เคล็ดลับการเลือกอาหารเสริมลดความอ้วน

เคล็ดลับการเลือกอาหารเสริมลดความอ้วน

ในปัจจุบันนี้อาหารเสริมเข้ามามีบทบาทเป็นอย่างมากในชีวิตประจำวัน เพราะในทุกวันนี้ชีวิตส่วนใหญ่ต้องรีบเร่ง ทำให้เรามีเวลาไม่มากพอในแต่ละเรื่อง รวมไปถึงในเรื่องของการรับประทานอาหารกันด้วย อาหารเสริมจึงเป็นตัวเลือกหนึ่งที่หลายคนให้ความสนใจ โดยเฉพาะผู้ที่ใส่ใจในเรื่องของสุขภาพ และต้องการลดน้ำหนัก แต่การเลือกซื้ออาหารเสริมลดความอ้วน ควรเลือกซื้ออย่างถูกวิธีเพื่อให้ได้ผลอย่างที่เราต้องการ 

1. ควรมีส่วนผสมของสารที่สกัดมาจากธรรมชาติ เพราะสารที่สกัดจากธรรมชาติจะไม่มีผลข้างเคียงกับร่างกายเท่ากับสารเคมีต่างๆ จึงทำให้มั่นใจได้ว่าเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะไม่มีผลข้างเคียงกับร่างกาย สำหรับส่วนผสมต่างๆ นั้นสามารถดูได้จากข้างกล่องของผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะอาหารเสริมลดความอ้วน ถ้าต้องการเร่งการเผาผลาญภายในร่างกายควรมีส่วนผสมของ สารสกัดจากส้มแขก สารสกัดจากพริก เป็นต้น  และถ้าต้องการให้ร่างกายลดการดูดซึมอาหารประเภทแป้งและน้ำตาลไปเก็บสะสมไว้ในร่างกาย อาหารเสริมลดความอ้วนควรมีส่วนผสมของสารที่สกัดมาจากถั่วเหลือง หรือสารสกัดจากถั่วขาว เป็นต้น 

2. มีงานวิจัยรองรับผลอย่างชัดเจน โดยมากแล้วถ้าเป็นอาหารเสริมลดความอ้วนควรมีหลักฐานแสดงผลการวิจัยว่าสามารถช่วยในการลดความอ้วนอย่างได้ผล อย่าซื้อเพราะการโฆษณาชวนเชื้อ เพราะไม่เช่นนั้นแล้วถึงซื้อไปรับประทานก็จะไม่ทำให้น้ำหนักสามารถลดลงได้จริง ดังนั้นก่อนทำการซื้อทุกครั้งต้องทำการตรวจสอบอย่างละเอียด เพื่อให้คุ้มค่ากับเงินที่ต้องสูญเสียไป 

3. เลือกอาหารเสริมลดความอ้วน ที่มีการรับรองคุณภาพจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ โดยสามารถดูได้ที่ผลิตภัณฑ์บรรจุอาหารเสริมที่เราเลือกซื้อ เพราะจะทำให้เรามั่นใจได้ว่าอาหารเสริมลดความอ้วนที่เราเลือกซื้อเมื่อรับประทานเข้าไปแล้วจะไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายกับร่างกาย 

4. อาหารเสริมลดความอ้วน เมื่อรับประทานเข้าไปแล้ว น้ำหนักจะต้องไม่ลดเร็วหรือช้าจนเกินไป เพราะการลดเร็วเกินไปจะทำให้ผิวหนังไม่กระชับ และอาจทำให้ร่างกายขาดสารอาหารบางชนิดไปได้ แต่ถ้าลดช้ามากจนเกินไป แสดงว่าอาหารเสริมลดความอ้วนใช้ไม่ได้ผล โดยมากแล้วผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดความอ้วนจะมีระบุไว้ที่บรรจุภัณฑ์ เกี่ยวกับปริมาณที่ควรบริโภคในแต่ละวันต่อน้ำหนักตัวของผู้บริโภค เพื่อให้ได้ผลอย่างที่ต้องการ ผู้บริโภคจึงควรปฏิบัติตามคำแนะนำอย่างเคร่งครัด ถึงจะทราบได้ว่าอาหารเสริมลดความอ้วนที่ได้ทำการซื้อมาเหมาะสำหรับเราและใช้ได้ผลหรือไม่   

เคล็ดลับการเลือกอาหารเสริมลดความอ้วนนี้จะช่วยทำให้คุณสามารถตัดสินใจซื้อผลิตภัณฑ์อาหารเสริมได้อย่างถูกต้องและเพื่อให้ได้ผลดีมีประโยชน์อย่างเต็มที่กับสุขภาพและร่างกายของเรา เราจึงควรพิจารณาทุกครั้งการการตัดสินใจเลือกซื้อ

เครดิตภาพ :  health.mthai.com, thailandfitness.com

#อาหารเสริม #การลดความอ้วน #สุขภาพดี

การกิน คีโต ไดเอต (Keto Diet) ช่วยเรื่องสุขภาพจริงหรือไม่

การกิน คีโต ไดเอต (Keto Diet) ช่วยเรื่องสุขภาพจริงหรือไม่

 เมื่อพูดถึงการกินอาหารเพื่อสุขภาพ หรือการกินหารเพื่อควบคุมหรือลดน้ำหนัก การกินแบบ คีโต ไดเอต (Keto Diet)  จะเป็นตัวเลือกอันดับแรกที่ผู้ที่ต้องการควบคุมหรือลดน้ำหนักเลือกเป็นอันดับแรก เพราะการกินแบบ คีโต ไดเอต (Keto Diet) ถือว่าเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่รักสุขภาพและกลุ่มผู้ลดน้ำหนักเพราะการกินแบบ คีโต ไดเอต นอกจากจะช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนักแล้วยังช่วยป้องกันรักาาโรคอื่นๆได้อีกด้วยเช่น ช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานเพราะอาหารที่รับประทานเข้าไปจะไม่น้ำตาลและคาร์โบไฮเดรทปริมารน้อย นอกจากจะส่งผลดีแล้วผลค้างเคียงก็มีเช่นกัน วันนี้เราจะมีแนะนำว่าการกินแบบคีโต ไดเอตมีผลดีอย่างไร และมีผลข้างเคียงอย่างไรบ้าง แล้วเหมาะกับคนกลุ่มไหนเพราะอะไรวันนี้เราจะมีอธิบายให้เข้าใจกันค่ะ ข้อดีของ คีโต ไดเอต (Keto Diet) ต่อสุขภาพ  แม้ว่าการลดน้ำหนักแบบ คีโต ไดเอต (Keto Diet) จะเป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่รักสุขภาพแล้วคีโตไดเอทยังนำมาใช้กับนักกีฬาและนักเพาะกายด้วย นอกจากจะเป็นการกินอาหารเพื่อลดน้ำหนักแล้วยังสามารถใช้หลักการกินแบบ คีโต ไดเอต (Keto Diet) เพื่อเป็นการรักษาโรคได้ ใช้การกินแบบ คีโต ไดเอต (Keto Diet)  กับผู้ป่วยที่เป็นมะเร็ง โปรตีนจะช่วยยับยั้งการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง และการลุกลามของเซลล์มะเร็งในหนูทดลองได้ ในส่วนของการลดน้ำหนักนั้นการรับประทานแบบคีโตไดเอทเป็นวิธีที่ทำได้ง่ายเพราะไม่ต้องนับปริมาณแคลอรี่แถมยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญไขมันในร่างกายมีผลทำให้น้ำหนักตัวลดลง แล้วยังช่วยลดความเสี่ยงโรคเบาหวานในผู้ป่วยเบาหวานที่มีระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติอ นอกจากโลกที่กล่าวมาแล้วยังมีโรคอื่นๆเช่นลดความเสี่ยงของโรคอัลไซเมอร์ พาร์กินสัน กลุ่มอาการโรคถุงน้ำดีการบาดเจ็บทางสมองและลดความเสี่ยงของโรคหัวใจ นอกจากมีผลดีต่อร่างกายแล้วก็ยังมีผลค้างเคียงจากกินอาหารแบบ  […]

การกิน คีโต ไดเอต (Keto Diet) ช่วยเรื่องสุขภาพจริงหรือไม่ Read More »

นมถั่วเหลือง ประโยชน์มากมาย

นมถั่วเหลือง

เครื่องดื่มเพื่อสุขภาพที่มีขายในท้องตลาดปัจจุบันนั้นมีอยู่หลายชนิด  แต่ที่ผู้บริโภคให้ความสนใจคือ ผลิตภัณฑ์ในกลุ่มของนม  ไม่ว่าจะเป็นนมวัวปกติ   นมอัลมอนด์  นมมะพร้าว  และนมถั่วเหลือง   หากไม่นับผลิตภัณฑ์จากนมวัวแล้ว  หนึ่งในตัวเลือกเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมและมีความเป็นมาเก่าแก่ที่สุดก็คือ นมถั่วเหลือง    ถั่วเหลืองนั้นเป็นพืชตระกูลถั่วที่ทรงคุณค่าทางโภชนาการเนื่องจากอุดมไปด้วยโปรตีน จึงทำให้มีการนำถั่วเหลืองมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อาหารได้หลากหลายชนิด ได้แก่ น้ำมันถั่วเหลือง น้ำเต้าหู้หรือนมถั่วเหลือง เต้าหู้ เต้าฮวย ซีอิ๊ว เต้าเจี้ยว เต้าหู้ยี้ เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถรับประทานในรูปแบบของถั่วเหลืองฝักสด หรือถั่วแระญี่ปุ่น ซึ่งปัจจุบันในประเทศไทยมีการปรับปรุงพันธุ์และส่งเสริมให้เกษตรกรเพาะปลูกเพิ่มขึ้น ได้ผลผลิตที่มีลักษณะของเมล็ดขนาดโต และมีรสชาติหวานมันอร่อย ไอโซฟลาโวนในนมถั่วเหลือง ในนมถั่วเหลืองพบสารกลุ่มไอโซฟลาโวน เช่น เจนีสทีน เดดซีน และไกลซิทีน  ซึ่งจัดเป็นสารจากพืชที่มีฤทธิ์คล้ายกับฮอร์โมนเอสโตรเจน  มีหน้าที่สำคัญในการควบคุมการทำงานของระบบสืบพันธุ์เพศหญิง ทั้งนี้มีข้อมูลระบุว่า การบริโภคนมถั่วเหลืองจะช่วยลดอาการร้อนวูบวาบในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือนที่มีระดับฮอร์โมนลดลงตามวัย ลดระดับไขมันในเลือด และยังมีฤทธิ์ในการต้านอนุมูลอิสระ มีผลช่วยป้องกันการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ มีผลต่อการเรียนรู้และจดจำ ช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดโรคอัลไซเมอร์ เป็นต้น  นอกจากนี้ยังมีข้อมูลระบุว่า การบริโภคนมถั่วเหลืองมีผลช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเกิดมะเร็งเต้านม และลดการแบ่งตัวของจำนวนเซลล์มะเร็งเต้านมได้ สำหรับการเตรียมถั่วเหลืองเพื่อรับประทานนั้น ควรเลือกวัตถุดิบที่สะอาดและมีคุณภาพ เพื่อให้ปลอดภัยจากสารพิษอะฟลาทอกซิน ที่พบได้มากในธัญพืชทั่วไป และเป็นสาเหตุของการเกิดโรคมะเร็งตับ นอกจากนี้ควรระมัดระวังในผู้บริโภคบางรายที่อาจเกิดอาการแพ้ถั่วเหลืองได้  คุณประโยชน์ของนมถั่วเหลือง

นมถั่วเหลือง Read More »

มาเช็คกัน เลือกทานวิตามินอย่างไร ให้เหมาะสมกับร่างกายเรา

มาเช็คกัน เลือกทานวิตามินอย่างไร ให้เหมาะสมกับร่างกายเรา

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในปัจจุบันนี้ผู้คนต่างหันมาสนใจดูแลสุขภาพของตัวเองกันมากขึ้น อยากให้ตัวเองมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ไม่ว่าจะเป็นทั้งการเลือกเครื่องสำอาง เลือกครีมบำรุงผิว แล้วยังเสริมด้วยการเลือกทานวิตามินอีกด้วย โดยวันนี้เราจึงมีคำแนะนำเกี่ยวกับการเลือกทานวิตามินอย่างไร ให้เหมาะสมกับร่างกายเรา มาฝากเพื่อนๆทุกคนกันค่ะ โดยในปัจจุบันนี้วิตามินตามท้องตลาดก็มีให้เราได้เลือกสรรหาซื้อมารับประทานกันอยู่มากมาย ไม่ว่าจะเป็นวิตามินซี วิตามินบี หรือวิตามินดีหรือวิตามินอื่นๆอีกมากมาย งั้นวันนี้เรามาดูกันดีกว่าค่ะว่าจะเลือกทานวิตามินอย่างไร ให้เหมาะสมกับร่างกายเราดี วิตามิน A ซึ่งการรับประทานวิตามิน A นั้นจะช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันให้กับร่างกาย ช่วยบำรุงสายตาซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการมองเห็น และยังส่งผลดีต่อสุขภาพผิวหนังและเนื้อเยื่อโครงกระดูก โดยในเพศชายนั้นควรรับประทานวิตามิน A ในปริมาณ 5,000 IU ต่อวัน ส่วนเพศหญิงนั้นควรรับประทานวิตามิน A ในปริมาณ 4,000 IU ต่อวัน วิตามิน B  สำหรับวิตามิน B นั้นมีอยู่หลากหลายชนิดด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็น ตามินบี 1 วิตามินบี 2 วิตามินบี 3 วิตามินบี 5 วิตามินบี 6 วิตามินบี 7 วิตามินบี 9 วิตามินบี 12

มาเช็คกัน เลือกทานวิตามินอย่างไร ให้เหมาะสมกับร่างกายเรา Read More »

ชาบรรเทาอาการปวดหัวและปวดไมเกรนได้

ชาบรรเทาอาการปวดหัวและปวดไมเกรนได้

อาการปวดไมเกรน นั้นเป็นอาการปวดที่สร้างความทุกข์ให้กับหลายคน ซึ่งมักเกิดจากความเหนื่อยล้า และการพักผ่อนที่ไม่เพียงพอ ซึ่งในหลาย ๆ ครั้งจึงจำเป็นต้องพึ่งยาแก้ปวด เพื่อช่วยในการบรรเทาให้ลดลงแต่ก็คงไม่ดีนักเมื่อต้องทานยาอยู่อย่างต่อเนื่อง  ดังนั้นในวันนี้จึงหาตัวช่วยดี ๆ มานำเสนอสำหรับบรรเทาอาการปวดหัว ทั้งจากไมเกรน หรือจะเป็นอาการปวดหัวแบบทั่วไป มาฝาก ด้วยวิธีที่ไม่ยากและสามารถทำได้ทุกวัน เพียงแค่ดื่มชา แต่จะเป็นชาอะไรบ้าง ที่จะช่วยบรรเทาอาการปวดหัวได้ พร้อมหรือยังค่ะ มาติดตามกันจากบทความนี้กันเลยค่ะ  ชาบรรเทาอาการปวดหัว ชาขิง ชาขิง ชาที่ไม่ได้ทำมาจากใบชา  แต่มีวิธีการชงที่คล้ายกับการชงชา ชาขิงนั้นจะอยู่ในจำพวกชาสมุนไพร ที่ช่วยในการลดอาการปวดหัว ต้านการอักเสบในส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย ช่วยในการผ่อนคลาย และทำให้เลือดลมเดินได้สะดวก ทำให้เลือดสามารถเลี้ยงสมองได้เป็นอย่างดี จึงทำให้ลดอาการปวดหัวได้ ชาเปปเปอร์มิ้น (สะระแหน่) ชาเปปเปอร์มิ้น หรือ ชาสะระแหน่ นั้นช่วยทำให้ลดการหดตัวของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อ ในบริเวณของสำไส้ได้  จึงทำให้มีโอกาสเสี่ยงที่จะปวดหัวได้ เพราะการหดหรือเกร็งตัวของเส้นประสาทและกล้ามเนื้อบริเวณลำไส้นั้นสามารถส่งผลกระทบไปสมองได้ เป็นผลให้เกิดการปวดหัวนั่นเอง ชากานพลู ชากานพลู ได้มาจากกานพลู ซึ่งเป็นพืชสมุนไพร ที่เป็นที่รู้จักของคนไทยมาอย่างยาวนาน และรู้ถึงสรรพคุณด้านต่าง ๆ เป็นอย่างดี กานพูลถูกนำมาใช้เป็นส่วนประกอบของยาหลายชนิด เพราะสามารถช่วยบรรเทาอาการปวดได้ ไม่ว่าจะเป็นอาการปวดอย่าง

ชาบรรเทาอาการปวดหัวและปวดไมเกรนได้ Read More »

มะระผัดไข่ เมนูอุดมเบต้าแคโรทีน

มะระผัดไข่ เมนูอุดมเบต้าแคโรทีน

เบต้าแคโรทีนจัดอยู่ในกลุ่มแคโรทีนอยด์ ซึ่งเป็นกลุ่มของรงควัตถุที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติผ่านกระบวนการสังเคราะห์ของพืช และมีมากกว่า 600 ชนิด กลุ่มรงควัตถุเหล่านี้เองที่ทำให้พืชผักผลไม้มีสีเหลือง ส้ม และ แดง โดยแคโรทีนอยด์ส่วนใหญ่ที่พบในพืชที่มนุษย์นำมารับประทานจะประกอบด้วย ไลโคพีน  เบต้าคริปโทแซนทิน ลูทีน ซีแซนทีน แอลฟาแคโรทีน และเบต้าแคโรทีน   สำหรับเบต้าแคโรทีน   พบมากในพืชผักที่มีสีเขียวเข้ม สีเหลือง หรือสีส้ม เช่น ผักบุ้ง ใบตำลึง ผักคะน้า ฟักทอง แครอต เป็นต้น ส่วนผลไม้ ได้แก่ ผลไม้ที่มีสีแดง สีเหลือง หรือสีส้ม เช่น แตงโม มะม่วงสุก มะละกอสุก ส้มสายน้ำผึ้ง เป็นต้น เบต้าแคโรทีนในผักสดมีตั้งแต่ไม่พบไปจนถึง 4,471.5 ไมโครกรัมต่อผัก 100 กรัมส่วนที่กินได้ พบมากที่สุดในแครอต รองลงมา ได้แก่ ผักชีล้อม ใบมันปู ผักตำลึง ยอดอ่อนมะม่วงหิมพานต์ ผักกระเฉด ผักพูม ผักกูด

มะระผัดไข่ เมนูอุดมเบต้าแคโรทีน Read More »

ครื่องดื่มจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพ เครื่องดื่มที่คนไทยนิยมดื่ม

เครื่องดื่มจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพ

 เครื่องดื่มที่คนไทยนิยมดื่ม ได้แก่ น้ำชา กาแฟ น้ำอัดลม น้ำหวาน น้ำผลไม้ ตลอดจนเครื่องดื่มที่เตรียมจากส่วนต่างๆ ของพืช เครื่องดื่มจากธรรมชาติให้ประโยชน์ต่อสุขภาพมากมาย ทั้งช่วยแก้กระหาย ทำให้ร่างกายสดชื่น กระปรี้กระเปร่า บำรุงร่างกาย เครื่องดื่มจากธรรมชาติที่นิยมดื่ม ได้แก่ น้ำอ้อย มะพร้าว น้ำมะนาว นมถั่วเหลือง น้ำบัวบก น้ำเก็กฮวย  น้ำมะตูม เป็นต้น   ที่มาของเครื่องดื่มจากธรรมชาติ เครื่องดื่มจากธรรมชาติส่วนใหญ่เป็นน้ำผลไม้ซึ่งรวมทั้งน้ำคั้นจากผลไม้สด เช่น น้ำส้ม น้ำมะนาว น้ำมะพร้าว เป็นต้น และน้ำผลไม้ที่มีเนื้อผลไม้ปน น้ำผลไม้ชนิดหลังนี้ ทั้งน้ำและเนื้อผลไม้จะผ่านการบดหรือปั่นให้ละเอียดและแต่งเติมรสหวานด้วยน้ำตาล หรือน้ำเชื่อม และอาจเติมกรดผลไม้เพื่อแต่งรสเปรี้ยวได้ ตัวอย่างเช่น น้ำสัปปะรด น้ำแตงโม น้ำมะเขือเทศ น้ำมะขาม เป็นต้น นอกจากน้ำผลไม้แล้ว เครื่องดื่มที่ได้จากธรรมชาติยังสามารถเตรียมจากส่วนอื่นๆของพืช เช่น ส่วนเหง้า ต้น ใบ ดอก เมล็ด เป็นต้น ตัวอย่างเครื่องดื่มประเภทนี้ ได้แก่ น้ำอ้อย น้ำขิง

เครื่องดื่มจากธรรมชาติเพื่อสุขภาพ Read More »

ควรดื่มน้ำนมหลังออกกำลังกายหรือไม่? ดื่มตอนไหนดีที่สุด

ควรดื่มน้ำนมหลังออกกำลังกายหรือไม่?

ตามปกติคนส่วนใหญ่มักดื่มเครื่องดื่มบางอย่างที่เรียกว่า สปอร์ต ดริงค์ หลังการออกกำลังกายแบบต่างๆ  เครื่องดื่มดังกล่าวจะมีคาร์โบไฮเดรตและอิเล็กโทรไลต์ที่ช่วยร่างกายคืนสภาพหลังการออกกำลังกาย แต่เครื่องดื่มที่แตกต่างไปจากสปอร์ตดริงค์ อย่างน้ำนมจะสามารถให้ประโยชน์ที่เหมือนหรือต่างกันหรือไม่ ทั้งนี้นักโภชนาการได้ระบุว่า น้ำนมเป็นเครื่องดื่มทางเลือกที่ดีหลังการออกกำลังกายสำหรับนักกีฬาที่ไม่แพ้แลคโตสและไม่มีอาการแพ้น้ำนม   น้ำนมและสปอร์ตดริงค์ สาเหตุหลักที่น้ำนมมีประโยชน์ต่อการออกกำลังกายคือ น้ำนมเป็นแหล่งคาร์โบไฮเดรตที่ดี ปริมาณคาร์โบไฮเดรตของน้ำนมใกล้เคียงกับเครื่องดื่มประเภทสปอร์ตดริงค์   ตัวอย่างเช่น น้ำนมพร่องมันเนย 1% ขนาด 250 มล. มีคาร์โบไฮเดรต 12 กรัม ในขณะที่น้ำนมช็อคโกแลตขาดมันเนย 2% ในขนาดเท่ากันมีคาร์โบไฮเดรต 27 กรัม และเครื่องดื่มสปอร์ตดริงค์มีคาร์โบไฮเดรตประมาณ 15 กรัม  แหล่งคาร์โบไฮเดรตในน้ำนมคือ แลคโตส ซึ่งจะถูกย่อยเป็นน้ำตาลกลูโคสและกาแลคโตส น้ำตาลเหล่านี้ช่วยสร้างพลังงานแก่ร่างกาย   ส่วนน้ำนมช็อคโกแลตที่มีคาร์โบไฮเดรตมากกว่านั้นจะเป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้ออกกำลังกายเพราะนอกจากจะมีแลคโตสจากน้ำนมแล้ว ยังมีน้ำตาลซูโครสที่เพิ่มเข้ามา ซึ่งจะถูกย่อยเป็นน้ำตาลกลูโคสและฟรุกโตสที่ให้พลังงานแก่ร่างกายอีกด้วย   นอกจากคาร์โบไฮเดรตแล้ว น้ำนมยังเป็นแหล่งของโปรตีนที่ดีมาก การบริโภคโปรตีนหลังการออกกำลังกายเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่มประสิทธิภาพการตอบสนองของร่างกายต่อการออกกำลังกาย โปรตีนช่วยให้ร่างกายซ่อมแซมและปรับตัวของกล้ามเนื้อที่ถูกใช้ในระหว่างการออกกำลังกาย   น้ำนมและน้ำนมช็อคโกแลตขนาด 250 มล. มีโปรตีนประมาณ 9 กรัม ขณะที่เครื่องดื่มสปอร์ตดริงค์แบบดั้งเดิมส่วนใหญ่ไม่มีโปรตีน  ทางเลือกระหว่างน้ำนมขาวหรือน้ำนมช็อคโกแลต  ความแตกต่างที่สำคัญระหว่างน้ำนมธรรมดากับน้ำนมช็อคโกแลตคือ น้ำนมช็อคโกแลตมีการเติมน้ำตาลซูโครสและโกโก้บางส่วนเพื่อเพิ่มรสชาติ

ควรดื่มน้ำนมหลังออกกำลังกายหรือไม่? Read More »

เครื่องดื่มชากาแฟโปรไบโอติก เครื่องดื่มยอดฮิต

เครื่องดื่มชากาแฟโปรไบโอติก

ปัจจุบันมีผู้ผลิตโปรไบโอติกแบบดั้งเดิมในเชิงการค้า อย่างเช่น โยเกิร์ตและผลิตภัณฑ์นมหมัก เพิ่มมากขึ้นเช่นเดียวกับการรับประทานอาหารมังสวิรัติ   แต่ผลิตภัณฑ์นมที่มีโปรไบโอติกก็มักมีปัญหาทางสุขภาพกับผู้บริโภคบางราย เช่น  การแพ้แลคโตส  ปริมาณคอเลสเตอรอลสูง  หรือการแพ้โปรตีนจากนม   ด้วยปัญหาดังกล่าวจึงกลายเป็นสิ่งที่กระตุ้นให้เกิดอาหารและเครื่องดื่มโปรไบโอติกที่ไม่ใช่นม   ซึ่งกาแฟและชาเป็นเครื่องดื่มที่ได้รับความนิยมมากจากทั่วโลก  อีกทั้งยังเป็นเครื่องดื่มจากพืช  ด้วยเหตุนี้เครื่องดื่มทั้งสองจึงเหมาะต่อการนำพาและส่งมอบโปรไบโอติกให้กับผู้บริโภค  เครื่องดื่มกาแฟและชาโปรไบโอติกที่มีจำหน่ายในท้องตลาดส่วนใหญ่ไม่ผ่านการหมัก     แต่สิ่งที่นักวิจัยทำนั้นได้สร้างเครื่องดื่มเหล่านี้ขึ้นมาใหม่โดยใช้กระบวนการหมัก เพื่อให้ผลิตสารประกอบที่ดีต่อสุขภาพที่ช่วยเพิ่มการย่อยสลายของสารอาหาร และในขณะเดียวกัน ยังคงรักษาประโยชน์ของกาแฟและชาที่มีต่อสุขภาพเอาไว้ด้วย ชาโปรไบโอติกใหม่ ในการผลิตชาโปรไบโอติกแบบใหม่นี้    นักวิจัยได้เพิ่มสารอาหารเข้าไปในการชงชาตามด้วยโปรไบโอติกที่คัดสรรมาอย่างดี ส่วนผสมของชาจะถูกหมักทิ้งไว้สองวัน  หลังจากนั้นชาโปรไบโอติกก็พร้อมดื่มได้ นักวิจัยระบุว่าสามารถใช้ชาชงชนิดใดก็ได้ในการหมัก  โดยที่รสชาติดั้งเดิมของชาจะยังคงอยู่ตลอดกระบวนการหมัก  อย่างไรก็ตาม ชาส่วนใหญ่ที่ใช้จะมีกลิ่นของผลไม้และดอกไม้   ทั้งนี้ชาโปรไบโอติกจะมีรสชาติเหมือนชาผลไม้ที่มีความเป็นกรดเล็กน้อยและให้ความรู้สึกคล้ายกับชาดั้งเดิม  อย่างไรก็ดี ผู้ดื่มสามารถเติมสารให้ความหวานและนมหรือครีมได้ตามความชอบ    ประโยชน์ต่อสุขภาพหลายอย่างของชาเช่น สมบัติการต้านอนุมูลอิสระหรือต้านการอักเสบ อันเนื่องจากโมเลกุลของโพลีฟีนอลที่มีในชา ก็ยังคงปรากฎอยู่ในชาโปรไบโอติก และสิ่งที่เพิ่มเติมมาหลังจากการหมัก คือ  มีการผลิตสารต้านเชื้อแบคทีเรียที่ชื่อ ฟีนิลแลคเตท อีกด้วย  กาแฟโปรไบโอติกใหม่ การผลิตกาแฟโปรไบโอติกใหม่นี้ได้เพิ่มสารอาหารที่คัดสรรมาเป็นพิเศษในกาแฟที่ชง แล้วตามด้วยโปรไบโอติกที่คัดสรรมาอย่างดี ส่วนผสมของกาแฟจะถูกทิ้งไว้ให้หมักเป็นเวลาหนึ่งวัน หลังจากการหมักเสร็จสิ้น กาแฟโปรไบโอติกก็ถูกเก็บที่อุณหภูมิต่ำ และพร้อมดื่ม โดยผู้บริโภคสามารถเติมน้ำตาลและนมก่อนบริโภคได้หากต้องการ

เครื่องดื่มชากาแฟโปรไบโอติก Read More »

การทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ต้องห่วงเรื่องลดน้ำหนักและยังดีต่อสุขภาพของตัวเราเอง สุขภาพดีได้

การทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ต้องห่วงเรื่องลดน้ำหนักและยังดีต่อสุขภาพของตัวเราเอง

 อยากลดน้ำหนักด้วยการทานเนื้อสัตว์คืออะไร เรื่องลดน้ำหนักหากเราอยากจะทานอะไรก็ได้โดยที่ไม่ต้องกังวลว่าพรุ่งนี้จะต้องออกกำลังกายแบบไหน หรือออกกำลังกายอย่างไรให้เนื้อสัตว์ที่ทานเข้าไปจะเผาผลาญ แคลอรี่ออกให้หมด จะต้องวิ่งกี่ชั่วโมง ต้องออกกำลังกายแบบไหนถึงจะเบิร์นไขมันออกให้หมด  ทุกครั้งที่คนส่วนใหญ่จะลดน้ำหนักจะรู้สึกผิดกับตัวเองทุกครั้งที่ทานอาหารที่มีไขมันสูง . ซึ่งอาหารที่มีไขมันสูงก็จะมีมากมายเช่นกัน เช่น  เนื้อหมู เนื้อวัวเนื้อแกะ หนังไก่ทอด หมูปิ้งที่มีมันแทรกอยู่ตามเนื้อ  ครีมหรือเนย และอาหารที่ผู้คนส่วนใหญ่รู้จักและคนที่จะลดน้ำหนักจะเลือกที่จะไม่แตะต้องเลย คือข้าวขาหมู นั้นเอง    เป้าหมายของการลดน้ำหนัก…ด้วยการกินเนื้อสัตว์ หลายคนคงรู้จักการลดน้ำหนักโดยการควบคุมการทานอาหารทั้ง คีโต และการควบคุมอาหารแบบ IF แต่ครั้งนี้จะมานำเสนออีกสูตรหนึ่งคือ การควบคุมอาหารแบบ CD หรือ Carnivore Diet  แล้ว การควบคุมอาหารแบบ Carnivorous Diet คืออะไร วันนี้มาทำความรู้จักกัน .  Carnivor Diet คือการควบคุมการทานอาหารหรือการควบคุมน้ำหนักแบบเป็นการเน้นการทานเนื้อสัตว์เสียมากกว่า รวมถึง การทานทั้ง ไข่ เนย นม พริกไทยหรือสมุนไพรไทยต่างๆ ซึ่งความเป็นจริงของการลดน้ำหนักโดยใช้สูตร Carnivor Diet  คือการรักษาผู้คนที่มีอาการป่วยจากโรคภูมิแพ้ เช่นโรคพุ่มพวง เป็นต้น หลักการง่ายๆคือ ทานเมื่อรู้สึกหิวและต้องหยุดทานเมื่อรู้สึกอิ่ม แค่รู้สึกอิ่มนะครับไม่ใช่อิ่มแปล้เลย และเมื่อทำแบบนี้ไปเรื่อยๆ

การทานเนื้อสัตว์ที่ไม่ต้องห่วงเรื่องลดน้ำหนักและยังดีต่อสุขภาพของตัวเราเอง Read More »