อาหารเสริมจากธรรมชาติ กินแล้วสุขภาพดี

การออกกำลังกายมีประโยชน์หลายอย่างสำหรับสุขภาพร่างกาย นอกจากจะช่วยให้ระบบต่างๆ ของร่างกายทำงานได้อย่างเป็นปกติแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการลดน้ำหนัก และการลดสัดส่วนต่างๆ ตามที่เราต้องการได้อีกด้วย โดยเฉพาะต้นขา วิธีการลดต้นขาด้วยการออกกำลังกายก็เป็นวิธีการลดต้นขาวิธีหนึ่งที่ได้ผลดี เพราะนอกจากคุณจะมีต้นขาเรียวสวยได้อย่างต้องการแล้ว วิธีการลดต้นขาด้วยการออกกำลังกายยังช่วยทำให้คุณมีกล้ามเนื้อบริเวณต้นขากระชับขึ้นได้อีกด้วย ใครอยากรู้ลองมาดูกันดีกว่าว่าเราควรออกกำลังกายแบบไหนกันบ้าง ว่ายน้ำ การว่ายน้ำด้วยท่าฟรีสไตล์จะช่วยให้คุณสามารถลดต้นขาด้านหน้าได้ และท่าคุณว่ายท่ากบจะช่วยในการลดต้นขาด้านหลัง นอกจากนี้การว่ายน้ำยังเป็นการช่วยทำให้กล้ามเนื้อกระชับขึ้นได้อีกด้วย การวิ่ง หลายคนมักคิดว่าถ้าเราวิ่งบ่อยๆ จะทำให้กล้ามเนื้อใหญ่ขึ้นและมีกล้ามเนื้อเป็นมัดๆ แต่จริงๆ แล้วเป็นการเข้าใจผิด การวิ่งจะช่วยทำให้กล้ามเนื้อกระชับและแข็งแรงขึ้น นอกจากการวิ่งเพื่อการแข่งขันที่ต้องใช้แรงและความเร็วมากแบบนั้นถึงจะมีโอกาสทำให้กล้ามเนื้อขาใหญ่ขึ้นได้ ดังนั้นสำหรับสาวๆ ที่อยากลดต้นขาสามารถใช้วิธีการวิ่งเยาะๆ ทุกวัน วันละ 30 นาที ก็จะสามารถช่วยให้คุณมีต้นขาที่เล็กลงและกระชับขึ้นได้ การปั่นจักรยาน  เป็นการออกกำลงกายอีกวิธีที่ค่อนข้างได้รับความนิยม และทำได้ง่าย การปั่นจักรยานเราจะได้บริหารช่วงขาทั้งด้านล่างและด้านบน นอกจากจะช่วยให้ขาเรียวสวยได้แล้ว ยังช่วยให้ขาและแขนแข็งแรงอีกด้วย นอกจากนี้การปั่นจักรยานยังเป็นการออกกำลังกายอีกรูปแบบที่ช่วยให้คุณสามารถควบคุมน้ำหนักอย่างได้ผล แต่ควรปั่นในสถานที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก หรือมีไว้สำหรับปั่นจักรยานโดยเฉพาะ  โยคะ จริงๆ แล้วการเล่นโยคะมีประโยชน์หลายอย่างต่อร่างกายไม่ใช่เพียงแค่ช่วยลดต้นขาได้เท่านั้น แต่ยังป้องกันการเกิดอาการออฟฟิศซินโดรมได้เป็นอย่างดีอีกด้วย นอกจากนี้หากใครมีอาการปวดแขน ปวดขา ปวดหลัง จากการนั่งเป็นเวลานานๆ แนะนำให้คุณหันมาลองเล่นโยคะกันดู จะช่วยบรรเทาอาการต่างๆ และหายไปได้ในที่สุด การเล่นโยคะยังเหมาะสำหรับทุกเพศทุกวันอีกด้วย  ใครอยากมีต้นขาที่เล็กลงและกำลังมองหาวิธีการลดต้นขา ลองหันมาออกกำลังกายกันดูนะคะ รับรองได้เลยว่านอกจากต้นขาของคุณจะเล็กลงอย่างที่ต้องการกันแล้ว คุณจะยังมีรูปร่างที่สมส่วนขึ้นได้อีกด้วย เครดิตภาพ […]

ปัจจุบันนี้พบการเกิดโรคเบาหวานในเด็กค่อนข้างมาก และมีแนวโน้มที่จะมีมากขึ้นเรื่อยๆ ผู้ปกครองจึงควรดูแลเอาใจใส่ในเรื่องต่างๆ ของเด็ก สำหรับสาเหตุที่ทำให้เกิดโรคเบาหวานในเด็กจะได้แก่ เกิดจากพันธุ์กรรม เกิดจากสภาพแวดล้อม เกิดจากากรได้รับเชื้อไวรัสบางชนิด และการใช้ยาบางประเภท รวมไปถึงความอ้วน เป็นต้น แต่เมื่อเด็กเกิดเป็นโรคเบาหวานขึ้นแล้ว ผู้ปกครองควรเอาใจใส่ดูแลในเรื่องต่างๆ ดังนี้  1. เด็กควรได้รับยาอย่างสม่ำเสมอไม่ว่าจะเป็นยาในแบบรับประทาน หรือการฉีดอินซูลินเข้าสู่ร่างกาย เพื่อเป็นการช่วยรักษาระดับน้ำตาลในกระแสเลือดให้อยู่ในระดับปกติ 2. ควรใส่ใจในเรื่องของการรับประทานอาหาร เช่น ควรรับประทานอาหารประเภทแป้ง น้ำตาล และไขมัน ให้น้อยลง และเด็กที่เป็นโรคเบาหวานจากสาเหตุความอ้วนควรระมัดระวังในการรับประทานให้มากขึ้นเพื่อช่วยในการควบคุมน้ำหนักตัว และให้เลือกรับประทานผักและผลไม้ที่มีกากใยและเส้นสูง เพื่อช่วยให้ร่างกายสามารถเผาพลาญได้ดีขึ้น และควรรับประทานอาหารให้ครบทั้ง 3 มื้อ อาหารในแต่ละมื้อควรครบหลักโภชนาการ 5 หมู่ เพื่อให้ร่างกายได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน  3. ควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอแต่ไม่ควรหักโหมจนเกินไป และควรออกกำลังกายให้เหมาะสมสำหรับวัย เพื่อให้ร่างกายสามารถเผาพลาญพลังงานต่างๆ ได้ดี การออกกำลังกายยังช่วยให้ร่างกายสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย สำหรับการออกกำลังกายที่เหมาะสำหรับเด็กๆ เช่น การวิ่ง การเดิน ว่ายน้ำ ตีเบ็ด ถีบจักรยาน เป็นต้น  4. ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย หรือย่างน้อยวันละ 7-8 แก้ว

เครื่องดื่มทั้งที่ใช้น้ำตาลจริงและที่ใช้น้ำตาลเทียมล้วนสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้นของโรคหัวใจและหลอดเลือด  ซึ่งแสดงให้เห็นว่าน้ำตาลเทียมอาจจะไม่ใช่เลือกเพื่อสุขภาพที่ดี ตามที่มีการกล่าวอ้าง   ทั้งนี้ผลการวิจัยที่ตีพิมพ์ในวารสารวิทยาลัยโรคหัวใจแห่งอเมริกา ชี้ให้เห็นว่า ถึงแม้อาหารรวมทั้งเครื่องดื่มที่แต่งเติมรสหวานด้วยน้ำตาลจริงสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพของหัวใจและการเผาผลาญได้ แต่กับเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียมซึ่งได้รับการแนะนำให้เป็นทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพนั้น กลับไม่ทราบผลกระทบต่อสุขภาพหัวใจและหลอดเลือดอย่างชัดเจน   น้ำตาลเทียมเป็นสารที่ถูกสังเคราะห์ขึ้นมาทางวิทยาศาสตร์ และมีคุณสมบัติให้รสหวานคล้ายน้ำตาล สามารถนำมาใช้แทนน้ำตาลได้ เนื่องจากผู้บริโภคบางกลุ่มต้องการลดน้ำตาลที่เป็นสารคาร์โบไฮเดรต เพื่อควบคุมน้ำหนักหรือเป็นโรคเบาหวาน  นอกจากนั้นน้ำตาลเทียมยังใช้ลดต้นทุนการผลิต เนื่องจากราคาน้ำตาลในตลาดมีราคาสูง และบาครั้งก็ขาดตลาด ทั้งนี้ ราคาน้ำตาลเทียมจะต่ำกว่าน้ำตาลมากจึงหันมาใช้สารให้ความหวานประเภทน้ำตาลเทียมแทน  รวมทั้งใช้รักษาคุณภาพอาหารเมื่อเก็บไว้นาน นอกจากนั้น ยังใช้ในส่วนผสมของผลิตภัณฑ์บางชนิดที่ไม่ใช่อาหารเพื่อให้มีรสหวาน เช่น ยา ยาสีฟัน เป็นต้น การเปรียบเทียบระหว่างเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียมกับที่ใช้น้ำตาลจริง นักวิจัยได้ศึกษาข้อมูลที่ได้จากผู้เข้าร่วม 104,760 คน แล้วนำมาตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างความเสี่ยงของโรคหัวใจและหลอดเลือดกับการบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลและเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลเทียม  โดยผู้เข้าร่วมการทดสอบถูกขอให้กรอกข้อมูลการบริโภคอาหารตลอด 24 ชั่วโมง  โดยจะมีการตรวจสอบสามครั้งทุกหกเดือน เครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียมถูกกำหนดให้เป็นเครื่องดื่มที่ใช้สารให้ความหวานที่ไม่มีคุณค่าทางโภชนาการ ส่วนเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลแท้จะเป็นเครื่องดื่มที่มีน้ำตาล 5% ขึ้นไป  การปรากฎโรคหัวใจและหลอดเลือดกับผู้ดื่มเครื่องดื่มที่ใช้น้ำตาลเทียม ระหว่างการติดตามผลตั้งแต่ปี 2552-2562  นักวิจัยพบว่ามีผู้เข้ารับการทดสอบเกิดภาวะโรคหัวใจและหลอดเลือด  ซึ่งถูกวิเคราะห์ให้เป็นโรคหลอดเลือดสมอง  ภาวะสมองขาดเลือดชั่วคราว ภาวะกล้ามเนื้อหัวใจตาย  โรคหลอดเลือดหัวใจเฉียบพลัน  และการผ่าตัดเปลี่ยนหลอดเลือด โดยมีผู้เข้าร่วม 1,379 คน มีกรณีโรคหัวใจและหลอดเลือดเป็นครั้งแรก เมื่อเทียบกับผู้ที่ไม่ได้ดื่ม  

สำหรับคนที่ออกกำลังกายด้วยการวิ่งมาระยะหนึ่งแล้ว ก็ต้องอยากที่จะมีเป้าหมายใหม่ ๆ เพิ่มมากขึ้น นั่นก็คือ การเป็นนักวิ่งมาราธอน ซึ่งบางคนก็กลัวกันว่าจะทำได้ไม่ไหว จึงไม่กล้าที่จะลงมือทำ แต่ก็บอกเลยครับว่าอย่าไปกลัว ถ้าใจต้องการแล้ว การก้าวไปสู่เป้าหมาย อาจจะเป็นช่วงเวลาที่เราทำแล้วมีความสุขมาก ๆ ก็ได้ เพราะฉะนั้นก็ทำมันซะ ไม่มีคำว่าสายหรอกครับ แค่กายพร้อมใจพร้อมเราก็สามารถทำได้แล้ว ของอย่างนี้มันอยู่ที่ใจใช่เงินทอง เพราะการวิ่งมาราธอนทุกคนเท่าเทียมกัน อยากจะมีสุขภาพดีใช้เงินอย่างเดียวมีไม่ได้นะครับ ต้องลงมือทำ  การเตรียมตัวสำหรับการเป็นนักวิ่งมาราธอน  สำหรับการวิ่งมาราธอนนั้นเราก็ต้องเตรียมตัวกันก่อน มาดูกันดีกว่าจะต้องเตรียมตัวกันอย่างไรบ้าง  1 การตรวจสุขภาพ แน่นอนครับว่าเราไม่รู้เลยว่าการวิ่งมาราธอนนั้นจะมีความเสี่ยงต่อตัวเรามากมายแค่ไหน หากเตรียมความพร้อมเอาไว้ก่อน ก็น่าจะดีกว่า เพราะมันอาจะมีความเสี่ยงที่เราได้ตรวจพบเจอก่อนลงแข่งขัน ก็จะทำให้เราถอนตัวได้ทัน อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงเลยครับ หรือ เราอาจจะตรวจพบว่าร่างกายเราพร้อมมาก ๆ  ก็จะทำให้เราสามารถวิ่งมาราธอนได้อย่างเต็มที่แบบสุด ๆ ใครก้อย่ามาขวางทางกันเลย  2 การเช็คประวัติทางด้านสุขภาพของญาติ อ้าวมันจะเกี่ยวอะไรเนี่ย หลาย ๆ คนคงจะเกิดคำถามขึ้นภายในใจ แต่จากการศึกษาของสถาบันที่ประเทศเดนมาร์ก พบว่า หากพบว่าญาติของเราเสียชีวิต ก่อนวัย 60 ด้วยโรคหัวใจ มันมีโอกาสที่จะส่งผลมาสู่รุ่น ๆ ลูกหลานได้ด้วยครับ เพราะฉะนั้นอะไรที่ไม่ควรเสี่ยงก้ปลอดภัยไว้ดีที่สุดดีกว่า  3

ทราบกันไหมค่ะว่า ถ้าร่างกายเรามีอาการผิดปกติเกิดขึ้น หรือแตกต่างไปจากเดิม นั่นแสดงว่าเขาส่งสัญญาณบางอย่างให้เราทราบกันแล้วว่า อาจมีอะไรเกิดขึ้นกับสุขภาพของเรา อย่างเช่นอาการต่อไปนี้ หากคุณกำลังเป็นอยู่ หรือคนใกล้ชิดในครอบครัว ให้รีบไปพบแพทย์ เพื่อตรวจหาสาเหตุจะเป็นวิธีที่ดีที่สุด จะมีอาการอะไรบ้างนั้นลองตามไปดูกันนะคะ   1. มีผมร่วงมาก อาจเกิดจาก ต่อมไทรอยด์ผิดปกติ โดยทั่วไปแล้วเส้นผมของคนเราจะร่วงประมาณวันละ 50-100 เส้น หากมากไปกว่านี้จะถือว่าผิดปกติ ซึ่งเราอาจจะไม่ต้องถึงขนาดนับแต่ให้กะปริมาณเอา  2. ตาเหลือง อาจเกิดจาก โรคตับ รวมถึงถุงน้ำดีผิดปกติ หากเป็นจุดสีออกเหลืองที่หัวตา แสดงว่าร่างกายมีคอเลสเตอรอลสูง ถ้ามีสีแดงปน อาจเกิดจากอาการอักเสบ และการระคายเคือง รวมไปถึงติดเชื้อบางชนิด 3. มีริ้วรอยร่องลึกบนใบหน้า อาจเกิดจาก โรคกระดูกพรุน 4. ริมฝีปากแห้งเป็นขุย แม้ไม่ใช่วันที่มีอากาศหนาว อาจเกิดจาก โรคภูมิแพ้ และโจเกรน (หนึ่งในโรคแพ้ภูมิตัวเอง) 5. มีกลิ่นปาก ปากเหม็น อาจเกิดจาก ฟันผุ เหงือกอักเสบ โรคหัวใจ และกระดูกผิดปกติ 6. ผื่นผีเสื้อขึ้นบนใบหน้า อาจเกิดจาก โรคแพ้ภูมิคุ้มกันตัวเอง (โรคพุ่มพวง)

สำหรับผู้ที่รักสุขภาพจะดูแลสุขภาพเป็นอย่างดี ทั้งเรื่องอาหารการกินและ การออกกำลังกาย สำหรับอาหารทานเล่นที่เป็นที่นิยมสำหรับผู้ที่รักสุขภาพ ก็คือถั่วอัลมอนด์ เพราะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงและยังเป็นประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วย นอกจากจะมีผลต่อสุขภาพแล้วทางด้านความงามก็ยังมีการสกัดเอาสารที่เรียกว่าน้ำมันอัลมอนด์มาเป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางต่างๆอีกด้วย เห็นไหมคะว่าอัลมอนด์มีประโยชน์หลายอย่างที่ดีต่อสุขภาพจึงไม่แปลกใจเลยว่าทำไมถั่วอัลมอนด์จึงเป็นที่ในหมู่ของผู้ที่รักสุขภาพ ซึ่งถั่วอัลมอนด์จะมีรสชาติที่มีทั้งหวานและขมแล้วแต่สายพันธุ์ สามารถนำมาเป็นส่วนประกอบของอาหารหรือเป็นอาหารทานเล่นเอง  ประโยชน์จากอัลมอนด์ อัลมอนด์มีประโยชน์มากมายหลายอย่างที่ดีต่อสุขภาพ การรับประทานอัลมอนด์จะส่งผลที่ดีต่อสุขภาพดังนี้ช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองเพราะในอัลมอนด์จะมีไรโบฟลาวินและแอลคาร์นิทีนซึ่งเป็นสารอาหารที่สำคัญต่อระบบประสาทและสมองการรับประทานอัลมอนด์จะช่วยในเรื่องของการกระตุ้นการทำงานของระบบประสาทและสมอง แล้วยังมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกำจัดอนุมูลอิสระป้องกันการเกิดโรคหัวใจและเกิดภาวะหัวใจล้มเหลวหรือหัวใจวายเฉียบพลันช่วยบำรุงผิวพรรณและลดริ้วรอยน้ำมันอัลมอนด์สามารถใช้กับผิวทารกได้เพราะไม่มีความระคายเคืองมีความอ่อนโยนหรืออาจจะใช้ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือด และยังเหมาะสำหรับผู้ที่ควบคุมน้ำหนักเนื่องจากอัลมอนด์มีไขมันดีจะช่วยในการกระตุ้นการเผาผลาญไขมันดีจะช่วยในการดูดซึมอาหารให้ดียิ่งขึ้น อัลมอนด์ยังช่วยทำให้ลำไส้แข็งแรงเพราะมีพรีไบโอติกและยังป้องกันการเกิดมะเร็งได้อย่างเช่นมะเร็งเต้านมและมะเร็งลำไส้มีไฟเบอร์สูงป้องกันการท้องผูก จะเห็นได้ว่าอัลมอนด์มีประโยชน์ต่อร่างกายอย่างมาก อัลมอนด์สามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลายเมนูทั้งอาหารหลักและเมนูทานเล่นเพราะนอกจากจะมีคุณค่าทางโภชนาการสูงแล้วยังเต็มไปด้วยไฟเบอร์โปรตีนวิตามินและแร่ธาตุต่างๆที่จำเป็นต่อร่างกายมากมายเอาม้วนจึงถือเป็นพืชตระกูลถั่วที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูงนั่นเอง อัลมอนด์ก็มีทั้งข้อดีและข้อเสีย ถึงแม้ว่าอัลมอนด์จะมีประโยชน์ที่ดีต่อร่างกาย แต่ก็มีข้อยกเว้นสำหรับผู้ที่แพ้ถั่วเพราะ อัลมอนด์ จัดเป็นพืชตระกูลถั่วจึงไม่เหมาะสำหรับผู้ที่แพ้ถั่วนั่นเองนอกจากนี้อัลมอนด์ที่มีรสขมไม่เหมาะสำหรับสตรีมีครรภ์และสตรีที่ให้นมบุตรเพราะรสขมจะเป็นพิษต่อลูกในครรภ์นั่นเองสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคไตก็ไม่ควรรับประทานอัลมอนด์ เช่นกันเพราะจะทำให้อาการรุนแรงขึ้น เนื่องจากอัลมอนด์ มีไฟเบอร์สูง การรับประทานมากเกินไปไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพแน่นอนเพราะอาจจะทำให้ท้องผูกหรือท้องเสียได้ถึงแม้ว่าอัลมอนด์ จะมีประโยชน์แต่ก็ยังมีผลเสียเช่นกันการเลือกรับประทานควรรับประทานแค่พอเหมาะไม่มากจนเกินไปเพื่อสุขภาพที่ดีของเราค่ะ  เครดิตภาพ : my-best.in.th, maanow.com #อัลมอนด์ #สุขภาพดี #อาหารเสริม

ปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นโรคเบาหวานเพิ่มมากขึ้น โดยเฉพาะโรคเบาหวานในเด็ก โรคเบาหวานเป็นโรคที่เกิดจากความผิดปกติของร่างกายที่ไม่สามารถผลิตอินซูลินออกมาได้พอเพียงต่อความต้องการ อินซูลินจะมีหน้าที่ในการควบคุมน้ำตาลในกระแสเลือดให้อยู่ในระดับปกติ โดยการนำน้ำตาลไปใช้ตามส่วนต่างๆ ของร่างกายในรูปแบบของพลังงาน สำหรับโรคเบาหวานเราสามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิด ได้แก่  ชนิดของโรคเบาหวาน  1. ชนิดที่ต้องพึ่งอินซูลิน เป็นโรคเบาหวานที่ร่างกายไม่สามารถผลิตอินซูลินได้เลย สาเหตุส่วนใหญ่จะเกิดจากพันธุกรรม  2. ชนิดที่ไม่ต้องพึ่งอินซูลิน โรคเบาหวานชนิดนี้ร่างกายยังสามารถผลิตอินซูลินได้บ้าง มักจะเกิดจากโรคอ้วน หรือการใช้ยาบางชนิด   สาเหตุของการเกิดโรคเบาหวานในเด็ก – เกิดจากพันธุกรรม โดยมีประวัติบุคคลในครอบครัวป่วยเป็นโรคเบาหวาน  – เกิดจากความอ้วน เด็กที่มีน้ำหนักตัวเกินกว่าปกติมักมีแนวโน้มและความเสี่ยงในการเกิดโรคเบาหวาน  – การใช้ยาบางชนิด เช่น ยาสเตียรอยด์ รวมถึงการได้รับเชื้อไวรัส จะมีผลทำให้ประสิทธิภาพการทำงานของตับอ่อนแย่ลง   วิธีการป้องกันการเกิดโรคเบาหวานในเด็ก  โรคเบาหวานชนิดที่ 2 ในปัจจุบันเป็นโรคเบาหวานที่พบมากที่สุดในเด็ก และมีแนวโน้มว่าอาจจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคต ดังนั้นเราจึงควรหาวิธีการป้องกันการเกิดโรคเบาหวานในเด็กกันตั้งแน่เนิ่นๆ  สำหรับวิธีการป้องกันการเกิดโรคเบาหวานจะได้แก่  1. ควบคุมน้ำหนักไม่ให้เกินกว่ามาตรฐานที่กำหนด สำหรับเด็กคนไหนที่มีน้ำหนักตัวมากเกินกว่าปกติคุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกทำการลดน้ำหนัก เพราะความอ้วนจะทำให้เกิดการสะสมไขมันตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย เมื่อมีไขมันมากกว่าปกติ จะทำให้อินซูลินทำงานได้ไม่เต็มที่ หรือที่เรียกว่าเกิดภาวะดื้ออินซูลินขึ้นได้  2. ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้ร่างกายได้เผาพลาญพลังงานได้อย่างเต็มที่ การออกกำลังกายยังช่วยให้ร่างกายสามารถสร้างภูมิคุ้มกันโรคต่างๆ ได้ดีขึ้นอีกด้วย  3.

ดอกชบาดอกไม้สีสันสดใส ที่น่าชวนมองสามารถพบได้ตามบ้านทั่วไป แต่เชื่อหรือไม่ว่า ดอกชบาสามารถนำมาทำเป็นชาดื่มได้ด้วยนะคะ แม้ว่าชาดอกชบานีนี้อาจยังไม่คุ้นกันหรือยังไม่ค่อยเป็นที่นิยมโดยทั่วไป แต่ชาดอกชบานี้ได้รับความนิยมมากในกลุ่มผู้ที่รักสุขภาพนะคะ เพราะด้วยชาดอกชบานี้มากไปด้วยประโยชน์ต่อสุขภาพหลายประการ วันนี้จึงอยากนำประโยชน์ของชาดอกชบามาเล่าสู่กันฟังคะ ว่าชาดอกชบานี้มีประโยยช์ต่อสุขภาพอย่างไร  รู้จักกับ ชาดอกชบากัน ชาดอกชบา เป็นชาที่ได้จากการนำดอกชบาแห้งบดหยาบมาชงในน้ำร้อน สีที่ได้จะมีสีที่แดงที่ค่อนข้างเข้ม มีรสชาติหวาน ๆ เปรี้ยว ๆ คล้ายกับน้ำกระเจี๊ยบ ดื่มแล้วจะรู้สึกสดชื่น และดับกระหายน้ำได้ สามารถทำเป็นได้ทั้งเครื่องดื่มร้อนและเย็น  ดอกชบานั้นไม่ใช่เป็นเพียงแต่ดอกไม้ที่สวยงาม ทำได้แค่ชา แต่ยังสามารถนำมาเป็นส่วนประกอบในอาหารได้อีกด้วย มักพบได้ในประเทศอินเดียว และยังเป็นยาสมุนไพรที่ใช้บรรเทาและรักษาโรคต่าง ๆ ได้อีกด้วย  ชาดอกชบากับประโยชน์เพื่อสุขภาพ ช่วยลดความดันโลหิต การที่ดื่มชาดอกชบาเป็นประจำจะช่วยทำให้ลดระดับความดันของเลือดได้ ทำให้ลดความเสี่ยงที่จะเกิดโรคความดันโลหิตสูงได้ อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ชาดอกชบาช่วยให้ป้องกันการเกิดความเสื่อมโทรมของเซล์ในร่างกาย ลดการอักเสบ และความผิดปกติที่อาจจะเกิดความผิดปกติของเซลล์ในร่างกายด้วย  ช่วยลดคอเรสเตอรอล การดื่มชาดอกชบายังช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเลือดได้ ทำให้ลดโอกาสที่จะเกิดโรคหัวใจได้ ข้อควรระวัง ถึงชาดอกชบานั้นจะมีประโยชน์ต่อร่างกายมาก แต่การดื่มชาดอกชบาก็ยังมีสิ่งที่ต้องระวังเหมือน ๆ กับการดื่มชาสมุนไพรชนิดอื่น ด้วยเช่น การที่ดื่มชาดอกชบา อาจส่งผลต่อการทำงานของยาบางชนิดได้ เช่นยาลดความดัน จนทำให้เกิดภาวะความดันโลหิตต่ำได้  ในชาดอกชบามีสารที่คล้ายกับฮอร์โมนประเภทเอสโตรเจน สำหรับหญิงที่ทานยาคุม ถ้าเมื่อดื่มเป็นประจำก็อาจทำให้ประสิทธิภาพของยาคุมลดลงได้  ฉะนั้นก่อนที่คุณจะดื่มชาสมุนไพร ก็ควรที่จะศึกษาถึงประโยชน์รวมถึงผลเสียด้วยนะคะ