อันตรายจากโรคเหงือกอักเสบ ที่ไม่ควรมองข้าม

อันตรายจากโรคเหงือกอักเสบ ที่ไม่ควรมองข้าม วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

โรคในช่องปาก ถือเป็นอีกโรคหนึ่งที่หลายๆคนมองข้าม อาจเป็นเพราะแผลที่มองไม่เห็น หรืออาการเจ็บที่มักจะหายไปเองจึงทำให้เราละเลยที่จะดูแลเอาใจใส่ช่องปากให้ดีเท่าที่ควร แต่เมื่อเกิดปัญหาขึ้นมาโรคในช่องปากก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตของเราไม่น้อยเลยทีเดียว ปัจจุบันโรคเหงือกอักเสบ พบได้บ่อยในผู้ที่ละเลยช่องปาก ส่งผลให้สุขภาพฟันของเราทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ และหากเหงือกอักเสบติดเชื้อรุนแรง อาจร้ายแรงจนถึงขั้นที่เราจะเสียฟันซี่นั้นไปได้ในที่สุด

สาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเหงือกอักเสบ

เหงือกอักเสบนั้นเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย ที่ส่วนใหญ่มาจากคราบพลัคที่อยู่บริเวณรอบๆคอฟันหรือตัวฟันของเรา ก่อตัวหนาขึ้นเป็นแผ่นฟิล์ม โดยคราบพลัคนี้จะเกิดขึ้นได้หากแปรงฟันไม่สะอาด หรือไม่ได้ใช้ไหมขัดฟันร่วมด้วย ทำให้ซอกฟันนั้นไม่สะอาดเท่าที่ควร ก่อตัวเป็นคราบพลัคขึ้นและเป็นแหล่งสะสมของเชื้อแบคทีเรีย ทำให้เหงือกบริเวณนั้นเกิดการอักเสบขึ้นมานั่นเอง

อาการของโรคเหงือกอักเสบ

โรคเหงือกอักเสบ สามารถแบ่งออกได้ 3 ระยะ โดยแบ่งเป็น ระยะเริ่มต้น ระยะเยื่อหุ้มฟันอักเสบ และระยะเยื่อหุ้มฟันอักเสบตอนปลาย

  1. ระยะเหงือกอักเสบ ระยะนี้เป็นระยะเริ่มต้นที่จะทำให้เหงือกอักเสบ เกิดจากคราบพลัคที่ก่อตัวบริเวณรอบๆฟัน เกิดการสะสมของเชื้อแบคทีเรียมากยิ่งขึ้น จนส่งผลกระทบให้เหงือกอักเสบ ระยะนี้สามารถที่จะแก้ไขและป้องกันได้ เพียงแปรงฟันให้สะอาดในทุกวัน พร้อมกับใช้ไหมขัดฟันในบริเวณที่แปรงนั้นซอกซอนไปไม่ถึง จะช่วยลดคราบพลัคที่เป็นสาเหตุเหล่านี้ได้
  2. ระยะเยื่อหุ้มฟันอักเสบ ระยะนี้เริ่มรุนแรงมากยิ่งขึ้น กระดูกและเนื้อเยื่อบริเวณรอบๆรากฟันนั้นถูกทำลายลง จนทำให้เกิดปัญหาเหงือกร่น เมื่อเหงือกร่นแล้วจะทำให้มีพื้นที่รอบๆรากฟันเป็นโพรงและการดูและจะยากมากขึ้น เป็นแหล่งให้เกิดคราบพลัคได้ง่ายมากขึ้นตามไปด้วย ระยะนี้ต้องเข้ารับการรักษาจากทันตแพทย์ เพื่อการดูแลช่องปากให้ถูกวิธีและป้องกันไม่ให้เกิดเหงือกร่นมากขึ้นกว่าเดิม
  3. ระยะสุดท้ายของการเป็นโรคเหงือกอักเสบเรียก ระยะเยื่อหุ้มฟันอักเสบตอนปลาย ระยะนี้เนื้อเยื่อที่ช่วยพยุงฟันถูกทำลายไปหมดแล้ว ทำให้ฟันซี่นั้นเกิดการโยกและบดเคี้ยวอาหารไม่ได้ หากรักษาแล้วอาการไม่ดีขึ้น จำเป็นต้องถอนฟันซี่นั้นออกไปในที่สุด

โรคเหงือกอักเสบ ถือเป็นอีกหนึ่งโรคใกล้ตัว ที่ส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวันของเรามากพอสมควรเลยทีเดียว หากการบดเคี้ยวทำได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ การทานอาหารที่ชอบก็จะไม่ใช่เรื่องง่ายอีกต่อไป ดังนั้นหากไม่อยากสูญเสียฟันไป ควรดูแลรักษาแปรงฟันอย่างถูกวิธีให้สะอาดและไม่เกิดคราบพลัคสะสม ที่สำคัญควรพบทันตแพทย์ เพื่อเช็คสุขภาพช่องปากในทุกๆ 6 เดือน ก็จะสามารถหลีกเลี่ยงโรคนี้ไปได้

วิดีโอเพิ่มเติม :

#โรคเหงือกอักเสบ #อันตรายจากโรคเหงือก #รู้ทันโรคใกล้ตัว

โรคธาลัสซีเมียหรือโรคโลหิตจาง โรคติดต่อทางพันธุกรรม วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

โรคธาลัสซีเมียหรือโรคโลหิตจาง โรคติดต่อทางพันธุกรรม

ปัจจุบันโรคติดต่อที่ผ่านทางสารพันธุกรรมนั้นมีมากมายหลากหลายโรค และหนึ่งในนั้นคือโรคธาลัสซีเมีย ซึ่งเป็นโรคโลหิตจางแฝงที่สามารถถ่ายทอดผ่านทางสารพันธุกรรมได้ ซึ่งโรค ธาลัสซีเมีย นั้นถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่แอบแฝงไปด้วยอันตรายมากมาย สำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคนี้นั้นอาจทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆตามมาได้ในภายหลัง วันนี้เราจึงมีข้อมูลสำคัญสำหรับผู้ป่วยที่เป็นโรคธาลัสซีเมียมาฝากกัน เพื่อการปฏิบัติตัวที่ถูกต้องในการดำเนินชีวิตในปัจจุบัน สาเหตุของการเกิด โรคธาลัสซีเมีย โรคธาลัสซีเมียหรือโรคโลหิตจางแฝง เป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของสารพันธุกรรมของยีนด้อย ที่ทำให้ร่างกายสร้างเม็ดเลือดแดงที่ผิดปกติไป เม็ดเลือดแดงที่ถูกสร้างมานั้นมีปริมาณที่น้อยลงกว่าคนปกติทั่วไป อีกทั้งเม็ดเลือดแดงนั้นยังมีรูปร่างที่แตกต่างไปจากเม็ดเลือดแดงทั่วไป ทำให้เม็ดเลือดแดงนั้นแตกได้ง่าย เมื่อจำนวนเม็ดเลือดแดงน้อยส่งผลให้เกิดภาวะโลหิตจาง นั่นเอง สภาวะโลหิตจางนั้นอันตรายและร้ายแรงกว่าที่คิด สามารถทำให้เกิดโรคแทรกซ้อนอื่นๆตามมาได้มากมาย เช่น เกิดนิ่วในถุงน้ำดี มีภาวะธาตุเหล็กเกิน การทำงานของตับและหัวใจผิดปกติไป อีกทั้งยังสามารถป่วยเป็นโรคเบาหวานได้มากกว่าคนทั่วไปอีกด้วย การถ่ายทอดทางพันธุกรรมของ โรคธาลัสซีเมีย โรคธาลัสซีเมียนั้นสามารถถ่ายทอดจากแม่สู่ลูกได้ ผู้ที่มีความเสี่ยงและต้องควรระมัดระวังมากที่สุดคือหญิงที่กำลังตั้งครรภ์ เพราะโรคนี้สามารถถ่ายทอดสู่ลูกน้อยได้โดยตรง ซึ่งหากใครที่กำลังมีวางแผนสร้างครอบครัว ควรได้รับการตรวจเลือด และหากพบว่ามีความเสี่ยงในการเป็นโรคธาลัสซีเมียควรรีบปรึกษาแพทย์เพื่อวางแผนการป้องกันก่อนที่จะมีบุตรนั่นเอง ซึ่งโดยทั่วไปแล้วโรคธาลัสซีเมียนั้นพบได้สูงถึงร้อยละ 30-40 % เลยทีเดียว ดังนั้นเพื่อป้องกันความเสี่ยงที่จะเกิดกับลูกน้อยจึงควรตรวจเลือดก่อนจะวางแผนมีบุตร ดังนั้นสำหรับใครที่มีแผนจะสร้างครอบครัว สามารถเข้ารับการตรวจเลือดได้ โดยขั้นตอนแรกจะเป็นการตรวจเพื่อคัดกรอง การตรวจเพื่อคัดกรองนี้สามารถทำได้สะดวก รวดเร็ว ไม่ต้องรอผลนาน เหมาะสำหรับคนงบน้อย ซึ่งการตรวจเพื่อคัดกรองนี้มีความไวสูงที่จะทำให้ทราบว่ามีภาวะเป็นโรคธาลัสซีเมียหรือไม่ แต่ข้อเสียของการตรวจคัดกรองนี้จะไม่สามารถทราบได้ว่าเป็นธาลัสซีเมียชนิดใด แต่หากทราบผลว่า Positive จะต้องตรวจเพื่อหาชนิดของฮีโมโกลบิน ว่าคุณนั้นเป็นโรคธาลัสซีเมียชนิดใด หรือในปัจจุบันนี้ก็สามารถตรวจจากดีเอ็นเอได้เลย รวดเร็ว แม่นยำ […]

โรคธาลัสซีเมียหรือโรคโลหิตจาง โรคติดต่อทางพันธุกรรม Read More »

“มะเร็งรังไข่” โรคอันตรายใกล้ตัว ที่สาวๆต้องรู้ วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

“มะเร็งรังไข่” โรคอันตรายใกล้ตัว ที่สาวๆต้องรู้

โรคมะเร็งถือเป็นอีกหนึ่งโรคที่ร้ายแรงและพรากชีวิตของคนไทยไปมากมายนับไม่ถ้วน โรคมะเร็งนั้นเกิดจากเซลล์ร่างกายที่มีความผิดปกติ พัฒนากลายไปเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งสามารถพบได้ในทุกเพศทุกวัย และยังไม่มียาที่จะสามารถรักษาได้เฉพาะเจาะจง โรคมะเร็งนั้นสามารถพบได้หลากหลายบริเวณในร่างกาย แต่ในสำหรับเพศหญิงแล้วส่วนใหญ่ที่พบได้มากที่สุดคือโรคมะเร็งเต้านม มะเร็งปากมดลูก และมะเร็งรังไข่ที่เป็นภัยใกล้ตัว และต้องใส่ใจดูแลเป็นพิเศษ ประเภทของ โรคมะเร็งรังไข่ โรคมะเร็งรังไข่นั้นสามารถแบ่งแยกได้ทั้งหมด 3 ชนิด ดังนี้  มะเร็งเยื่อบุผิวรังไข่ ถือเป็นกลุ่มที่สามารถพบได้มากที่สุด ร้อยละ 90 ของมะเร็งรังไข่ เนื่องจากเป็นจุดเริ่มต้นของเซลล์เยื่อบุผิวรังไข่ มะเร็งฟองไข่ พบมากในผู้หญิงที่อายุน้อยกว่า 20 ปี พบได้ร้อยละ 5-10 ของมะเร็งรังไข่ มะเร็งเนื้อรังไข่ บริเวณนี้เป็นจุดผลิตฮอร์โมนของเพศหญิง ซึ่งมีโอกาสพบได้น้อยที่สุด สาเหตุของการเกิด โรคมะเร็งรังไข่ สภาพแวดล้อมภายในที่อยู่อาศัย สามารถส่งผลให้เกิดเป็นโรคมะเร็งรังไข่ได้เช่น สารเคมี อาหารที่รับประทาน ผู้หญิงที่ไม่มีบุตร จะมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งรังไข่ได้มากกว่า ผู้ป่วยที่เคยมีประวัติว่าเคยเป็นโรคมะเร็งมาแล้ว เช่น มะเร็งระบบทางเดินอาหาร มะเร็งเต้านม เป็นต้น จะมีโอกาสเกิดโรคมะเร็งรังไข่ได้มากกว่าคนทั่วไป โอกาสเสี่ยงที่จะทำให้เกิดโรคมะเร็งรังไข่ พันธุกรรม ผู้ป่วยที่ครอบครัวมีประวัติเป็นโรคมะเร็งจะมีโอกาสเสี่ยงที่ทำให้เกิดโรคมะเร็งรังไข่ได้มากกว่าคนทั่วไป อายุก็มีผล สำหรับผู้หญิงในวัยช่วง 55 ปี จะมีโอกาสเสี่ยงพบโรคมะเร็งรังไข่ ผู้ป่วยที่เคยมีประวัติเป็นโรคมะเร็งเต้านม

“มะเร็งรังไข่” โรคอันตรายใกล้ตัว ที่สาวๆต้องรู้ Read More »

คนที่ป่วยไบโพล่าร์ (Bipolar) สามารถหายได้เองหรือไม่ วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

คนที่ป่วยไบโพล่าร์ (Bipolar) สามารถหายได้เองหรือไม่

ไบโพล่าร์ หรือโรคอารมณ์สองขั้ว เกิดจากความผิดปกติทางอารมณ์ประเภทหนึ่ง ซึ่งสารเคมีภายในสมองไม่มีความสมดุล ส่งผลให้ผู้ป่วยนั้นแสดงอารมณ์ผิดปกติออกเป็นสองขั้ว คือ มีอาการซึมเศร้ารุนแรง และบางครั้งมีอารมณ์สนุก พุ่งพล่านคึกคักมากเกินไป แต่หลายคนเข้าใจผิดคิดว่าผู้ที่เป็น Bipolar จะต้องมีอาการคุ้มดีคุ้มร้าย สนุกและซึมเศร้าสลับกันไป ความจริงแล้วไม่ได้เป็นแบบนั้น มาศึกษาไปพร้อม ๆ กันเพื่อให้เกิดความเข้าใจและปฏิบัติต่อผู้ที่เป็นโรคนี้ได้อย่างถูกต้อง การสังเกตอาการว่าใครเป็นโรคไบโพล่าร์                   สาเหตุของไบโพล่าร์ มีหลายปัจจัยที่เกี่ยวข้องทั้งสารเคมีบางชนิดในสมองมีความผิดปกติ ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อสารสื่อประสาท เช่น นอร์อะดรีนาลีน เซโรโทนิน และโดปามีน อยู่ในระดับที่ไม่มีความสมดุล ส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึกโดยตรง ซึ่งบางครั้งอาจอารมณ์ดี ร่าเริง เปลี่ยนเป็นคนซึมเศร้า สลับกันไป ในส่วนของพันธุกรรมก็เป็นอีกสาเหตุหนึ่ง หากคนในครอบครัวป่วยเป็นโรคนี้หรือโรคที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ที่ผิดปกติก็ส่งผลถึงญาติพี่น้องมีความเสี่ยงที่จะเกิดโรคนี้เกิดขึ้นได้เช่นกัน อีกทั้งยังมีปัจจัยด้านอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น การได้รับความกระทบกระเทือนอย่างรุนแรงต่อสภาพร่างกายและจิตใจ การเจ็บป่วย เป็นต้น ซึ่งโดยส่วนใหญ่ผู้ป่วยจะไม่รู้ตัว คนรอบข้างสามารถสังเกตได้จากอาการของโรคมี 2 ระยะ ได้แก่                   ระยะมาเนีย (Manic Episode) จะมีอาการพุ่งพล่าน คิดเร็ว ทำเร็ว มั่นใจในตัวเองสูง นอนหลับพักผ่อนน้อย

คนที่ป่วยไบโพล่าร์ (Bipolar) สามารถหายได้เองหรือไม่ Read More »

10 พฤติกรรมทำลายสมอง เมื่อรู้แล้วหลีกเลี่ยงด่วน วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

10 พฤติกรรมทำลายสมอง เมื่อรู้แล้วหลีกเลี่ยงด่วน

สมองเป็นอวัยวะที่มีความสำคัญที่สุด ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการควบคุมและสั่งการกระบวนการทำงานต่าง ๆ ของร่างกายให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นระบบการเคลื่อนไหว การเต้นของหัวใจ การหายใจเข้าออก การรับรู้ อารมณ์ ความรู้สึก เป็นต้น เพื่อให้เราสามารถดำเนินชีวิตประจำวันได้เป็นอย่างดี อีกทั้งสมองยังทำงานตลอดเวลาอีกด้วย ดังนั้นพฤติกรรมทำลายสมองเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอวัยวะส่วนนี้เมื่อเสียไปแล้วไม่สามารถหามาทดแทนใหม่ได้ พฤติกรรมที่ควรเลี่ยง เสี่ยงทำลายสมอง                   1. ไม่ค่อยทานอาหารเช้า เนื่องจากเป็นมื้อที่สำคัญของวันและมีความจำเป็นมากในการเริ่มต้นทำกิจกรรมต่าง ๆ ในระหว่างวัน ทำให้สารอาหารที่จำเป็นไปเลี้ยงสมองไม่เพียงพอ อีกทั้งยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดโรคสมองเสื่อมได้                   2. ทานหวานจัด การทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีรสชาติหวานมากจนเกินไป จะเข้าไปขัดขวางกระบวนการดูดซึมสารอาหารและโปรตีนที่สำคัญส่งผลต่อการพัฒนาสมอง หากทานบ่อย ๆ เป็นเวลานานอาจเพิ่มความเสี่ยงที่จะทำให้เกิดเป็นโรคสมองเสื่อมได้ นอกจากนี้ยังเป็นสาเหตุของโรคเบาหวาน โรคอ้วน และโรคความดันโลหิตสูงอีกด้วย                   3. ทานอาหารแปรรูปบ่อย ๆ อาหารเหล่านี้มีส่วนผสมของน้ำตาล โซเดียม ไขมันอิ่มตัวและมีจำนวนแคลอรีจำนวนมาก เป็นพฤติกรรมทำลายสมองซึ่งส่งผลเสียโดยตรงต่อสุขภาพทำให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น โรคเบาหวาน โรคความดัน และโรคอ้วน เป็นต้น นอกจากนี้ผลการวิจัยพบว่าอาจส่งผลต่อเนื้อเยื่อสมองเสื่อมด้วย                   4. สูบบุหรี่ สารนิโคติน

10 พฤติกรรมทำลายสมอง เมื่อรู้แล้วหลีกเลี่ยงด่วน Read More »

“โรคคนแก่ในเด็ก” บุคคลร่างเล็กที่มีรูปลักษณ์เป็นผู้ใหญ่ วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

“โรคคนแก่ในเด็ก” บุคคลร่างเล็กที่มีรูปลักษณ์เป็นผู้ใหญ่

            ในชีวิตหลายคนน่าจะเคยเห็นคนรอบตัวบางคนที่อยู่ในวัยเด็กแต่กลับมีร่างกายและใบหน้าที่เหมือนคนแก่ จนอดสงสัยไม่ได้ว่าเหตุใดร่างกายของคนเหล่านี้จึงไม่ได้เติบโตตามอายุเลย วันนี้เราก็จะมาอธิบายเกี่ยวกับ “โรคคนแก่ในเด็ก” ให้คุณได้รู้กันเสียทีว่าสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับร่างกายพวกเขามากจากอะไร? ทำความรู้จักกับ “โรคคนแก่ในเด็ก”             “โรคคนแก่ในเด็ก” หรือ “โรคโพรเจอเรีย” เป็นโรคที่แสดงความผิดปกติของเซลล์ร่างกายที่แก่ตัวเร็วกว่าปกติ พบได้เพียง 1 ใน 8 ล้านคน โดย 90% ของคนปกติ  โดยลักษณะของเด็กที่ป่วยเป็นโรคนี้จะเหมือนเด็กปกติใน 10 – 24 เดือนแรก หลังจากนั้นจะเริ่มมีการเจริญเติบโตช้ามาก รูปร่างแคระแกรน  เตี้ย น้ำหนักน้อย  แก่เร็ว  ผิวหนังเหี่ยวย่น และเหนื่อยง่าย สาเหตุที่ทำให้เกิด “โรคคนแก่ในเด็ก”             “โรคคนแก่ในเด็ก” หรือ “โรคโพรเจอเรีย” ยังไม่สามารถพบสาเหตุที่แท้จริงได้ จากการวิจัยพบว่าเกิดจากความผิดปกติที่เซลล์และยีนในร่างกายที่เสื่อมวัยกว่าปกติหลายเท่า แรกเกิดอาจเป็นเพียงเด็กที่มีน้ำหนักน้อยกว่าเกณฑ์ปกติเพียงเล็กน้อย แต่การเจริญเติบโต และพัฒนาการทางร่างกาย และสมองของเด็กจะเริ่มช้าลงมากตั้งแต่วัย 1-2 ขวบโดยอาจไม่ได้มีความเกี่ยวเนื่องจากพันธุกรรมของพ่อแม่ หรืออาจมีความเป็นไปได้ที่เด็กจะได้รับยีนส์หรือสารจากโรคทางพันธุกรรมมาจากคนในตระกูลทั้งทางตรงและทางอ้อมก็ได้ แต่พวกเขาอาจจะไม่ได้รับผลกระทบการแสดงของโรคที่ออกมาสู่ร่างกาย แต่มาปรากฏกับเด็กที่เป็นลูกหลานแทน วิธีรักษา “โรคคนแก่ในเด็ก”             “โรคคนแก่ในเด็ก” หรือ

“โรคคนแก่ในเด็ก” บุคคลร่างเล็กที่มีรูปลักษณ์เป็นผู้ใหญ่ Read More »

5 โรคอันตราย ที่มีโอกาสเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

5 โรคอันตราย ที่มีโอกาสเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง

โดยเฉลี่ยแล้วผู้ชายมีอายุที่สั้นกว่าผู้หญิง เนื่องจากผู้ชายให้ความสนใจด้านสุขภาพน้อยกว่า ในขณะเดียวกันก็มีพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่มีความเสี่ยงกับการทำลายสุขภาพอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการดื่มเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ การสูบบุหรี่ ใช้ชีวิตโลดโผน และไม่คิดที่จะให้คำวามสำคัญกับการตรวจสุขภาพมากเท่าไหร่ และนี่เป็นสาเหตุว่าโรคอันตรายต่าง ๆ มีโอกาสเกิดขึ้นกับผู้ชายได้มากกว่ากว่าผู้หญิง มีโรคอะไรบ้างมาติดตามอ่านไปพร้อม ๆ กัน โรคที่พบได้บ่อย ในผู้ชายวัยกลางคนขึ้นไป                   1. โรคต่อมลูกหมากโต เป็นความผิดปกติของระบบขับถ่ายปัสสาวะ เกิดจากภาวะต่อมลูกหมากมีขนาดใหญ่ผิดปกติ และไปเบียดกับท่อปัสสาวะให้ตีบและแคบลง ทำให้ปัสสาวะลำบาก ไม่สุด อั้นไว้ไม่ได้ ปัสสาวะบ่อยและต้องลุกมาเข้าห้องน้ำในตอนกลางคืน นอกจากนี้ยังรู้สึกเจ็บปวดขณะถ่ายปัสสาวะ และอาจจะมีเลือดปนมาด้วย                   2. ฮอร์โมนเพศลดต่ำ ทำให้รู้สึกด้านทางเพศลดลง แข็งตัวไม่เต็มที่ อสุจิมีจำนวนน้อย หน้าอกโต แต่กล้ามเนื้อลีบ ไขมันมีมากขึ้น อารมณ์แปรปรวนง่าย หงุดหงิด ไม่กระฉับกระเฉง สมองทำงานอย่างไม่เต็มประสิทธิภาพ ขาดความมั่นใจ นอนไม่หลับ บางรายอาจจะเป็นโรคซึมเศร้าเกิดขึ้นด้วย ซึ่งเกิดจากร่างกายสร้างฮอร์โมนเทสโทสเตอโรน หรือฮอร์โมนเพศชายได้น้อยลง อาจ็นผลจากการที่ลูกอัณฑะเกิดการบาดเจ็บและติดเชื้อ หรืออาจจะมีความผิดปกติอื่นเกิดขึ้น เช่น เนื้องอกในต่อมใต้สมอง โรคเกี่ยวกับระบบต่าง ๆ เช่น โรคเอดส์ โรคตับ และไตเรื้อรัง

5 โรคอันตราย ที่มีโอกาสเกิดกับผู้ชายมากกว่าผู้หญิง Read More »

ตากุ้งยิง โรคใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

ตากุ้งยิง โรคใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย

ดวงตานั้นเป็นอวัยวะที่สำคัญมากในร่างกาย ต้องได้รับการดูแลและใส่ใจเป็นพิเศษ แต่ปัจจุบันนี้ก็มีโรคที่เกี่ยวข้องกับตาไม่น้อยเลยทีเดียว ไม่ว่าจะเป็น  ต้อหิน ต้อกระจก หรือรวมไปถึงโรคที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย เช่นโรคตาแดง โรคตากุ้งยิง เป็นต้น ซึ่งโรคเหล่านี้ล้วนแล้วแต่มีความเสี่ยงที่อาจจำทำให้เราสูญเสียดวงตาของเราไปได้ทั้งนั้น โรคตากุ้งยิงก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรีย ที่จะทำให้ตาของเราอักเสบบวมแดงและเป็นหนองเกิดขึ้น จำเป็นต้องได้รับการรักษาที่ถูกวิธี สาเหตุของ โรคตากุ้งยิง ตากุ้งยิง เป็นโรคที่เกิดจากการอักเสบ การติดเชื้อของแบคทีเรีย Staphylococcus sp. ทำให้บริเวณเปลือกตาอักเสบ บวมแดง เป็นตุ่มหนองเกิดขึ้น ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งในตาและนอกตา โรคตากุ้งยิงถือเป็นโรคที่ไม่ร้ายแรงอะไรมากนัก หากไม่เกิดภาวะแทรกซ้อนอะไร อาการก็สามารถหายไปเองได้ ภายใน 2-3 วัน อาการของ โรคตากุ้งยิง เปลือกตาอักเสบ บวม แดง มีตุ่มนูนคล้ายเม็ดสิวเกิดขึ้นได้ทั้งภายในและภายนอกเปลือกตา ดวงตามีมีสีแดง เกิดความรู้สึกเจ็บ ปวด มีหนองบริเวณที่อักเสบ มีน้ำตาไหลร่วมด้วย โดยโรคตากุ้งยิง นั้นสามารถเกิดขึ้นได้ทั้งภายในและภายนอกเปลือกตา หากเกิดที่บริเวณภายนอกเปลือกตา อาการอักเสบนั้นจะรุนแรงกว่าภายใน อาจเกิดเป็นตุ่มหนอง สร้างความเจ็บปวดมากขึ้นเมื่อไปสัมผัสโดน พบมากบริเวณที่เป็นรูขุมขนของเปลือกตา หากเป็นภายในเปลือกตา ส่วนมากจะพบเพียงแค่ตุ่มนูนเกิดขึ้นเท่านั้นจะเจ็บปวดน้อยกว่าภายนอก เกิดจากการอุดตันและติดเชื้อของต่อม ไมโบเมียน ที่ทำหน้าที่ ผลิตไขมันเหลว

ตากุ้งยิง โรคใกล้ตัวที่เกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัย Read More »

อาหารที่พึงหลีกเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

อาหารที่พึงหลีกเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง

          อาหารที่อุดมไปด้วยมีเนื้อแดงและเนื้อสัตว์แปรรูป เมล็ดพืชขัดสี และเครื่องดื่มชนิดหวาน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการอักเสบภายในร่างกายนั้น สามารถเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง ทั้งนี้เมื่อเทียบกับอาหารต้านการอักเสบทั้งนี้เป็นผลการศึกษาที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา และมีความสอดคล้องกับการศึกษาถึงผลดีของการรับประทานวอลนัทซึ่งเป็นอาหารต้านการอักเสบจะช่วยลดการอักเสบและความเสี่ยงโรคหัวใจ มีข้อมูลที่ยืนยันว่าการอักเสบอย่างเรื้อรังมีบทบาทสําคัญในการเกิดโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง ทั้งนี้ สิ่งบ่งชี้การอักเสบทางชีวภาพเช่น อินเตอร์ลูกินส์  คีโมกินส์ และโมเลกุลยึดเกาะ มักพบในภาวะผนังหลอดเลือดแดงแข็งตัว ทั้งระยะต้นและปลาย การศึกษาก่อนหน้านี้ระบุว่าอาหารมีอิทธิพลต่อระดับการอักเสบ โดยมีอาหารเพื่อสุขภาพบางชนิดเช่นอาหารเมดิเตอร์เรเนียน (ซึ่งอุดมไปด้วยน้ำมันมะกอก  นัท ธัญพืชทั้งเมล็ด ผลไม้ และผัก  ประกอบกับการบริโภคอาหารทะเล  แล้วรับประทานนมและเนื้อแดงน้อย) ที่มีสิ่งบ่งชี้การอักเสบทางชีวภาพในระดับต่ำ และจะมีความเสี่ยงโรคหัวใจต่ำ แต่ทว่ามีการวิจัยน้อยมากที่มุ่งเน้นไปที่ว่าการติดตามการรับประทานอาหารที่ชักนำการอักเสบในระยะยาว เพื่อพิจารณาความเกี่ยวข้องกับอัตราการเพิ่มขึ้นของโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง การศึกษาในระยะยาวเกี่ยวกับความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง          ในการศึกษา  นักวิจัยใช้บุคคลเพศชายและหญิงที่มีข้อมูลสุขภาพที่ติดตามผลนาน 32 ปี  จากนั้นตัดบุคลที่ข้อมูลอาหารขาดหายไปหรือป่วยเป็นโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง รวมถึงโรคมะเร็ง  จะเหลือจำนวนผู้เข้าร่วมมากกว่า 210,000 คน  โดยผู้เข้าร่วมจะถูกสํารวจทุก ๆ 4 ปีเพื่อตรวจสอบการบริโภคอาหาร   ทั้งนี้นักวิจัยได้พัฒนาค่าดัชนีอาหารเพื่อประเมินระดับการอักเสบที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคอาหาร และพบว่า อาหารที่มีศักยภาพก่อการอักเสบที่สูงขึ้นนั้นเกี่ยวข้องกับอัตราที่เพิ่มขึ้นของโรคหัวใจและหลอดเลือด   ซึ่งผู้เข้าร่วมที่รับประทานอาหารชักนำให้เกิดการอักเสบมีความเสี่ยงต่อโรคหัวใจสูงถึง 46% และ ความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมองสูงขึ้น 28% เมื่อเทียบกับผู้ที่บริโภคอาหารต้านการอักเสบ อาหารแนะนำเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง

อาหารที่พึงหลีกเลี่ยงเพื่อลดความเสี่ยงโรคหัวใจและโรคหลอดเลือดสมอง Read More »

ยิ่งสูงวัย ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง วิธีลดน้ำหนัก อาหารลดน้ำหนัก ปวดหัว

ยิ่งสูงวัย ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง

ร่างกายของเราก็เหมือนเครื่องจักรที่มีการใช้งานอยู่ทุกวัน โดยเฉพาะในช่วงของวัยทำงานที่มีภาระต้องรับผิดชอบมากมาย ยิ่งสูงวัยขึ้นเรื่อย ๆ ร่างกายก็จะยิ่งเสื่อมสภาพลงเรื่อย ๆ เช่นกัน ทำให้โรคร้ายต่าง ๆ เริ่มถามเข้ามามากยิ่งขึ้น ยิ่งเข้าสู่วัยชรา การทำงานของฮอร์โมน และการซ่อมแซมส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทั้งภายในและภายนอกก็จะช้าลง มาดูกันว่ายิ่งอายุมากขึ้นร่างกายจะเปลี่ยนแปลงยังไง อายุยิ่งมาก ร่างกายยิ่งเปลี่ยนแปลง                   1. ฮอร์โมนเพศผลิตน้อยลง หากเป็นผู้ชายจะเรียกว่าโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ สเปิร์มและไข่ไม่แข็งแรงทำให้การมีบุตรในช่วงนี้เป็นไปได้ยากขึ้นด้วย หากพบว่ามีผลต่อการใช้ชีวิตประจำวันควรพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ให้คำแนะนำวินิจฉัยรักษา                   2. การเผาผลาญพลังงานลดลง ทำให้เกิดโรคอ้วนได้ง่าย แม้ว่าจะทานอาหารในปริมาณเท่าเดิมก็ตาม                   3. มีความเสี่ยงเกิดโรคร้ายต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง และโรคมะเร็ง ดังนั้นเมื่อสูงวัยขึ้นควรตรวจสุขภาพเป็นประจำทุกปี และหมั่นสังเกตอาการต่าง ๆ ของร่างกายตัวเองที่เกิดขึ้นด้วย หากพบความผิดปกติควรรีบเข้าพบแพทย์ทันที                   4. การเปลี่ยนแปลงภายนอก เมื่ออายุเริ่มเข้าสู่ในช่วง 30-40 ปีขึ้นไป สิ่งที่ทุกคนต้องเจอคือสภาพของร่างกายที่เปลี่ยนไป เช่น พุงยืน ทรวดทรงต่าง ๆ เริ่มหย่อนยาน ผิวหนังเหี่ยวย่น

ยิ่งสูงวัย ร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลงยังไงบ้าง Read More »