รอบรู้เรื่องโรคหอบหืด

ความรู้เรื่องโรคหอบหืด โรคที่ยอดฮิตที่ใครหลายคนอาจจะเคยเจอ

หลายคนน่าจะเคยมีประสบการณ์การเป็นโรคหอบหืดที่สร้างทั้งความเหนื่อยล้าให้ร่างกาย ไม่สามารถทำอะไรได้เร็วไม่ว่าจะเป็นการวิ่งหรือการเดินในเวลาเร่งรีบเหมือนคนอื่น เพราะหากทำอย่างนั้นโรคหอบหืดของคุณก็จะกำเริบและทำให้เกิดอันตรายได้ในที่สุด หลายคนอาจมองว่าคนที่เป็นโรคหอบหืดดูเหมือนภาระและแกล้งทำโดยเฉพาะกับเด็กวัยเรียนที่มักคิดเช่นนี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นใครก็ตาม เราอยากให้คุณลองอ่านเพื่อทำความเข้าใจโรคหอบหืดก่อนแล้วค่อยตัดสินเขานะ เพราะมันไม่ใช่โรคที่จะแกล้งกันเล่น ๆ ได้ หากคุณได้รู้ก็จะเข้าใจผู้ป่วยว่าพวกเขาต้องใช้ชีวิตลำบากเพียงใด

โรคหอบหืดคืออะไร?

โรคหอบหืด หรือที่เรียกว่า Asthma เป็นโรคที่มีการอักเสบเรื้อรังของเยื่อบุหลอดลมและภาวะผิดปกติที่ไวต่อสิ่งเร้าต่างๆ เมื่อผู้ป่วยสัมผัสกับสิ่งกระตุ้นทั้งภายนอกหรือภายในร่างกาย กล้ามเนื้อบริเวณหลอดลมก็จะเกิดการหดเกร็ง ผนังหลอดลมทำให้บวมหนาขึ้นและสร้างเสมหะมากขึ้น ทำให้หลอดลมตีบแคบลงและหายใจแบบมีเสียง เกิดอาการเหนื่อยหอบ

อาการของโรคหอบหืด

โรคหอบหืดจะมีตั้งแต่ระดับน้อยไปจนถึงรุนแรง โดยระดับน้อยนั้นผู้ป่วยจะมีอาการหายใจลำบากและเหนื่อยจนอ่อนแรงจนเพลีย กล้ามเนื้ออ่อนเปลี้ยไม่สามารถทำอะไรได้ ในระดับกลาง ผู้ป่วยจะเริ่มเกิดอาการเหนื่อยหอบร่วมกับแน่นหน้าอก เวียนศีรษะ แต่ยังคงควบคุมอัตราการหายใจของตัวเองได้อยู่ ส่วนในระดับมากของโรคหอบหืด ผู้ป่วยจะเกิดอาหารเหนื่อยหอบจนหายใจแรงถี่ กล้ามเนื้อชา เจ็บแบบบีบบริเวณทรวงอก และไม่มีแรงแม้แต่จะยืนจนถึงขั้นชักต้องรีบนำตัวส่งถึงมือแพทย์โดยเร็วไม่เช่นนั้นจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตได้

สาเหตุของโรคหอบหืด

โรคหอบหืดเกิดจากการที่มีสิ่งเร้ามากระตุ้นร่างกายผู้ป่วย ได้แก่ ความเครียด การทำงานหนักจนส่งผลต่อหัวใจ การหักโหมออกกำลังกาย ความแออัดของสถานที่ อากาศเย็น สิ่งที่เป็นภูมิแพ้อย่างดอกไม้ ฝุ่น อากาศที่เปลี่ยนแปลง อาหาร ขนสัตว์ เกสรดอกหญ้า หรือแม้แต่การรับประทานอาหารที่ใส่สารกันบูดก็สามารถทำให้เกิดโรคหอบหืดได้

การรักษาโรคหอบหืด

1.ผู้ป่วยโรคหอบหืดควรออกกำลังกาย โดยการเดินบ่อย ๆ ว่ายน้ำ วิ่งเหยาะ ๆ เต้นแอโรบิก รำไทเก๊ก หรือการฝึกป้องกันตัวที่มีโอกาสได้ใช้ทักษะบริหารกล้ามเนื้อร่างกายทุกส่วนทำให้ร่างกายคุณได้รับการปรับตัวและแข็งแรงขึ้นจนห่างไกลจากโรคหอบหืดในที่สุด

2.ผู้ป่วยโรคหอบหืดควรอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม ห่างไกลจากมลพิษหรือสิ่งแวดล้อมที่กระตุ้นให้เกิดอาการของโรคได้มากที่สุด เช่น การอาศัยอยู่ในแถบชานเมือง หลีกเลี่ยงจากสถานที่แออัด เป็นต้น

3.ผู้ป่วยโรคหอบหืดมียาประจำตัวตลอดเวลา ได้แก่ ยาขยายหลอดลมแบบพ่นและยาลดการอักเสบของหลอดลม

เครดิตภาพ : Pixabay

#รอบรู้เรื่องโรคหอบหืด #ความรู้เรื่องโรค #โรคหอบหืด

สลัดแซ่บ เพื่อสุขภาพและรสชาติที่ลงตัว

สลัดแซ่บ

คนที่อยู่ในเมืองใหญ่คงเคยมีความรู้สึกเบื่ออาหารจำพวกเนื้อสัตว์  ทั้งหมูเห็ดเป็ดไก่ เห็นแล้วพาลจะโยนทิ้งไปทั้งจานก็มี  แต่กลับรู้สึกว่าอยากรับประทานอะไรที่เผ็ดๆ แซ่บๆ สดๆ ซึ่งไม่พวกกุ้งเต้น ลาบแดง หรือยำเนื้อน้ำตกสีแดงฉาน (อาหารที่ยังสดไม่ผ่านความร้อนพวกนี้จะเสี่ยงต่อการได้รับเชื้อโรคหรือพยาธิเข้าสู่ร่างกายได้ง่าย)  สิ่งที่รู้สึกว่าอยากรับประทานมากๆ กลับเป็นอาหารจำพวกผักสด หรือสลัด ทั้งนี้อาจเป็นเพราะอาหารที่คนในเมืองใหญ่รับประทานกันอยู่เป็นประจำมักเน้นที่ที่เนื้อสัตว์ ไม่ค่อยได้รับประทานผัก หรือไม่ก็เจอแต่ผัดผัก หรืออย่างดีก็แตงกวาที่ใส่มากับข้าวมันไก่  คนในเมืองหลวงรวมถึงเมืองใหญ่ๆ ส่วนใหญ่ก็มักอยากไปอยู่อาศัยตามต่างจังหวัดหรือในชนบท  อยากจะไปเก็บผักพื้นบ้านตามธรรมชาติ ตามริมรั้ว มารับประทาน เพราะต่างก็เบื่อมลพิษ เบื่ออาหาร และเบื่อการจราจรที่ติดขัดเต็มประดา  น้ำสลัดรสชาติแบบไทยๆ การที่สลัดผักจานหนึ่งจะมีความดึงดูดใจให้น่ารับประทานนั้น  นอกเหนือจากผักที่ประกอบอยู่ในจานนั้นแล้ว น้ำสลัดก็เป็นสิ่งที่ช่วยให้เกิดความอยากรับประทานขึ้นได้   ปกติแล้วน้ำสลัดเป็นผลิตภัณฑ์ที่ทำจากน้ำส้มสายชูกับเครื่องปรุงแต่งกลิ่นรส เช่น น้ำตาล เกลือ น้ำมะนาว ตีผสมให้เข้ากันดี อาจเติมน้ำมันสลัด น้ำมันพืช แป้งข้าวสาลี ผลิตภัณฑ์จากนม เช่น น้ำนมสด นมข้นหวาน และอาจเติมผักผลไม้ ไข่ไก่ สมุนไพร เครื่องเทศเ ช่น พริกไทย กระเทียม ลงไปให้มีกลิ่นรสที่น่ารับประทาน   แต่ทว่าการไปหารับประทานสลัดตามร้านอาหาร ก็จะได้แต่สลัดผักที่ใช้น้ำสลัดสไตล์ตะวันตก ไม่ว่าจะเป็นน้ำสลัดครีม  […]

สลัดแซ่บ Read More »

เคล็ดลับสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ รู้จักเท้าตัวเองก่อนเลือกรองเท้า

เคล็ดลับสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ รู้จักเท้าตัวเองก่อนเลือกรองเท้า

เมื่อคิดจะออกกำลังการด้วยการวิ่ง สิ่งที่นักวิ่งหน้าใหม่คิดถึงก็คือ รองเท้าวิ่ง แล้วก็ดิ่งไปหาซื้อรองเท้าวิ่งที่ถูกใจ ซึ่งไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง เพราะนักวิ่งหน้าใหม่จำนวนไม่น้อย ที่ต้องบอกลารองเท้าคู่สวย หลังใส่วิ่งเพียงไม่กี่ครั้ง เพราะละเลยบางสิ่งบางอย่างที่สำคัญก่อนการเลือกซื้อรองเท้า นั่นก็คือ การรู้จักกับเท้าของตัวเอง ที่ถือว่าเป็นเคล็ดลับสำคัญ สำหรับนักวิ่งหน้าใหม่เลยก็ว่าได้ – รูปแบบของอุ้งเท้าลักษณะต่างๆ รูปเท้าของแต่ละคนมีความแตกต่างกัน โดยแยกตามลักษณะของฝ่าเท้าหรืออุ้งเท้า นักวิ่งหน้าใหม่ทั้งหลายควรทำความรู้จัก เพราะส่งผลต่อการวางเท้าในขณะวิ่ง และมีผลกับการเลือกรองเท้าด้วยเช่นกัน ซึ่งถือเป็นเคล็ดลับสำคัญที่ไม่ควรมองข้าม ลักษณะอุ้งเท้าที่พบทั่วๆ ไปมีดังนี้ 1. อุ้งเท้าปกติ (Normal Arch) เป็นอุ้งเท้าที่พบได้มากที่สุด เป็นอุ้งเท้าที่มีส่วนเว้า ส่วนโค้งที่พอเหมาะกับการรองรับน้ำหนัก โดยรอยเว้ากลางอุ้งเท้าจะเข้าไปลึกไม่เกินกึ่งกลางเท้า 2. อุ้งเท้าแบน (Flat Arch) อุ้งเท้าชนิดนี้ จะมีความโค้งของอุ้งเท้าน้อยหรือไม่มีเลย ฝ่าเท้าจะมีลักษณะแบนราบหรือเกือบแบนราบ3. อุ้งเท้าสูง (High Arch) เป็นเท้าที่มีความโค้งของอุ้งเท้ามากกว่าปกติ อุ้งเท้าลึกเกินครึ่งของฝ่าเท้า ทำให้มีเนื้อเท้าตรงกลางเท้าไม่มากนัก – การตรวจสอบว่าอุ้งเท้าของตัวเองเป็นแบบใด นักวิ่งหน้าใหม่หลายคนอาจสงสัยว่าตัวเองมีอุ้งเท้าแบบใด การตรวจสอบก็ไม่ยาก โดยทำตามเคล็ดลับดังต่อไปนี้1. เตรียมกระดาษสำหรับวางเท้าสองข้าง โดยมีขนาดใหญ่กว่าเท้า แล้ววางกระดาษลงบนพื้น2. เอาเท้าจุ่มน้ำจนฝ่าเท้าเปียกชุ่ม3. นำเท้าวางลงบนกระดาษที่เตรียมไว้ ลงน้ำหนักเต็มที่ตามปกติ

เคล็ดลับสำหรับนักวิ่งหน้าใหม่ รู้จักเท้าตัวเองก่อนเลือกรองเท้า Read More »

อาหารต้านหวัด สร้างภูมิต้านทาน

อาหารต้านหวัด

เวลาเราขอพร สิ่งหนึ่งที่เรามักขอกันคือ ขอให้มีสุขภาพดี  ไม่เจ็บไข้ได้ป่วย ที่เคยเจ็บออดๆ แอดๆ ก็ขอให้หายเป็นปลิดทิ้งแล้วกลับมาแข็งแรงสมบูรณ์ แต่ก่อนที่เราจะมีสุขภาพแข็งแรง ก็ต้องรู้จักป้องกันตัวเองจากโรคภัยที่จะมาตามฤดูกาล ช่วงนี้เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว หลายคนที่ร่างกายปรับสภาพไม่ทันอาจจะทำให้เจ็บป่วยหรือเป็นหวัดได้ง่าย ลองมาดูแลสุขภาพเพื่อสร้างภูมิต้านทานจากอาหารกัน  สำหรับสารอาหารที่ช่วยในเรื่องของการสร้างภูมิต้านทาน หลายคนก็จะนึกถึงวิตามินต่างๆ แต่ส่วนใหญ่ได้ยินคำว่าวิตามิน ก็จะนึกถึงวิตามินในรูปแบบเม็ด หรือแบบที่เป็นอาหารเสริม แต่ใครจะรู้บ้างว่าวิตามินนั้นก็มีในอาหารหลัก 5 หมู่ของเรา โดยที่เราไม่จำเป็นต้องไปซื้อให้เสียเงินเยอะแยะ และยิ่งถ้ากินอาหาร 5 หมู่ให้หลากหลาย เป็นประจำสม่ำเสมอ เราก็แทบจะไม่ขาดวิตามินต่างๆ เลย วิตามินซีต้านหวัด วิตามินที่หลายคนคิดว่าสามารถป้องกันหวัดได้ คงไม่พ้น “วิตามินซี” หรือ “กรดแอสคอร์บิก” เป็นวิตามินชนิดละลายน้ำ วิตามินซีมีประโยชน์มากมาย มักใช้ในการรักษาและป้องกันโรคลักปิดลักเปิด นอกจากนี้ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย มีส่วนช่วยในการซ่อมแซมและการเจริญเติบโตของเนื้อเยื่อในร่างกาย ช่วยทำให้แผลหายเร็วขึ้น และมีส่วนช่วยในการสร้างคอลลาเจน จากการศึกษาที่ผ่านมาพบว่าการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวัน ไม่สามารถป้องกันหวัดได้ และไม่ได้ลดความเสี่ยงต่อการเป็นหวัด แต่ในผู้ที่ออกกำลังกายหรือเล่นกีฬาเป็นประจำ จะสามารถลดความเสี่ยงในการเป็นหวัดได้ถึง 50% อย่างไรก็ตามพบว่าการรับประทานวิตามินซีเป็นประจำทุกวันจะลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดได้ ขนาดวิตามินซีที่แนะนำให้รับประทานเพื่อลดความรุนแรงและระยะเวลาในการเป็นหวัดคือ 1-3 กรัมต่อวัน แต่ในผู้ที่ไม่เคยรับประทานวิตามินซีมาก่อน พอเป็นหวัดแล้วหันมาทาน จะไม่สามารถลดความรุนแรงหรือระยะเวลาการเป็นหวัดได้ ยำเห็ดรวมต้านหวัด

อาหารต้านหวัด Read More »

น้ำตาลซ่อนรูป คนไทยบริโภคน้ำตาลค่อนข้างมาก

น้ำตาลซ่อนรูป

ข้อมูลด้านโภชนาการของคนไทย ระบุว่า คนไทยบริโภคน้ำตาลมากถึงวันละ 22 ช้อนชา หรือเฉลี่ยคนละ 30 กิโลกรัมต่อปีเลยทีเดียว เหตุผลก็มาจากอาหารและเครื่องดื่มต่างๆ มักมีน้ำตาลเป็นส่วนประกอบอยู่มาก  เพราะฉะนั้นเวลาเลือกรับประทานอาหารสำเร็จรูปหรือเครื่องดื่ม  ผู้บริโภคควรอ่านฉลากที่ติดอยู่บรรจุภัณฑ์ เพื่อให้ทราบปริมาณของน้ำตาลในอาหารหรือเครื่องดื่มนั้นๆ ว่ามีมากน้อยเพียงใด และจะได้เลือกทานได้อย่างเหมาะสม  นอกจากน้ำตาลจากธรรมชาติที่พบได้ในผลไม้และนมแล้ว น้ำตาลที่พบในอาหารต่างๆ ก็อาจจะเป็นน้ำตาลรูปแบบอื่นๆ เช่น น้ำผึ้ง น้ำเชื่อมฟรุกโทส และกากน้ำตาลซึ่งจะแตกต่างจากน้ำตาลที่ได้จากธรรมชาติ คือ เป็นพลังงานที่ว่างเปล่า ไม่มีวิตามิน แร่ธาตุ หรือกากใยอาหาร สิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดการบริโภคน้ำตาลเกินเกณฑ์ที่กำหนด แต่น้ำตาลไม่ว่าจะเป็นชนิดใดก็ตามล้วนแต่ให้พลังงานที่สูงอยู่ดี โดยส่วนมากหากอาหารและเครื่องดื่มชนิดไหน ที่บนฉลากมีค่าของน้ำตาลอยู่ในระดับต้นๆ ก็มักจะเป็นอาหารที่มีน้ำตาลสูงนั่นเอง ไขมันของแถมจากน้ำตาล อาหารที่มีรสชาติหวานอย่าง ไอศกรีม คุกกี้ เค้ก หรือ ขนมต่างๆ นอกจากจะมีปริมาณของน้ำตาล ครีม และเนย มากแล้ว ก็มักมีส่วนประกอบของไขมันรวมอยู่ด้วย โดยไขมันเป็นสิ่งที่ทำให้อาหารอร่อยขึ้น หากได้ความหวานจากน้ำตาลรวมไปด้วย อาหารชนิดนั้นก็จะมีความอร่อยมากยิ่งขึ้น ทำให้สามารถกินได้มากกว่าปกติ แต่การทานอาหารชนิดที่มีไขมันและน้ำตาลสูงนี้ก็จะทำให้ร่างกายได้รับพลังงานที่สูงมากขึ้นด้วย เนื่องจากไขมันให้พลังงาน 9 กิโลแคลอรีต่อกรัม และน้ำตาลให้พลังงาน 4 กิโลแคลอรีต่อกรัม

น้ำตาลซ่อนรูป Read More »

ลดน้ำหนักแบบง่ายๆ ไม่ต้องออกกำลังกาย ด้วยการทำ IF เหมาะสำหรับคนที่ไม่มีเวลาออกกำลังกาย

ลดน้ำหนักแบบง่ายๆ ไม่ต้องออกกำลังกาย ด้วยการทำ IF

เมื่อน้ำหนักร่างกายมากเกินไป ก็กลายเป็นบ่อเกิดให้โรคอะไรต่างๆ มากมาย เพื่อป้องกันสภาวะเช่นนั้น หลายๆ คนจึงต้องหันมาลดน้ำหนัก ทั้งออกกำลังกาย ทั้งควบคุมอาหาร แต่เพราะชีวิตประจำวัน และหน้าที่การงานไม่เป็นใจ ทำให้ไม่สามารถออกกำลังกายหรือว่าควบคุมอาหารได้อย่างต่อเนื่อง แต่มีวิธีหนึ่งที่สามารถลดน้ำหนักได้ โดยไม่ต้องออกกำลังกาย หรือควบคุมแบบรับประทานอาหารอย่างเข้มงวด นั่นก็คือ การทำ IF การลดน้ำหนักด้วยการทำ IF คืออะไร? การลดน้ำหนัก ด้วยการทำ IF (Intermittent fasting) หรือการอดอาหารเป็นพักๆ ที่ให้ร่างกายรับและหยุดรับอาหารเป็นช่วงเวลา โดยมีเงื่อนไขอยู่ 3 ข้อ คือ1. ในแต่ละวันต้องงดอาหาร 1 มื้อ2. งดการกินอาหารมื้อดึก3. รับประทานอาหารตามปกติในช่วงเวลาที่กำหนด  น้ำหนัก ด้วยการทำ IF การลดน้ำหนักด้วยการทำ IF มีให้เลือกทำตามลักษณะนิสัย หรือการใช้ชีวิตประจำวันของแต่ละคนถึง 6วิธีด้วยกัน1. แบบ Lean gains วิธีนี้จะรับประทานอาหารในช่วงเวลา 8 ชั่วโมง และงดอาหารในช่วงเวลา 16 ชั่วโมง จึงเรียกแบบให้เข้าใจกันได้ง่ายๆ ว่าสูตร

ลดน้ำหนักแบบง่ายๆ ไม่ต้องออกกำลังกาย ด้วยการทำ IF Read More »

ข้าวโพดหวานกรุบๆ คลีนๆ เอาใจคนรักสุขภาพ สายhealthy ที่ชอบกินของว่าง

ข้าวโพดหวานกรุบๆ คลีนๆ

สาย healthy ที่ชอบกินของว่าง หอมๆ หวานๆ อร่อยๆ ไม่ต้องอดใจทรมานตัวเองอีกต่อไป เพราะของกินเล่นก็มีแบบอร่อยๆ แล้วคลีนๆ ทำกินเล่นในวันหยุดว่างๆ อย่างช่วงนี้ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะช่วงนี้มีข้าวโพดหวานออกมาขายมากมาย ไม่ว่าจะเป็นที่ตลาด หรือห้างสรรพสินค้า เพราะตอนนี้ไทยเราสามารถปลูกข้าวโพดหวานขายกันได้เองหลังจากที่ก่อนหน้านั้นเราต้องนำเข้าจากที่อื่นมาขาย ข้าวโพดหวานที่มีคุณสมบัติอร่อยในตัวเองอยู่แล้วเมื่อนำมาทำเป็นของกินเล่นจะอร่อยแค่ไหนตามมาดูกัน วัตถุดิบ และเครื่องปรุง 1.ฝักข้าวโพดหวาน 2 ฝัก 2.ข้าวโอ๊ตแบบสุกแล้ว 3.ไข่ขาว 2 ฟอง 4.ผักชี 5.โยเกิร์ตกรีก  6.มะนาว พริกไทยป่น เกลือ น้ำผึ้งแท้ 7.น้ำมันมะกอก วิธีทำ 1.ตั้งน้ำเต็มหม้อใส่ข้าวโพดหวานลงตั้งแต่ตอนที่ยังไม่เปิดไฟ เปิดไฟแรงต้มไป 20 นาที เปิดฝาหม้อเผยอ เสร็จแล้วปิดไฟ นำข้าวโพดไปแช่ในน้ำเย็น ดึงซังข้าวโพดออกให้หมด แล้วฝานข้าวโพด 2.ตอกไข่ 2 ฟองแยกไข่ขาวออกจากไข่แดง ใช้แต่ไข่ขาว ผสมกับข้าวโอ๊ต 4 ช้อนโต๊ะ พร้อมข้าวโพด 2 ฝัก โรยเกลือ และพริกไทยเล็กน้อย พร้อมสับผักชีลงไปตามชอบ 3.คนทั้งหมดให้เข้ากัน

ข้าวโพดหวานกรุบๆ คลีนๆ Read More »

ต้มข่าปลาในนมอัลมอนด์ ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ

ต้มข่าปลาในนมอัลมอนด์ ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ

เราคงจะเคยกินกันบ่อยสำหรับอาหารไทยที่รวมแกงกะทิกับต้มยำเข้าด้วยกัน แต่มาวันนี้เพิ่มความคลีนสำหรับคนสายสุขภาพที่กินแกงข่าเนื้ออกไก่มาจนเริ่มจะเบื่อกันแล้ว เป็นจานแกงข่าเนื้อปลาทะเลอร่อยได้เหมือนกัน อีกทั้ง่ยังได้น้ำมันปลา และโปรตีนโดยไม่มีไขมันที่ไม่ดีเข้าร่างกายด้วย และมีบางส่วนที่กินแกงข่าซดน้ำกะทิแล้วเกิดอาหารไม่ย่อยอืดมากขึ้น เราจะเปลี่ยนจากหัวกะทิเป็นนมอัลมอนด์กันแทน ลองทำกินกันดู รับรองย่อยง่าย น้ำหนักไม่ขึ้น ดีต่อสุขภาพ แบบนี้ต้องมาลองชิมกันดู วัตถุดิบ และเครื่องปรุง 1.เนื้อปลาทะเล 7-8 ขีด (เนื้อปลาเก๋า เนื้อปลากะพง เนื้อปลาอินทรีย์) 2.เครื่องต้มยำ ตะไคร้ ใบมะกรูด พริกขี้หนู มะนาว  3.เกลือ (หากไม่ใส่น้ำปลา) 4.ผักชี ไว้โรยตอนทำเสร็จแล้ว วิธีทำ 1.นำเอาเนื้อปลาที่แล่ออกจากก้างแล้วล้างน้ำเกลือ ตามด้วยน้ำสะอาดอีกรอบ ซับน้ำให้แห้ง แล่เป็นชิ้นตามต้องการ 2.ล้างผักชี เครื่องต้มยำทุกอย่าง ตะไคร้ทุบหั่นเป็นท่อน ใบมะกรูดฉีกเพื่อให้น้ำมันหอมออก พริกขี้หนูล้างเตรียมตำตอนที่จะใส่ 3.ตั้งหม้อใส่นมอัลมอนด์เปิดไฟกลางใส่เครื่องต้มยำทุกอย่างยกเว้นพริกขี้หนู จนนมอัลมอนด์เดือดใส่เนื้อปลาหรี่ไฟกลางแล้วไม่ต้องคนรอจนเนื้อปลาสุกก่อน เมื่อเนื้อปลาสุกหรี่ไฟเบาเติมเกลือ (หากไม่ใส่น้ำปลา ถ้าใส่น้ำปลาใส่ประมาณ 2 ช้อนชา) มะนาว 3 ซีก ใส่พริกขี้หนูที่ตำไว้ตามชอบ แล้วปิดไฟ ตักใส่ชามแล้วโรยผักชี เพิ่มเติม 1.เนื้อปลาจะรู้ได้อย่างไรว่าสุกแล้ว ส่วนใหญ่ถ้าเนื้อปลาที่แล่หั่นเป็นชิ้นๆ

ต้มข่าปลาในนมอัลมอนด์ ดีต่อใจ ดีต่อสุขภาพ Read More »

ผลไม้กินแล้วไม่อ้วน

ผลไม้กินแล้วไม่อ้วน

เอาใจหนุ่มสาวๆที่กำลังลดน้ำหนัก ควบคุมอาหารกันหน่อย  การลดน้ำหนัก เราไม่จำเป็นต้องอดอาหารนะคะ แต่ควรกินแต่พอดี  และกินสารอาหารให้ครบถ้วน งดพวกไขมันส่วนเกิน พวกน้ำตาล แค่นี้ก็เพียงพอแล้วหล่ะค่ะ อย่าลืมควบคุมปริมาณอาหารที่เรากินกันด้วยนะ เพราะถึงแม้เราจะกินคลีน แต่กินในปริมาณที่เกินพอดี มันก็ไม่ได้ช่วยให้น้ำหนักลดลง วันนี้แอดเลยอยากจะมาเสนอผลไม้ที่กินแล้วไม่อ้วน เอาไว้แทนขนมกรุบกรอบหรือพวกน้ำหวานที่มีแคลอรี่เยอะกันค่ะ แก้วมังกร แก้วมังกรถือเป็นตัวเอกที่ดีสำหรับผู้ที่กำลังลดทำหนัก ส่วนใหญ่จะเลือกทานแก้วมังกรแทนมื้อเย็น เนื่องจากแก้วมังกรเป็นผลไม้ที่มีไขมันไม่อิ่มตัว และยังมีแคลอรี่ต่ำ จึงช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างดี แถมยังมีเนื้อเยอะ กินแล้วอยู่ท้องได้นาน  สามารถกินแทนอาหารมื้อหนึ่งได้เลย แก้วมังกรยังสามารถช่วยเรื่องระบบขับถ่ายได้อีกด้วย และยังช่วยบำรุงผิวพรรณให้ดูสดใสเปล่งปลั่งด้วยนะ วิธีการกินให้อร่อยยิ่งขึ้น แค่หั่นเป็นชิ้นพอดีคำ ใส่ตู้เย็นไว้ แค่นี้ก็สามารถนำมาทานได้ตลอด แถมสดชื่นด้วยนะ อะโวคาโด อีกหนึ่งผลไม้ยอดฮิตที่นิยมทานตอนลดน้ำหนักคงหนีไม่พ้นอะโวคาโด  เพราะเป็นผลไม้ที่มีคุณค่าทางอาหารสูง ช่วยในการลดน้ำหนักได้อย่างดีเลย เนื้อของอะโวคาโดจะมีลักษณะอ่อนนุ่ม ทานง่าย จึงทำให้เป็นที่นิยมในสายสุขภาพทั้งหลาย เพราะมีประโยชน์แถมยังอร่อยอีกด้วย  อีกทั้งยังมีวิตามินและแร่ธาตุ ช่วยในเรื่องควบคุมความดันเลือด  บำรุงสายตา  มีวิตามินบี  และยังมีปริมาณน้ำตาลที่ต่ำ ไฟเบอร์สูงช่วยเรื่องการขับถ่ายได้อย่างดี กินแล้วอิ่มท้องได้นาน  1ผล ให้พลังงาน 320แคลอรี่ ดังนั้น ไม่ควรกินเยอะนะคะ กินแค่ครึ่ง-1ผล ก็เพียงพอแล้ว แอปเปิ้ล แอปเปิ้ลถือเป็นผลไม้อีกหนึ่งชนิด

ผลไม้กินแล้วไม่อ้วน Read More »

9 อาหารที่ทานแล้วหน้าแก่เร็ว เลี่ยงเถอะ แม้อร่อยก็ตาม วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

9 อาหารที่ทานแล้วหน้าแก่เร็ว เลี่ยงเถอะ แม้อร่อยก็ตาม

ผิวพรรณไม่สดใส หน้าโทรม เหี่ยวย่น ไม่ได้เกิดขึ้นมากจากการนอนหลับพักผ่อนน้อยเพียงเท่านั้น แต่อาหารบางชนิด หากรับประทานในปริมาณที่มากจนเกินไป ก็จะทำให้ดูแก่ก่อนวัยได้ ดังนั้นการหลีกเลี่ยงอาหารที่ทานแล้วหน้าแก่เร็ว แม้ว่าจะอร่อยก็ตาม มีอะไรบ้างที่ไม่ควรทานเยอะ มาดูกัน ไม่อยากหน้าแก่ ควรเลี่ยงอาหารเหล่านี้                   1. น้ำตาล หรืออาหารที่มีรสชาติหวานจัด สายหวานจะรู้ดีว่าหากเติมน้ำตาลลงไปในอาหารและเครื่องดื่ม จะทำให้มีรสชาติดีขึ้น แต่หากทานในปริมาณมาก ๆ จะส่งผลให้เซลล์ของผิวเสื่อมสภาพลงอย่างรวดเร็ว ขาดคอลลาเจนจึงให้ไม่สดใสเปล่งปลั่ง จึงเกิดการเหี่ยวย่น ไม่ยืดหยุ่น                   2. แอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ร่างกายเกิดการสูญเสียน้ำไปเป็นจำนวนมาก หากเราดื่มแอลกอฮอล์จะเข้าห้องน้ำบ่อย ๆ นอกจากนี้ยังส่งผลเสียต่อตับ หรือโรคตับแข็ง เนื่องจากต้องทำงานอย่างหนักเพื่อกำจัดของเสียออกไปจากร่างกาย หากตับไม่ดี ผลสะท้อนที่ออกมาคือผิวพรรณไม่สดใส หมองคล้ำได้ง่าย                   3. คาแฟอีน เช่น กาแฟ ชา น้ำอัดลม เป็นต้น จะมีสารอะดีนาลีนที่จะทำให้ร่างกายเกิดการตื่นตัว แต่ส่งผลเสียต่อผิวด้วย นอกจากนี้ยังดูดซิมวิตามิน แร่ธาตุที่มีความจำเป็นต่อการบำรุงผิวพรรณให้หมดไปอีกด้วย                   4. ไขมันไม่อิ่มตัว หรือไขมันทรานส์ อาหารที่ทานแล้วแก่เร็ว ที่ส่งผลให้อ้วนง่าย

9 อาหารที่ทานแล้วหน้าแก่เร็ว เลี่ยงเถอะ แม้อร่อยก็ตาม Read More »