ว่าน้ำนั้นถือเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของร่างกาย ช่วยให้ระบบการเผาผลาญของร่างกายนั้นทำงานได้เป็นปกติมากยิ่งขึ้น นอกจากนี้น้ำยังมีประโยชน์ในการปรับสมดุลของร่างกายเราอีกด้วยช่วยปรับอุณหภูมิให้อยู่ในระดับที่ปกติ  นอกจากนี้น้ำยังเป็นตัวการสำคัญที่จะนำพาออกซิเจนไปหล่อเลี้ยงส่วนต่างๆของร่างกายได้อย่างมีประสิทธิภาพอีกด้วย การควบคุมอาหารถือเป็นเรื่องสำคัญมากในการดำเนินชีวิตในแต่ละวัน เพราะทุกสิ่งทุกอย่างที่เราทานเข้าไปนั้นนั้นจะเป็นตัวกำหนดสุขภาพในอนาคตของเรา ดังนั้นควรเลือกทานแต่อาหารที่เป็นประโยชน์ เน้นกากใย ทานแต่อาหารที่ปรุงสุกสดใหม่ในทุกวัน งดอาหารรสจัดเช่น เค็มจัด เผ็ดจัด โดยเฉพาะหวานจัด จะนำมาโรคร้ายต่างๆมาในอนาคตได้อย่างแน่นอน งดอาหารที่ไมไขมันสูง เน้นทานต้ม นึ่ง แทนอาหารประเภททอด เพียงเลือกทานอาหารก็จะช่วยลดการสะสมไขมันส่วนเกินในร่างกายไปได้มากเลยทีเดียว การทานมังสวิรัติ ก็เป็นอีกทางเลือกหนึ่งที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและสุขภาพของเราได้เป็นอย่างดี ใน 1 สัปดาห์ควรเลือกทานมังสวิรัติให้ได้ 1 วัน เพื่อให้ร่างกายได้ฟื้นฟูระบบขับถ่ายต่างๆให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ออกกำลังกายสม่ำเสมอถือเป็นข้อที่สำคัญที่ขาดไม่ได้เลย และจะต้องออกให้ถูกต้องถูกวิธี ไม่หักโหมจนเกินไป ไม่เน้นการคาร์ดิโอแต่เพียงอย่างเดียว ต้องเสริมสร้างกล้ามเนื้อไปด้วยพร้อมๆกัน เช่นการเล่นเวต เป็นต้น ส่วนใหญ่การลดน้ำหนักให้ได้ผลนั้นจะต้องออกกำลังกายแบบผสมผสาน หลากหลาย เพื่อให้ระบบต่างๆในร่างกายได้ฟื้นฟูและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นหากอยากลดน้ำหนักให้ได้ผล […]

            การออกกำลังกายมีหลากหลายรูปแบบ แล้วแต่ว่าเราต้องการบริหารร่างกายส่วนไหน หรือมีจุดมุ่งหมายอะไร และวันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับการออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอ (Cardio Exercise) ประโยชน์ของการออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอ             สำหรับประโยชน์ของการออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอนั้นมีมากมาย ถ้าเราทำได้อย่างเหมาะสมและต่อเนื่องในระยะเวลาหนึ่ง โดยจะส่งผลทั้งทางร่างกายและจิตใจ            1. ช่วยลดน้ำหนัก โดยจะต้องมีการออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอร่วมกับการควบคุมอาหาร             2. สร้างความแข็งแรงให้กับร่างกาย             3. เสริมสร้างภูมิคุ้มกัน ลดความเสี่ยงในการติดเชื้อไวรัส            4. ลดความเสี่ยงจากปัญหาสุขภาพร้ายแรง เช่น โรคหัวใจ, โรคอ้วน,โรคความดันโลหิตสูง, โรคเบาหวานชนิดที่สอง, โรคหลอดเลือดสมอง และโรคมะเร็งบางชนิด นอกจากนี้การออกกำลังกาย แบบคาร์ดิโอ บางประเภท จะลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคกระดูกพรุนได้             5. ช่วยควบคุมอาการของโรคเรื้อรัง เช่น ควบคุมระดับความดันโลหิต, ลดระดับน้ำตาลในเลือด            6. ช่วยการทำงานของหัวใจ ทำให้หัวใจสูบฉีดได้ดีขึ้น และช่วยในเรื่องระบบไหลเวียนโลหิต            7. ช่วยลดคอเลสเตอรอล เมื่อกระตุ้นให้ร่างกายสร้างคอเลสเตอรอลดี ซึ่งจะไปลดระดับคอเลสเตอรอลชนิดที่ไม่ดี ส่งผลให้โอกาสเป็นโรคเกี่ยวกับโรคหลอดเลือดหัวใจลดลง            8. ช่วยชะลอการเสื่อมสภาพของร่างกาย

สำหรับท่าออกกำลังกายที่เป็นพื้นฐานที่สามารถเรียกเหงื่อให้เราได้เป็นอย่างดีต้องนึกถึงท่าวิดพื้น แต่หลายคนอาจยังไม่รู้ว่าถ้าหากอยากวิดพื้นเพื่อให้ได้กล้ามเนื้อตรงจุดก็ต้องทำให้ถูกท่าซึ่งปรับเปลี่ยนจากท่าพื้นฐานเล็กน้อยเพียงเท่านั้น การปรับเปลี่ยนจากท่าวิดพื้นปกติ สำหรับการปรับเปลี่ยนแค่เล็กๆน้อยๆอย่างที่กล่าวไปข้างต้นเท่านั้นปกติเราจะวิดพื้นถ้าปกติทุกคนจะอยู่ในท่า Hand plan มือของเรานั้นจะต้องมาที่ระดับไหล่มือของเราจะต้องมีระยะห่างเท่ากับช่วงไหล่หรืออาจจะมากกว่าช่วงไหล่เล็กน้อยก็ได้ขาต้องตึงส่วนเท้าของเราจะกว้างประมาณช่วงไหล่และตั้งลำตัวให้ตรงหลังของเราจะต้องไม่เด็ดขาดหรือไม่โก่งจากนั้นทำการหายใจเข้าพร้อมกับกูจะต้องง้อข้อสอบและข้อสอบของเรานั้นจะต้องกลางประมาณ 45 องศาอีกด้วยจากนั้นทิ้งตัวลงไปไอ้โอมของเราไปกับพื้นจากนั้นค่อยหายใจออกและดันตัวขึ้นมาขณะที่เราเคลื่อนไหวอยู่นั้นหลังต้องตรงไม่แอ่นหรือไม่โกงเด็ดขาดฉันจะต้องตรง รู้หรือไม่ตำแหน่งมือที่วางมีผลต่อการทำงานของกล้ามเนื้อ อันดับแรกถ้าหากเราวางมือไว้อย่างปกติคือประมาณช่วงไหล่ของเราและทำให้ถูกถ้าจะช่วยในเรื่องของกล้ามเนื้อบริเวณหลังแขนและกล้ามเนื้ออก หากเราวางมือกว้างกว่าช่วงไหล่ของเราจะช่วยให้หลายด้านหน้าและหน้าแขนของเรานั้นทำงานมากขึ้นเล็กน้อยเท่านั้นและอกและหลังคาของเราจะทำงานได้น้อยกว่าการวางแขนไว้ที่ประมาณช่วงไหล่ หากเราวางมือแคบกว่าช่วงไหล่อกและแขนของเราจะทำงานได้ดีมากกว่าการวางมือไว้ที่ประมาณช่วงไหล่และกว้างกว่าช่วงไหล่ถึง 2 เท่าเลยทีเดียว ต่อมาคือวางมือต่ำตามขนาดระดับซี่โครงสำหรับการวางมืออย่างนี้จะทำงานได้มากแต่ตรงกันข้ามลำแขนจะทำงานได้น้อยลง ถ้าหากใครที่วางมือสูงๆซึ่งสูงกว่าระดับไหล่ของเราแต่ต้องเป็นเล็กน้อยเท่านั้นอกและแขนจะทำงานได้ดีกว่าการวางมือระดับปกติและบริเวณระดับไหล่ การวิดพื้นก็มีข้อห้าม สำหรับสิ่งที่ไม่ควรทำหรือข้อห้ามเวลาทำในการวิดพื้นนั้นมีอยู่ไม่กี่ข้อเพราะถ้าหากเราทำแล้วการวิดพื้นของเราก็จะสูญเปล่าไม่เป็นผลนั้นเองไปดูกันได้เลยว่ามีอะไรบ้าง อย่างแรกเลยคือเราจะไม่ก้นโด่งหรือจะไม่แอ่นท้องเด็ดขาดมันจะทำให้ประสิทธิภาพของการวิดพื้นลดลงไปอย่างมาก ต่อมาคือเราอยากรั้งแขนมากเกินไปถ้าอยากอังคารออก็ให้กางแขนออกเล็กน้อยก็พอเพราะถ้ากางแขนมากเกินไปเหมือนกับว่าเรานั้นไม่ได้ออกแรงแน่นอนว่าประสิทธิภาพในการวิดพื้นก็จะลดน้อยลง ต่อมาคือการที่เราเอาอกหักที่พื้นก็ไม่ควรทำมันจะช่วยผ่อนแรงของเราได้มากก็จริงแต่ก็จะให้ประสิทธิภาพในการยึดพื้นลดลงมากเช่นกัน เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับข้อมูลดีๆที่เรานำมาฝากในวันนี้ชื่อว่าหลายๆคนคงเคยออกกำลังกายวิธีการวิดพื้นแต่อย่าลืมดูว่าลักษณะการวิดพื้นของเรานั้นถูกหรือผิดถ้าหากผิดหรืออยากเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้มันถูกต้องทุกตำแหน่งที่เราต้องการเสริมสร้างก็อย่าลืมปรับเปลี่ยนถ้าให้มาเป็นท่าที่ถูกต้องถูกตำแหน่งเพื่อประสิทธิภาพในการวิดพื้นที่ดี Youtube : HOW TO: วิดพื้นให้ถูกวิธี แบบละเอียดมาก #วิดพื้นเพิ่มกล้ามเนื้อ #วิดพื้นถูกวิธี #ท่าวิดพื้นที่ถูกต้อง

การที่มีหน้าท้องมากๆต้องบอกเลยว่าลดความมั่นใจสำหรับสาวๆ หลายคนไปมากเลยทีเดียว ปัญหาเรื่องหน้าท้องมักจะเป็นปัญหาอันดับต้นๆของสาวๆ เลยก็ว่าได้ เพราะในบางครั้งออกกำลังกายมานานแต่หน้าท้องก็ยังไม่ลด วันนี้เราจึงมีสาเหตุสำคัญที่ทำให้หน้าท้องของสาวๆไม่ลดมาฝากไปดูกันได้เลยว่ามีอะไรบ้าง สาเหตุสำคัญที่ทำให้หน้าท้องของสาวๆไม่ลด สำหรับสาเหตุแรกๆ ที่หน้าท้องของสาวไม่ลดก็คือการออกกำลังกายที่ผิดวิธี การออกกำลังกายนั้น เราจะต้องออกให้ถูกจุด ที่เราต้องการจะลดเพราะการออกกำลังกายบางทีจะลดเพียงบางส่วนเท่านั้น หากเราต้องการโปรตีนไขมันช่วงหน้าท้องให้เราออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอควบคู่ไปกับการเล่นเวท เพราะเป็นการออกกำลังกายที่เหมาะสมกับการลดหน้าท้องมากที่สุด การเกิดโรคบางชนิดโดยเฉพาะโรคที่ ร่างกายผลิตฮอร์โมน เทสโทสเทอโรน มากเกินกว่าปกติซึ่งถ้าหากใครเป็นเช่นนี้ก็จะทำให้ น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ง่าย หรือไม่ก็เกิดภาวะถุงน้ำรังไข่หลายใบและอื่นๆอีกมากมายที่ทำให้การลดหน้าท้องของเราไม่ได้ผลหากใครเป็นโรคเหล่านี้ควรปรึกษาแพทย์ก่อน ต่อมาคือการพักผ่อนไม่เพียงพอแน่นอนว่าการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอส่งผลต่อสุขภาพหลายๆด้านรวมถึงอัตราน้ำหนักตัว ด้วยหากใครที่ พักผ่อนไม่เพียงพอ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นถึง 30 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียวจากการวิจัยดังนั้นเราควรพักผ่อนให้เพียงพอซึ่งการพักผ่อนให้เพียงพอนั้นต้องนอนไม่ต่ำกว่า 7-8 ชั่วโมง ถ้าเราพักผ่อนเพียงพอร่างกายของเราจะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพนั่นเอง การกินก็ถือว่าเป็นเรื่องสำคัญในการลดหน้าท้องหากเรานั้นกินอาหารสำเร็จรูปมากเกินไปอาหารประเภท Fast food หรือประเภทแป้งที่ขัดสีและเครื่องดื่มที่มีความหวานมากเกินไป อาหารเหล่านี้จะส่งผลต่อน้ำหนักตัวอย่างแน่นอนและที่สำคัญ หน้าท้องของเราก็จะไม่ยุบและมีผลกระทบต่อร่างกายมากมาย หากต้องการลดหน้าท้องเราก็ต้องรับประทานอาหารสำเร็จรูปลดลง เพิกเฉยเป็นสิ่งที่น่ากลัวที่สุดเพราะสาวๆ หลายคนที่เคยกับไขมันบริเวณหน้าท้องเห็นนู่นออกมาก็คิดว่าเพียงเล็กน้อยเท่านั้นไม่ใช่ปัญหาใหญ่ จึงละเลยการออกกำลังกายและการลดหน้าท้องไป ซึ่งถ้าหากหน้าท้องของเรานั้น มีไขมันเพิ่มมากขึ้นมากขึ้นเราจะลดได้ยากมากๆดังนั้นถ้าหากหน้าท้องของเรานูนขึ้นมาเราก็วางแผนลดหน้าท้องของเราได้เลย เชื่อว่าการมีสุขภาพดีและการมีหน้าท้องที่แบนราบเป็นความฝันของสาวๆ หลายๆ คน ดังนั้นเราอย่าเพิกเฉยกับการลดหน้าท้องของเราเราควรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของตัวเอง และหมั่นสังเกตหน้าท้องของเราว่านูนขึ้นมาหรือไม่ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอพักผ่อนให้เพียงพอเลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์เท่านี้เราก็สามารถลดหน้าท้องของเราได้อย่างง่ายได้ ลิงก์เพิ่มเติม : ผอมแต่ทำไมมีพุง ? – หมอแนะ #วิธีลดหน้าท้อง #สร้างหน้าท้องแบนราบ #สาเหตุหน้าท้องย้วย

สำหรับผู้ที่ชื่นชอบออกกำลังกายจะรู้เลยว่าในเวลาที่เราออกกำลังกายแล้วเหงื่อออกมากๆ นั้นจะทำให้เรารู้สึกสบายตัวมากๆและไม่ทำให้อึดอัดเลยหลายคนอาจคิดว่าเหงื่อออกจะทำให้อึดอัด เพราะวันนี้เราจะมีท่าออกกำลังกายที่สามารถเรียกเหงื่อให้กับผู้ที่ชื่นชอบออกกำลังกายได้เป็นอย่างดีมาฝากไปดูกันได้เลยว่ามีท่าอะไรบ้าง รู้หรือไม่ว่ามีนักวิจัยได้ออกมาบอกว่าถ้าหากเรานั้นออกกำลังกายด้วยท่าต่างๆ เพียงแค่ 20 นาทีแต่ต้องออกเป็นประจำสม่ำเสมอติดกันเป็นเวลา 6 สัปดาห์ด้วยกันจะสามารถเพิ่มความทรงจำของเราได้ภาพที่เรานำมาฝากนั้นจึงเป็นท่าที่ใช้เวลาไม่นานสามารถทำได้วันละ 20 นาทีเท่านั้นถ้าเรามีนั้นจะต้องทำ 1 รอบจากนั้นให้พัก 30 วินาทีและก็เริ่มทำซ้ำรอบเดิมใหม่อีกครั้งหนึ่งจนกว่าเวลาจะครบนั้นเองทำทุกๆ วันประจำเป็นเวลา 6 สัปดาห์รับรองว่าสุขภาพที่ดีและความจำที่ดีจะเป็นของคุณอย่างแน่นอน สำหรับท่าแรกที่เรานำมาฝากนั่นก็คือ ท่าพุ่งหลัง Burpees สำหรับท่านี้จะสามารถทำให้เราเบิร์นไขมันได้เป็นอย่างดีและที่สำคัญน้ำหนักลดลงเร็วมากๆสำหรับขั้นตอนแรกแค้นต้องแนบกับลำตัวยืนตัวตรงหลังห้ามแอ่นขาอาจจะคิดกันเลยก็ได้หรืออาจจะแยกกันเล็กน้อยต่อมาให้เรานั้นย่อตัวลงด้วยการงอเข่าลงไปแต่ใช้มือทั้งสองข้างอย่างพื้นไว้แขนต้องตรงหลังก็ต้องตรงห้ามแอ่นโค้งปลายเท้าให้แตะพื้นแบบเขย่งจากนั้นให้ทำท่าวิดพื้นให้หน้าอกห่างจากพื้นประมาณ 5-10 เซ็นและให้ยืดแขนขึ้นเหยียดตรงยกแขนทั้งสองข้างขึ้นงอหลังมือทั้งสองก็แตะพื้นเอาไว้จากนั้นให้ขึ้นมายืนตรงชูแขนทั้งสองข้างให้สุดมือ ท่าออกกำลังกายกระโดดตบแยกขาสามารถทำได้ง่ายๆเพียง 20 วินาทีสำหรับท่ากระโดดตบก็สามารถทำได้เหมือนกันวิธีการคือให้เรายืนตรงเบอร์เช็คข้างลำตัวจากนั้นกระโดดพร้อมกับแยกขาออกซึ่งปลายเท้าต้องแตะพื้นข้างหลังส้นเท้าต้องยกสูงขึ้นพูดง่ายๆจะต้องเขย่งเท้านั่นเองและพร้อมกับมือที่ต้องยกขึ้นตบกันด้วยแขนจะต้องงอเล็กน้อยจากนั้นจากนั้นก็กระโดดขึ้นพร้อมกับขาเข้าลดแขนลงแนบกับลำตัวทำแบบนี้ซ้ำกัน ท่ายกแขนขึ้นและออกแรงหมุนหัวไหล่ 20 วินาทีสำหรับท่านี้ทำได้ง่ายๆยืนแยกขาออกจากกันเล็กน้อยจากนั้นเหยียดแขนให้ตรงออกแรงหมุนหัวไหล่ตามเข็มนาฬิกาทำแบบนี้ซ้ำๆกันจนครบ 20 นาที สำหรับท่าที่เรานำมาฝากเป็นท่าที่ง่ายๆใครก็สามารถทำได้และยังมีท่าออกกำลังกายอื่นๆอีกที่ใช้เวลาเพียง 20 นาทีเท่านั้นเช่น squares หรือท่ายกเข่าสูงสามารถทำได้เช่นกันต้องบอกเลยว่าถ้าเรานี้เป็นธาตุที่สามารถเรียกเหงื่อและช่วยเสริมสร้างความทรงจำให้เราเป็นอย่างดีหากใครที่รักสุขภาพก็อย่าลืมทดลองทำตาที่เรานำมาฝาก #ท่าออกกำลังกาย #ท่าออกกำลังกายเรียกเหงื่อ #แนะนำท่าออกกำลังกาย

การออกกำลังกายในปัจจุบัน สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งแต่ละวิธีก็มีประโยชน์ที่แตกต่างกันออกไป เช่น การชกมวย การโยคะ การเดินวิ่ง เป็นต้น แต่ละวิธีนั้นล้วนแล้วแต่ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อที่แตกต่างกันออกไป สามารถกำจัดไขมันส่วนเกินได้ทุกวิธี โดยมีข้อแม้ว่าจะต้องออกกำลังกายในท่วงท่าที่ถูกต้องเพื่อไม่ให้เกิดการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อนั่นเอง และอีกหนึ่งท่าทางในการออกกำลังกายที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในปัจจุบันก็คือ การสควอท นั่นเอง การสควอทนั้นสามารถทำได้ง่าย แต่ก็ไม่ใช่ทุกคนที่จะสามารถทำได้ถูกวิธี วันนี้เราจึงวิธีในท่าสควอท ที่ถูกต้อง เพื่อให้ผลลัพธ์นั้นมีประสิทธิภาพที่สุด ประโยชน์ของการออกกำลังกายในท่าสควอท การสควอท เป็นการช่วยสร้างกล้ามเนื้อได้เป็นอย่างดี สำหรับใครที่มีปัญหาช่วงล่างไม่ค่อยแข็งแรง ท่าออกกำลังกายควอทนั้นสามารถช่วยสร้างมัดกล้ามเนื้อของคุณให้แน่น กระชับแข็งแรงได้มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ ผู้ใหญ่วัยกลางคน มัดกล้ามเนื้อเริ่มถดถอย การสควอทจะช่วยให้ช่วงล่างนั้นแข็งแรงมากยิ่งขึ้น ช่วยให้การทรงตัวนั้นดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะช่วง ก้น ช่วงขา จะแน่นกระชับและมีแรงมากยิ่งขึ้น การสควอทจะช่วยให้ร่างกายนั้นหลั่ง โกรทฮอร์โมน และ เทสโทสเตอโรน ออกมาได้มากขึ้น ซึ่งฮอร์โมนเหล่านี้มีส่วนช่วยให้ร่างกายแข็งแรง ช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกายของเราได้อีกด้วย การออกกำลังท่าสควอท ที่ถูกต้อง เริ่มจากการยืนตัวตรง แยกเท้าทั้งสองข้างออกจากกัน ปลายเท้าชี้ตรงไปด้านหน้า ความกว้างของเท้าทั้งสองข้าง ห่างกันประมาณช่วงไหล่ จากนั้นย่อตัวลง ทิ้งน้ำหนักตัวลงบนเท้า ขณะที่ย่อตัวนั้นต้องระวังไม่ให้หัวเข่าของเรา เลยปลายเท้าเด็ดขาด เกร็งหน้าท้อง มองตรง ย่อจนหัวเข่าทำมุม

นาฬิกาชีวิตคือกฎธรรมชาติที่กำหนดให้สิ่งมีชีวิตบนโลกนี้ไม่ว่าจะเป็นคนพืชหรือสัตว์ดำเนินกิจกรรมไปตามช่วงเวลาแห่งการขึ้นและตกของดวงอาทิตย์มนุษย์ได้ยึดถือกฎนี้มานับงานเป็นหมื่นปีเท่าที่มีบันทึกเอาไว้หรืออาจมีมากกว่านั้นแต่ยังไม่มีการจดบันทึกอย่างเป็นระบบ แพทย์แผนจีนได้บอกกล่าวไว้ว่ามนุษย์มีการเคลื่อนไหวของลมผ่านอวัยวะต่างๆ 12 อวัยวะอย่างละ 2 ชั่วโมงรวมเป็น 24 ชั่วโมง ถ้าเราปฏิบัติกิจวัตรประจำวันให้สอดคล้องเข้ากับหลักการนี้ก็จะมีสุขภาพที่แข็งแรงและไม่เจ็บไม่ป่วยได้อย่างง่าย พรุ่งนี้แม้ว่าแพทย์แผนปัจจุบันก็ยอมรับว่าร่างกายหลั่งฮอร์โมนแต่ละอย่างต่างเวลากันออกไป ภาพรวมของนาฬิกาชีวิต การที่โลกหมุนรอบตัวเองทําให้เกิดแทงกลางคืนกลางวันดวงอาทิตย์ส่งพลังแสงและสนามแม่เหล็กธรรมชาติมายังโลกไม่เท่ากัน เมื่อเวลาหมุนเปลี่ยนไปในแต่ละชั่วโมง ย่อมเป็นผลให้อวัยวะต่างๆภายในร่างกายตอบสนองและทำงานในเวลาที่แตกต่างกันออกไป โดยอย่างเช่น 07:00 น. -09:00 น. เป็นเวลาทำงานของกระเพาะอาหารเนื่องจากเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้นประมาณ 06:00 น เซลล์ต่างๆในร่างกายก็จะตื่นและต้องการพลังงาน โดยกระตุ้นให้ร่างกายพร้อมที่จะรับและย่อยอาหาร เพราะฉะนั้นเลยต้องเติมพลังงานให้กับร่างกายด้วยการรับประทานอาหารเช้าอย่างเหมาะสมและเพียงพอ ถ้าเรารับประทานอาหารเช้าได้ตามนี้ทุกวันสมองจะนัดรู้และบันทึกว่าได้รับแล้ว หากมีหิวเพิ่มในช่วงกลางวันหรือเที่ยงเท่านั้น สำหรับมื้อเที่ยงและเย็นถึงจะรับประทานบ้างร่างกายก็จะไม่สะสม ยกเว้นคาร์โบไฮเดรตหรือพวกแป้งที่จะสะสมทุกกรณีถ้ารับประทานเกินกว่าที่ร่างกายจะนำไปใช้ได้ทั้งหมด  ดังนั้นแล้วบอกเอาไว้เลยว่าตั้งแต่เที่ยงแค่เรื่องแป้งได้ก็ถือว่าดีมากแล้ว แต่ถ้าเราไม่รับประทานอาหารเช้าให้เพียงพอหรือไม่รับประทานอาหารเลยสมองจดบันทึกว่าขาดสารอาหารและสั่งให้สะสมอาหารไว้ในเวลาที่รับประทานมื้ออื่นๆดังนั้นคนที่ไม่รับประทานอาหารเช้าซึ่งอ้วนอย่างยิ่งไปก่อนนั้นร่างกายจะดึงของเก่าในลำไส้กลับมาใช้มากขึ้น หมายความว่าถ้าเช้าไม่รับประทานอาหาร จะต้องรับประทานอุจจาระแทน จากช่วงเช้าที่รับประทานมาย่อยแล้วจะส่งต่อไปดูดซึมที่ลำไส้เล็กในช่วงบ่ายช่วงนี้เป็นเวลาของการเผาผลาญและดูดซึมถ้าไปดูตารางนาฬิกาจะเห็นได้ว่า ช่วง 13:00 น ถึง 15:00 น จะเป็นเวลาของลำไส้เล็กทางกายจะมีความร้อนเพิ่มขึ้นจากการเผาผลาญจึงควรดื่มน้ำให้เพียงพอแนะนำประมาณ 1 แก้วทุกชั่วโมงตั้งแต่ 13:00 น ถึง 18:00 น ช่วงเวลา 15:00 น ถึง 17:00 จะเป็นเวลาของกระเพาะปัสสาวะร่างกายจะขับน้ำออกมาได้ดีมาก ในช่วงนี้ถ้าดื่มน้ำไม่เพียงพออาจเกิดความสมดุลในกระเพาะปัสสาวะทำให้เกิดนิ่วได้ง่าย

ในช่วง 2483 Dr. William HerbetSheldon นักจิตวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ศึกษาลักษณะรูปร่างของมนุษย์จากภาพถ่ายชาย – หญิงจำนวน 46,000ภาพ แล้วสรุปลักษณะรูปร่างของมนุษย์ออกเป็น 3 แบบใหญ่ๆด้วยกันคือ ผ่ายผอม  สมบูรณ์ และอ้วนกลม แล้วคุณจะมีลักษณะอย่างไรไปอ่านกัน ผ่ายผอม มีลักษณะ โครงกระดูกเล็ก(ร่างเล็ก) ผอม เพรียว คอ แขน ขา (ยาว )แต่ลำตัวจะดูไม่ยาว เมื่อเทียบกับความยาวของขา ช่วงไหล่แคบ หน้าอกแบน สะโพกเล็ก มีไขมันในร่างกายน้อย กล้ามเนื้อมีลักษณะบาง ยาว และมีน้อยด้วย การเผาผลาญ (Metabolism) ในร่างกายจะเกิดขึ้นเร็ว หมายเหตุ คนกลุ่มนี้ถึงแม้จะเล่นกล้ามเพาะกาย ก็ไม่สามารถเกิดกล้ามเนื้อมัดใหญ่ ๆ ให้เห็นได้อาจดูกระชับ ดูแข็งแรงเท่านั้นแต่ถ้าปล่อยตัวกินมากแล้วไม่ออกกำลังกายจะไปออกที่พุงกลม ๆ ให้เห็น แต่ แvน บา หน้าตายังดูไม่อ้วน ดูแล้วจะคล้าย ๆ ปลาหางนกยูงท้องแก่ที่ท้องป่องอยู่แค่ตรงกลางเท่านั้น สมบูรณ์ ลักษณะ